ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 4/2565 และผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 5/2565
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 16 February 2022 17:06
- Hits: 8060
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 4/2565 และผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 5/2565
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ (คกง.) ในคราวประชุมครั้งที่ 4/2565 เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 และผลการพิจารณาของ คกง. ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564) ในคราวประชุมครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ดังนี้
1. ผลการพิจารณาของ คกง. ในคราวประชุมครั้งที่ 4/2565
1.1 เห็นชอบให้สถาบันวิทยาลัยชุมชนเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการเสริมศักยภาพสมาชิกสหกรณ์ผู้ทำนาเกลือทะเล (เกษตรกรนาเกลือ) (โครงการเกษตรนาเกลือ) โดยขยายเวลาดำเนินโครงการเป็นสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2565 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดหนักของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมทั้งเห็นควรให้ความเห็นชอบให้สถาบันวิทยาลัยชุมชนสามารถถัวเฉลี่ยค่าใช้จ่ายของโครงการเกษตรนาเกลือภายใต้กรอบวงเงินโครงการเกษตรนาเกลือ เพื่อให้สามารถจัดหาครุภัณฑ์ที่ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายที่ได้มาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งจะช่วยให้โครงการเกษตรนาเกลือเป็นต้นแบบแก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนอื่นๆ ต่อไปได้ตามวัตถุประสงค์ที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
1.2 เห็นชอบให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (มทร.ตะวันออก) เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการแปลงใหญ่กระบือชลบุรีครบวงจร (โครงการแปลงใหญ่ กระบือฯ) โดยขยายเวลาดำเนินโครงการเป็นสิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว
1.3 เห็นชอบให้จังหวัดกระบี่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดลำพูน และจังหวัดตากเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ/ยกเลิกโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากระบาดการของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 (พระราชกำหนดฯ กู้เงินฯ พ.ศ. 2563) ตามข้อ 1 (2) ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว
1.4 มอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการ ตามข้อ 1.1 - 1.3 เร่งแก้ไขข้อมูลโครงการในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ (Electronic Monitoring and Evaluation System of National Strategy and Country Reform : eMENSCR) (ระบบ eMENSCR) ให้สอดคล้องกับการปรับปรุงรายละเอียดของโครงการโดยเร็ว พร้อมทั้งเร่งดำเนินโครงการฯ ให้แล้วเสร็จและปฏิบัติตามข้อ 19 และข้อ 20 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากกระระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 พ.ศ. 2563 ต่อไป (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี กู้เงินฯ พ.ศ. 2563) รับความเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของ คกง. ไปดำเนินการโดยเคร่งครัดต่อไป
2. ผลการพิจารณาของ คกง. ภายใต้พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 5/2565
2.1 อนุมัติให้นำวงเงินกู้เพื่อการตามมาตรา 5 (3)1 มาใช้เพื่อการตามมาตรา 5 (1)2 เพิ่มเติม (ครั้งที่ 3) จำนวน 5,700 ล้านบาท เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาระบาดของโรคโควิด 19
2.2 อนุมัติโครงการในส่วนของการจัดหาครุภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการรองรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง (ผู้ป่วยสีเหลือง สีแดง) ที่เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลเป็นหลักและสอดคล้องกับแนวทาง/รูปแบบการรักษาผู้ป่วยในปัจจุบัน จำนวน 17 โครงการ กรอบวงเงินรวม 5,731.3133 ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงานหรือโครงการกลุ่มที่ 1 ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564
2.3 อนุมัติโครงการบริหารจัดการนำส่งผู้ป่วยโรคโควิด 19 เพื่อเป็นค่าชดเชยปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษระดับพื้นฐานของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) (2-A013) (โครงการบริหารจัดการนำส่งผู้ป่วยโรคโควิด 19 ของ สพฉ.) จำนวน 5 เดือน กรอบวงเงิน 37.5 ล้านบาท (ปรับลดจาก 76.752 ล้านบาท) พร้อมทั้งมอบหมายให้ สพฉ. ดำเนินการจัดทำบัญชีแยกค่าใช้จ่ายในการนำส่งผู้ป่วยโรคโควิด 19 และค่าใช้จ่ายในการนำส่งผู้ป่วยจากโรคอื่นๆ ที่เบิกจ่ายผ่านกองทุนการแพทย์ฉุกเฉินให้ชัดเจน เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
2.4 มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบตามข้อ 2.2 (1) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการตามข้อ 2.2 และ สพฉ. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการตามข้อ 2.3 ดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) สามารถจัดหาเงินกู้เพื่อใช้จ่ายโครงการตามแผนการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อ 15 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 พ.ศ. 2564 (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี กู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564) ทั้งนี้ หน่วยงานรับผิดชอบต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 รวมทั้งกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอนโดยเคร่งครัด รวมทั้งต้องดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์/เบิกจ่ายเงินกู้ให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2565
2.5 มอบหมายให้ส่วนราชการที่จะจัดทำข้อเสนอโครงการที่เกี่ยวกับการจัดหาวัสดุและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อขอรับการสนับสนุนเงินกู้ตามพระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในระยะต่อไป ต้องจัดทำรายงานแสดงจำนวนครุภัณฑ์ที่มีในปัจจุบัน ทั้งที่อยู่ระหว่างจัดหาและที่ต้องการจัดหาเพิ่มเติม เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของ คกง. ภายใต้พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ซึ่งจะช่วยให้การพิจารณาข้อเสนอโครงการเป็นไปอย่างรอบคอบและเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ หากหน่วยงานไม่ได้ดำเนินการดังกล่าวจะถือว่าข้อเสนอโครงการไม่สมบูรณ์เพียงพอสำหรับการพิจารณากลั่นกรองข้อเสนอโครงการ
2.6 อนุมัติให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเยียวยาผู้ประกันตน ในกิจการสถานบันเทิงและผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ (โครงการเยียวยากิจการสถานบันเทิง) ดังนี้ (1) ปรับเพิ่มจำนวนกลุ่มเป้าหมายผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ของโครงการเยียวยากิจการสถานบันเทิง จากเดิม 110,669 คน เป็น 138,669 คน (เพิ่มขึ้น 28,000 คน) และ (2) ปรับเพิ่มกรอบวงเงินของโครงการเยียวยา กิจการสถานบันเทิง จากเดิม 607.1550 ล้านบาท เป็น 747.1150 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 140 ล้านบาท) เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มผู้ประกันตนและผู้ประกอบอาชีพอิสระในสถานบันเทิงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว พร้อมทั้งมอบหมายให้ สปส. เร่งแก้ไขข้อมูลโครงการในระบบ eMENSCR ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีโดยเร็วและดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามที่กำหนดไว้
2.7 อนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของนิสิตนักศึกษา ในสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐและเอกชน (โครงการมาตรการการลดภาระฯ) โดยขยายระยะเวลาโครงการมาตรการการลดภาระฯ จากเดิมสิ้นสุดเดือนมกราคม 2565 เป็น เดือนมีนาคม 2565 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว พร้อมทั้งมอบหมายให้ สป.อว. เร่งแก้ไขข้อมูลโครงการในระบบ eMENSCR ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว และดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามที่กำหนดไว้
___________________________
1 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19
2 เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคโควิด 19
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 15 กุมภาพันธ์ 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A2417