แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 18 January 2022 22:15
- Hits: 9785
แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ปัญหาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำและแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำเพื่อให้ คค. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
คค. รายงานว่า คค. โดยกรมเจ้าท่า ได้ดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับสิ่งล่วงล้ำลำน้ำของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และแผนบูรณาการมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับสิ่งล้วงล้ำลำน้ำ สรุปผลการดำเนินการได้ ดังนี้
1. ความคืบหน้าการดำเนินการ
1.1 จัดทำโครงการสำรวจจัดทำแผนที่และรายละเอียดสิ่งปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำทั่วประเทศ โดยการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และจำแนกสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่ได้รับอนุญาตและที่ไม่ได้รับอนุญาต เพื่อนำมากำหนดแนวเขตทางน้ำให้มีความชัดเจนรวมทั้งเป็นมาตรการในการควบคุมและป้องกันการปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำโดยผิดกฎหมาย ทั้งนี้ มีการดำเนินการ 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อปี 2563 ระยะที่ 2 อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยมีผลการดำเนินงาน ร้อยละ 38 และระยะที่ 3 ได้รับจัดสรรงบประมาณแล้วและอยู่ระหว่างเริ่มดำเนินการ
1.2 ปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ โดยมีการจัดทำพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2560 ซึ่งได้ปรับแก้อัตราโทษให้มีความเหมาะสมกับการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ทางน้ำสาธารณะที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น (จากเดิมระวางโทษ “ปรับไม่น้อยกว่าตารางเมตรละ 500 ถึง 10,000 บาท” เป็น “จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่น้อยกว่าตารางเมตรละ 1,000 ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับรายวันวันละไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าท่า”) ยกเลิกการอนุญาตย้อนหลังให้แก่สิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และกำหนดให้สันนิษฐานว่าเจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าผู้ใดได้รับแจ้งเกี่ยวกับสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่มิชอบด้วยกฎหมายแล้วไม่ดำเนินการตามกฎหมายเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง
1.3 ดำเนินการกับสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่ปลูกสร้างขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาตและได้รับอนุญาต
(1) ขึ้นทะเบียนสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำที่สร้างก่อนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2515 โดยประชาชนไม่ต้องเสียค่าตอบแทนรายปีสิ่งล่วงล้ำลำน้ำในกรณีดังกล่าว
(2) ออกใบอนุญาตให้สิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่ปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือสร้างไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาตตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 32/2560 เรื่อง การบรรเทาความเสียหายให้แก่ประชาชนในกรณีปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดล่วงล้ำลำแม่น้ำ สั่ง ณ วันที่ 4 กรกฎาคม พุทธศักราช 2560 ทั้งนี้ ได้มีการแจ้งสิ่งล่วงล้ำลำน้ำต่อกรมเจ้าท่า จำนวน 86,906 รายการ ขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้ปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ จำนวน 59,123 ราย ไม่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน 19,891 ราย และไม่อนุญาต จำนวน 7,892 รายการ (จำนวน 19,891 ราย ไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมเจ้าท่า)
1.4 ดำเนินคดีกับสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่ได้แจ้งต่อกรมเจ้าท่าแต่ไม่ได้รับอนุญาต สรุปได้ ดังนี้
ความคืบหน้า |
จำนวน (ราย) |
กรมเจ้าท่าได้ออกคำสั่งให้รื้อถอน |
9,892 |
อยู่ระหว่างอุทธรณ์และพิจารณาอุทธรณ์ |
5,378 |
ผู้กระทำความผิดดำเนินการรื้อถอนเองไปแล้ว |
822 |
อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล |
950 |
อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี |
683 |
คดีถึงที่สุดและศาลมีคำพิพากษาให้ดำเนินการรื้อถอน |
59 |
1.5 รณรงค์และประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจและความตระหนักในการหวงแหนรักษาทางน้ำสาธารณะให้กับประชาชน ชุมชน และท้องถิ่น และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนและท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการควบคุมและป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ลำน้ำสาธารณะ ดังนี้
(1) มอบอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พิจารณาอนุญาตสิ่งล่วงล้ำลำน้ำและดำเนินคดีสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งขอรับการสนับสนุนจาก อปท. ที่จัดเก็บค่าตอบแทนในการใช้พื้นที่สาธารณะ โดยนำรายได้ดังกล่าวมาใช้ในการดูแลรักษาทางน้ำและรื้อถอนสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่ผิดกฎหมาย
(2) ประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชน ชุมชน และ อปท. เกี่ยวกับการปลูกสร้างและโทษของการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งล่วงล้ำลำน้ำรวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อให้เกิดจิตสำนึกรักษ์แหล่งน้ำสาธารณะของชุมชน
(3) บูรณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย (มท.) จังหวัด อปท. และหน่วยงานอื่นๆ ในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่ไม่รับอนุญาต
(4) จัดทำบันทึกความร่วมมือในโครงการบ้านมั่นคงในพื้นที่ลำน้ำสาธารณะระหว่างกรมเจ้าท่า สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ อปท. เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและการอยู่อาศัยของผู้มีฐานะยากจนในชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกรมเจ้าท่า เช่น โครงการเทศบาลตำบลหาดเล็ก องค์กรชุมชนจังหวัดตราด จังหวัดตราด
(5) จัดตั้งอาสาสมัครทางน้ำในชุมชน ได้แก่ เครือข่ายอาสาวารีและเยาวชนรักษ์น้ำ เพื่อประชาสัมพันธ์และแสวงหาแนวร่วมของชุมชนและท้องถิ่น
(6) เน้นการมีส่วนร่วมจากชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดีกับสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่ผิดกฎหมาย โดยให้มีการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด
2. ปัญหาและข้อเสนอแนะแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ
2.1 ปัญหาและอุปสรรค ได้แก่ การรุกล้ำลำน้ำมีจำนวนมาก กำลังเจ้าหน้าที่และงบประมาณไม่เพียงพอ รวมทั้งความร่วมมือจากชุมชน อปท. และหน่วยงานอื่นมีอำนาจหน้าที่ไม่มากพอ ส่งผลให้การป้องกันการรุกล้ำลำน้ำและการบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพซึ่งทำให้มีการรุกล้ำลำน้ำเพิ่มขึ้น
2.2 ข้อเสนอแนะ
(1) จัดสรรกำลังเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย การตรวจตรา การปราบปราม การดำเนินคดี และการรื้อถอนสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ
(2) ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อจัดทำโครงการและดำเนินการด้านต่างๆ ได้แก่
(2.1) โครงการสำรวจจัดทำแผนที่และรายละเอียดสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำเพิ่มเติมในลำคลองและทางน้ำอื่นๆ เพื่อให้ครอบคลุมทางน้ำทุกประเภท
(2.2) โครงการปักหลักเขตควบคุมทางน้ำ
(2.3) โครงการประชาสัมพันธ์และให้ความรู้เกี่ยวกับทางน้ำสาธารณะและสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ
(2.4) การรื้อถอนสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่ได้แจ้งแต่ไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงดำเนินคดีและรื้อถอนสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย
(3) ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้โดยเร่งจัดทำโครงการเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับทางน้ำสาธารณะแก่ประชาชน ชุมชน และท้องถิ่น โดยเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า เครือข่ายอาสาวารีและเยาวชนรักษ์น้ำ รวมทั้งจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ โดยขอรับการจัดสรรงบประมาณดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
(4) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชน โดยเร่งจัดทำโครงการฝึกอบรมและเพิ่มเครือข่ายอาสาวารีและเยาวชนรักษ์น้ำให้ครอบคลุมการดูแลรักษาทางน้ำสาธารณะทั่วประเทศ และสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมเครือข่ายอาสาวารีและเยาวชนรักษ์น้ำ รวมทั้งกิจกรรมของชุมชนและท้องถิ่นในการดูแลรักษาทางน้ำ
(5) บูรณาการหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการดำเนินการเกี่ยวกับสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ เช่น มท. (กรมการปกครอง อปท.) ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล กรมประมง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยจัดทำบันทึกความเข้าใจร่วมกันในการตรวจตราและบังคับใช้กฎหมาย
(6) ประสานกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและ อปท. เพื่อนำเงินค่าตอบแทนรายปีสิ่งล่วงล้ำลำน้ำที่จัดเก็บได้มาสนับสนุนการตรวจตราและการรื้อถอนสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 18 มกราคม 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A1440