ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 41/2564 และครั้งที่ 1/2565 และผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2565
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 11 January 2022 22:53
- Hits: 9741
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 41/2564 และครั้งที่ 1/2565 และผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2565
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ (คกง.) ในคราวประชุมครั้งที่ 41/2564 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2564 และครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 รวมทั้งผลการพิจารณาของ คกง. ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564) ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 ดังนี้
1. ผลการพิจารณาของ คกง. ในคราวประชุมครั้งที่ 41/2564
(1) อนุมัติให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ กรณีโครงการภายใต้แผนการเร่งรัดการเข้าถึงวัคซีน COVID-19 สำหรับประชาชนไทย (โครงการแผนเร่งรัดฯ) โดยขยายระยะเวลาดำเนินงาน จากเดิมสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2564 เป็นสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม 2565 เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) ที่ส่งผลต่อกระบวนการวิจัยและพัฒนาวัคซีนรวมทั้งการส่งมอบครุภัณฑ์
(2) อนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุจ (สป.สธ.) เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการพัฒนาระบบสื่อสารสั่งการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับกระทรวงและระดับเขตสุขภาพเป็น SmartEOC (โครงการพัฒนาระบบสื่อสารฯ) โดยขยายระยะเวลาดำเนินโครงการ จากเดิมสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2564 เป็นสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2565 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ
(3) อนุมัติให้ สป.สธ. เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการพัฒนาศักยภาพระบบบริการสุขภาพ รองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 (A001) ของหน่วยงานส่วนภูมิภาค (โครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพฯ) โดยขยายระยะเวลาดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงิน จากเดิมสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2564 เป็นสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2565 เนื่องจากประสบปัญหาความล่าช้าในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างการดำเนินการก่อสร้าง การส่งมอบงานจ้างและการส่งมอบครุภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ และปรับลดกรอบวงเงินของโครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพฯ (รอบที่ 1) จำนวน 375.0224 ล้านบาท และโครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพฯ (รอบที่ 2) จำนวน 90.9838 ล้านบาท เนื่องจากสถานพยาบาลมีความจำเป็นเร่งด่วนในการดำเนินรายการก่อสร้างและจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อให้บริการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด 19 จึงจำเป็นต้องใช้เงินบำรุงและเงินบริจาคในการดำเนินการ ตามที่ สธ. เสนอ
(4) อนุมัติให้มหาวิทยาลัยนเรศวร (ม.นเรศวร) เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโรคโควิด 19 (โครงการเตรียมความพร้อมฯ) โดยขยายระยะเวลาดำเนินโครงการ จากเดิมสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2564 เป็นสิ้นสุดเดือนเมษายน 2565 เนื่องจากรายการก่อสร้างและปรับปรุงมีความสลับซับซ้อนในเชิงเทคนิคก่อสร้าง และได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้เป็นอุปสรรคในการเข้าพื้นที่เพื่อดำเนินการก่อสร้าง ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เสนอ
(5) อนุมัติให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (โครงการเยียวยาฯ) โดยขยายระยะเวลาดำเนินโครงการ จากเดิมสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2564 เป็นสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2565 เนื่องจากจำเป็นต้องใชระยะเวลาในการดำเนินการเบิกจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายในกลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาตามโครงการเยียวยาฯ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว
(6) อนุมัติให้กรมการพัฒนาชุมชน (พช.) เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” (โครงการโคก หนอง นา โมเดล) โดยขยายระยะเวลาดำเนินงานใน 4 กิจกรรมย่อย (กิจกรรมที่ 2 4 5 และ 7) จากเดิมสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2564 เป็นสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2565 และปรับลดกิจกรรมที่ 7 กิจกรรมย่อยที่ 3 และกิจกรรมย่อยที่ 6 วงเงินรวม 25 ล้านบาท ทำให้วงเงินโครงการปรับลดจาก 4,787.9164 ล้านบาท เป็น 4,762.9164 ล้านบาท ตามที่ พช. ได้ยืนยันว่า การปรับลดกิจกรรมดังกล่าวยังคงทำให้การดำเนินโครงการสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
(7) อนุมัติให้จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดปัตตานี จังหวัดเลย จังหวัดตาก จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดแม่ฮ่องสอนเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการ ภายใต้แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน
(8) มอบหมายให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการข้อ 1.1 (1) - (7) เร่งรัดการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาดำเนินงานที่เสนอในครั้งนี้ รวมถึงรับความเห็นและข้อสังเกตเพิ่มเติมตามมติ คกง. ประกอบการดำเนินการโดยเคร่งครัดต่อไป
2. ผลการพิจารณาของ คกง. ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2565
(1) อนุมัติให้กรมควบคุมโรค กรมอนามัน สป.สธ. เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ จำนวน 5 โครงการ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้การดำเนินโครงการล่าช้ากว่าแผนที่ได้รับอนุมัติไว้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว
(2) อนุมัติให้มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ (ม.นราธิวาสราชนครินทร์) มหาวิทยาลัยมหิดล (ม.มหิดล) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ม.ธรรมศาสตร์) และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (ม.เชียงใหม่) อว. เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ จำนวน 5 โครงการ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้การดำเนินโครงการล่าช้ากว่าแผนที่ได้รับอนุมัติไว้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว
(3) อนุมัติให้โรงพยาบาลตำรวจเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานหอผู้ป่วยและห้องผ่าตัดรองรับและบรรเทาภัยจากโรคโควิด 19 และเป็นไปตามมาตรฐานด้านป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล โดยขยายระยะเวลาดำเนินโครงการ จากเดิมสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2564 เป็นสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม 2565 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้การดำเนินโครงการล่าช้ากว่าแผนที่ได้รับอนุมัติไว้ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว
(4) อนุมัติให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบกระจายน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่และโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ โดยขยายระยะเวลาดำเนินโครงการ จากเดิมสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2564 เป็นสิ้นสุดเดือนเมษายน 2565 พร้อมทั้งเห็นควรมอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เร่งรัดการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามผลการพิจารณาของ คกง. แล้ว เห็นควรให้เร่งแก้ไขข้อมูลโครงการในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ (Electronic Monitoring and Evaluation System of National Strategy and Country Reform : eMENSCR) (ระบบ eMENSCR) ให้สอดคล้องกับการปรับปรุงรายละเอียดโครงการโดยเร็ว
(5) มอบหมายให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการข้อ 1.2 (1) - (4) เร่งรัดการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาดำเนินงานที่เสนอในครั้งนี้ รวมถึงรับความเห็นและข้อสังเกตเพิ่มเติมตามมติ คกง. ไปประกอบการดำเนินการโดยเคร่งครัดต่อไป
3. ผลการพิจารณาของ คกง. ภายใต้พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2565
(1) อนุมัติให้กรมควบคุมโรคเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ ดังนี้ 1) โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 (COVID-19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน 20,001,150 โดส (Pfizer) (โครงการจัดหาวัคซีน Pfizer จำนวน 20.001 ล้านโดส) โดยขยายระยะเวลาดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงิน จากเดิมสิ้นสุดภายในเดือนธันวาคม 2564 เป็นสิ้นสุดภายในเดือนมกราคม 2565 และ 2) โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 (COVID-19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน 9,998,820 โดส (Pfizer) (โครงการจัดหาวัคซีน Pfizer จำนวน 9.998 ล้านโดส) โดยขยายระยะเวลาดำเนินงานและการเบิกจ่ายเงิน จากเดิมสิ้นสุดภายในเดือนธันวาคม 2564 เป็นสิ้นสุดภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจรับวัคซีน และรวบรวมเอกสารสำหรับประกอบการเบิกจ่าย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว ทั้งนี้ เห็นควรมอบหมายให้ สธ. เร่งรัดให้กรมควบคุมโรคเร่งรัดการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามระยะเวลาที่ขอขยายอย่างเคร่งครัด รวมถึงดำเนินการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในระบบ eMENSCR ให้สอดคล้องกับการปรับปรุงรายละเอียดโครงการโดยเร็วต่อไป
(2) อนุมัติให้กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน (รง.) เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs (โครงการส่งเสริมธุรกิจ SMEs) โดยปรับปรุงเงื่อนไขการจ่ายเงินอุดหนุนตามโครงการส่งเสริมธุรกิจ SMEs ในเดือนธันวาคม 2564 - มกราคม 2565 ภายใต้เงื่อนไขการลงทะเบียนและนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ (ระบบ e-Service) เพื่อให้กลุ่มนายจ้างเป้าหมายของโครงการส่งเสริมธุรกิจ SMEs ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้รับความช่วยเหลือตามโครงการส่งเสริมธุรกิจ SMEs ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว ทั้งนี้ เห็นควรให้กรมการจัดหางานเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จในกรอบระยะเวลาที่กำหนด และเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามผลการพิจารณาของ คกง. แล้ว ให้กรมการจัดหางานเร่งปรับปรุงแก้ไขรายละเอียดโครงการในระบบ eMENSCR ให้สอดคล้องกับการปรับปรุงรายละเอียดโครงการโดยเร็วต่อไป
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 11 มกราคม 2565
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A1231