รายงานสถานการณ์การส่งออกของไทย เดือนพฤศจิกายน 2564
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Thursday, 03 February 2022 22:08
- Hits: 4113
รายงานสถานการณ์การส่งออกของไทย เดือนพฤศจิกายน 2564
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์การส่งออกของไทย เดือนพฤศจิกายน 2564 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
สาระสำคัญ และข้อเท็จจริง
1. สรุปสถานการณ์การส่งออกของไทย เดือนพฤศจิกายน 2564
การส่งออกของไทยในเดือนพฤศจิกายน 2564 มีมูลค่า 23,647.9 ล้านเหรียญสหรัฐ (783,425 ล้านบาท) ขยายตัวร้อยละ 24.7 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวร้อยละ 18.9 การเติบโตอย่างแข็งแกร่งนี้ ได้รับแรงหนุนจากการดำเนินงานตามแผนส่งเสริมการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และการฟื้นตัวของภาคการค้าโลกที่เป็นไปอย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ การส่งออก 11 เดือนแรก (มกราคม–พฤศจิกายน) ของปี 2564 ขยายตัวร้อยละ 16.4 เมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวร้อยละ 19.4
มูลค่าการค้ารวม
มูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนพฤศจิกายน 2564 การส่งออก มีมูลค่า 23,647.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 24.7 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 22,629.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 20.5 ดุลการค้าเกินดุล 1,018.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาพรวมการส่งออก 11 เดือนแรกของปี 2564 การส่งออก มีมูลค่า 246,243.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 16.4 การนำเข้า มีมูลค่า 242,315.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 29.4 ดุลการค้า 11 เดือนแรก เกินดุล 3,927.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนพฤศจิกายน 2564 การส่งออก มีมูลค่า 783,424.6 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 33.5 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 759,679.4 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 28.9 ดุลการค้าเกินดุล 23,745.2 ล้านบาท ภาพรวมการส่งออก 11 เดือนแรกของปี 2564 การส่งออก มีมูลค่า 7,731,390.8 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 17.5 การนำเข้า มีมูลค่า 7,715,844.9 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 30.8 ดุลการค้า 11 เดือนแรก เกินดุล 15,545.9 ล้านบาท
การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร
มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 17.3 (YoY) ขยายตัวต่อเนื่อง 12 เดือน สินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง แห้ง กระป๋องและแปรรูป ขยายตัวร้อยละ 34.5 (ขยายตัวในตลาดจีน สหรัฐฯ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ขยายตัวร้อยละ 48.6 (ขยายตัวในตลาดจีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์) ยางพารา ขยายตัวร้อยละ 23.5 (ขยายตัวในตลาดจีน สหรัฐฯ อินเดีย ตุรกี และเกาหลีใต้) น้ำตาลทราย ขยายตัวร้อยละ 74.0 (ขยายตัวในตลาดอินโดนีเซีย กัมพูชา เกาหลีใต้ แทนซาเนีย และจีน) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ขยายตัวร้อยละ 0.3 (ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น อียิปต์ ออสเตรเลีย ลิเบีย และแคนาดา) อาหารสัตว์เลี้ยง ขยายตัวร้อยละ 25.9 (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ มาเลเซีย ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และอินเดีย) สินค้าที่หดตัว ได้แก่ ข้าว หดตัวร้อยละ 8.7 (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ จีน แอฟริกาใต้ และฮ่องกง แต่ขยายตัวดีในตลาดโมซัมบิก อังโกลา กานา อิรัก และเยเมน) ไก่แปรรูป หดตัวร้อยละ 0.7 (หดตัวในตลาดญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ แต่ขยายตัวในตลาดเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี และฮ่องกง) เครื่องดื่ม หดตัวร้อยละ 4.2 (หดตัวในตลาดกัมพูชา เมียนมา และจีน แต่ขยายตัวในตลาดเวียดนาม ลาว และสิงคโปร์) สุกรสดแช่เย็นแช่แข็ง หดตัวร้อยละ 77.2 (หดตัวในตลาดฮ่องกง ลาว และกัมพูชา แต่ขยายตัวในตลาดเมียนมา) 11 เดือนแรกของปี 2564 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 15.1
การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม
มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 23.1 (YoY) ขยายตัวต่อเนื่อง 9 เดือน สินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ขยายตัวร้อยละ 72.9 (ขยายตัวในตลาดจีน เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินเดีย) รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 12.0 (ขยายตัวในตลาดออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเม็กซิโก) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 19.9 (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ จีน เนเธอร์แลนด์ มาเลเซีย และญี่ปุ่น) แผงวงจรไฟฟ้า ขยายตัวร้อยละ 26.7 (ขยายตัวในตลาดฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน และฟิลิปปินส์) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล ขยายตัวร้อยละ 8.9 (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย) อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัวร้อยละ 24.9 (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ อินเดีย เยอรมนี สหราชอาณาจักร และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 21.4 (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ อินเดีย ฝรั่งเศส สิงคโปร์ และเบลเยี่ยม) เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ ขยายตัวร้อยละ 51.9 (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น เวียดนาม อินเดีย และ อินโดนีเซีย) สินค้าที่หดตัว ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง หดตัว ร้อยละ 2.3 (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ออสเตรเลีย และเวียดนาม แต่ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ จีน เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย) เครื่องซักผ้า เครื่องซักแห้งและส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ 10.6 (หดตัวในตลาดญี่ปุ่น สหรัฐฯ เวียดนาม ออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย แต่ขยายตัวในตลาดเกาหลีใต้ มาเลเซีย ชิลี และไต้หวัน) เครื่องตัดต่อและป้องกันวงจรไฟฟ้า หดตัวร้อยละ 6.4 (หดตัวในตลาดญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง มาเลเซีย และเวียดนาม แต่ขยายตัวได้ดีในตลาดสหรัฐฯ อินโดนีเซีย และสิงคโปร์) 11 เดือนแรกของปี 2564 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 15.2
ตลาดส่งออกสำคัญ
การส่งออกไปยังตลาดสำคัญขยายตัวในเกณฑ์สูงเกือบทุกตลาด ตามอุปสงค์จากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สรุป ดังนี้ 1) ตลาดหลัก ขยายตัวร้อยละ 23.3 โดยขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ร้อยละ 20.5 จีน ร้อยละ 24.3 อาเซียน (5) ร้อยละ 55.1 CLMV ร้อยละ 10.0 และ สหภาพยุโรป (27) ร้อยละ 30.2 ขณะที่ ญี่ปุ่น หดตัวเล็กน้อยร้อยละ 0.1 2) ตลาดรอง ขยายตัวร้อยละ 26.0 ขยายตัวในตลาด เอเชียใต้ ร้อยละ 66.0 ทวีปออสเตรเลีย ร้อยละ 9.4 ตะวันออกกลาง ร้อยละ 40.7 ทวีปแอฟริกา ร้อยละ 18.4 ลาตินอเมริกา ร้อยละ 33.8 และรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS ร้อยละ 27.3 และ 3) ตลาดอื่นๆ ขยายตัวร้อยละ 125.1
2. การส่งออกปี 2564 และแนวโน้มปี 2565
การส่งออกทั้งปี 2564 คาดว่าจะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 16.0 มีมูลค่าประมาณ 268,300 ล้านเหรียญสหรัฐ สร้างรายได้เข้าประเทศได้มากกว่า 8.5 ล้านล้านบาท จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจการค้าโลก การเร่งกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง และการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญ ช่วยเพิ่มอุปสงค์ ส่งผลดีต่อการส่งออกตลอดทั้งปี สำหรับการส่งออกปี 2565 คาดว่าจะยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2564 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก (1) การขยายตัวของเศรษฐกิจและการนำเข้าของประเทศคู่ค้า (2) ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง (3) ราคาน้ำมันดิบดูไบยังทรงตัวในระดับสูง (4) ราคาสินค้าวัตถุดิบที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมยังคงขยายตัว (5) จำนวนตู้คอนเทนเนอร์ และเรือขนส่งจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 (6) การควบคุมไวรัสโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ และ (7) ความตกลง RCEP มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 1 กุมภาพันธ์ 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A2049