WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

สรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 6/2564

GOV 3

สรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 6/2564

          คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี (กตน.) เสนอสรุปผลการประชุม กตน. ครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ผ่านระบบ การประชุมทางไกล และให้ส่วนราชการรับประเด็นและมติของที่ประชุม กตน. ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

          สาระสำคัญของเรื่อง

          ในการประชุม กตน. ครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 โดยมีรัฐมนตรีประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมฯ มีผลการประชุมฯ สรุปได้ ดังนี้

 

 

ประเด็น

 

ความเห็น/ข้อสังเกต/มติที่ประชุม กตน.

1) แผนงาน/โครงการการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง

       1.1) การดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนข้อ 11 การจัดเตรียมมาตรการรองรับภัยแล้งและอุทกภัย ได้แก่ (1) มาตรการเพื่อรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้งปี 2563/2564 เช่น การเร่งกักเก็บน้ำได้ 2,947 ล้านลูกบาศก์เมตร และการจัดหาแหล่งสำรองน้ำดิบในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ (2) มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2564 เช่น การชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและฝนทิ้งช่วง และการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำเพื่อรองรับน้ำหลาก และ (3) การจัดหาพื้นที่รองรับน้ำในฤดูฝนและกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง โดยมีแผนรับน้ำได้ 1,704 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปริมาณน้ำหลากมีปริมาณเกินกว่าแผน 392 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้พิจารณาวางแผนร่วมกับกรมชลประทานเพื่อปรับขอบเขตพื้นที่ทุ่งรับน้ำและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ต่อไป

       1.2) การดำเนินการตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เช่น (1) การจัดทำแผนการจัดหาแหล่งน้ำและแผนการป้องกันอุทกภัยในพื้นที่เมืองเศรษฐกิจ โดย สทนช. จัดทำแผนหลักใน 6 เมืองหลักแต่ละภูมิภาค ได้แก่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา และภูเก็ต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำ เพิ่มความจุ และแก้ไขปัญหาระบบประปา (2) การพิจารณาแผนงาน/โครงการน้ำท่วม ในปี 2564 ได้รับการจัดสรรงบกลาง 6,203 รายการ วงเงิน 7,421.77 ล้านบาท คาดว่าจะได้ปริมาณน้ำ 51.40 ล้านลูกบาศก์เมตรครอบคลุมพื้นที่ 563,191 ไร่ ครัวเรือนได้รับประโยชน์ 527,056 ครัวเรือน และ (3) การพัฒนาระบบ การติดตามการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ในการติดตามสถานการณ์และวิเคราะห์ข้อมูลลุ่มน้ำ ได้แก่ เว็บไซต์ http://waterinfo.onwr.go.th/thaiwater30/ และการพัฒนาแอปพลิเคชัน National Thai Water

 

ความเห็นและข้อสังเกตของ กตน. :

1) ให้ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก ซึ่งอาจพิจารณาวางแผนการพร่องน้ำจากเขื่อนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ สทนช. ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า กระทรวงคมนาคมได้จัดทำแผนและอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อสร้างเขื่อนทดน้ำแห่งใหม่

2) ให้ สทนช.หารือร่วมกับกรมชลประทาน

กรมเจ้าท่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการพัฒนาการใช้ประโยชน์พื้นที่ตลอดแนวแม่น้ำลำน้ำเจ้าพระยาทั้งในด้านการคมนาคมขนส่ง การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการประกอบอาชีพทั้งด้านการค้าขาย และการประมง

มติที่ประชุม : รับทราบ และให้ สทนช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอแนะ

ของที่ประชุมไปพิจารณา

2) วิจัยและนวัตกรรมเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความยากจน

       2.1) การดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลข้อ 8 การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อขจัดความเหลื่อมล้ำและความยากจน เช่น (1) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ดำเนินแผนงานวิจัยการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำโดยศึกษาโมเดลแก้ไขปัญหาความยากจนของจีน และขับเคลื่อนแพลตฟอร์มแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำระดับจังหวัด (2) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดำเนินโครงการวิจัยในปี 2564 จำนวน 24 โครงการ 17 หน่วยงาน เป็นเงิน 78.32 ล้านบาท เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาระบบสวัสดิการสังคมและนโยบายสวัสดิการสังคมของประเทศ (3) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) มีชุมชนต้นแบบวิชาการเกษตร : นวัตกรรมการผลิตพืชผักปลอดภัย ทำให้เกษตรกรต้นแบบมีรายได้จากเดิม 29,634 บาท/ไร่ เป็น 34,242 บาท/ไร่ 

       2.2) การดำเนินการตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ที่ให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาหาแนวทางหรือมาตรการในการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาความยากจนให้ลงลึกถึงระดับรายครัวเรือน ได้แก่ (1) มท. จัดตั้งศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ในระดับจังหวัด 76 ศูนย์ ศจพ. กทม. 1 ศูนย์ ศจพ. อำเภอ 878 ศูนย์ และ ศจพ. เขต 50 ศูนย์ (2) พม. จัดโครงการบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือนให้เข้าถึงสิทธิและสวัสดิการให้ครอบคลุมในทุกมิติแบบองค์รวม และ (3) กระทรวงแรงงาน (รง.) แต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อน โครงการฯ รง. แรงงานกลุ่มเปราะบาง 3 กลุ่ม รวม 2.07 ล้านคน

       2.3) ข้อเสนอแนะ เช่น อว. เสนอว่า ควรมีการขยายผลการใช้แพลตฟอร์มการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำระดับจังหวัดสู่แผนพัฒนาจังหวัดทั่วประเทศ กษ. เสนอว่า การขยายผลเทคโนโลยีเพื่อการนำไปใช้ประโยชน์ในวงกว้างควรต้องมีหน่วยงานภาคีเครือข่ายร่วมผลักดันและนำไปขยายผลสู่เกษตรกร มท. เสนอว่า ควรประสานความร่วมมือภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ พม. เสนอว่า ควรมีการบูรณาการความร่วมมือในการพัฒนาผลงานวิจัยและนวัตกรรม ระหว่างพม. กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม

 

มติที่ประชุม :

1) รับทราบ

2) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขของ อว. กษ. มท. และ พม. และความเห็น/ข้อสังเกตของที่ประชุมไปพิจารณา

3) ให้คณะอนุกรรมการด้านการสร้างการรับรู้และสร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชน

รวบรวมข้อมูลผลการดำเนินงานที่สำคัญ

และเป็นรูปธรรม เช่น การแก้ไขปัญหาความยากจน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่ง และระบบโลจิสติกส์เพื่อนำไปสู่การประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในห้วงเวลาที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ปี 2565 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง

3) แผนการดำเนินงานของ กตน. ประจำปีงบประมาณ .. 2565 โดยมีแผนการดำเนินงานและระยะเวลาดำเนินการ ดังนี้

 

แผนการดำเนินงาน

ระยะเวลา

3.1) ติดตามรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (นโยบายหลัก 12 ข้อ นโยบายเร่งด่วน 12 ข้อ และข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีและการเบิกจ่ายงบประมาณ)

ตุลาคม 2564 –

ตุลาคม 2565

3.2) เสนอแนะและรายงานปัญหาอุปสรรค รวมถึงการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี

ตุลาคม 2564 –

ตุลาคม 2565

3.3) เผยแพร่ผลการดำเนินงานของรัฐบาล

ตุลาคม 2564 –

ตุลาคม 2565

3.4) การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง การบริหารจัดการน้ำ การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควันไฟป่า และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ตุลาคม-ธันวาคม 2565

3.5) การจัดเขตพื้นที่ภาคเกษตรกรรม การปรับโครงสร้างภาคเกษตรและการสร้างมูลค่าเพิ่ม ปัญหาที่ดินทำกิน และการพัฒนาภาคการเกษตรตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง

มกราคม 2565

3.6) การส่งเสริม SMEs Start up และการรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน

กุมภาพันธ์ 2565

3.7) การปฏิรูปการศึกษา การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การปรับรูปแบบการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการ และการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน

มีนาคม 2565

3.8) การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก การพัฒนาเมืองอัจฉริยะและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

เมษายน 2565

3.9) ความมั่นคง การแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การแก้ไขปัญหายาเสพติด และปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์

พฤษภาคม 2565

3.10)การพัฒนาสังคม ระบบสาธารณสุขและการแก้ไขปัญหาความยากจน

มิถุนายน

กรกฎาคม 2565

3.11) การป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริต และการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม

กรกฎาคม

สิงหาคม 2565

3.12) การพัฒนาระบบการให้บริการประชาชน และการบูรณาการฐานข้อมูลภาครัฐ

สิงหาคมกันยายน 2565

3.13) ภาพรวมการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี กำหนดรูปแบบและจัดทำรายงานแสดงผลการดำเนินการ

ของคณะรัฐมนตรี ปีที่ 3

กันยายนตุลาคม 2565

 

 

ความเห็นและข้อสังเกตของ กตน. :

ให้พิจารณาลำดับความสำคัญของแผนการดำเนินงานในประเด็นติดตามการดำเนินงานให้สอดรับกับห้วงเวลาและทันต่อสถานการณ์เป็นการล่วงหน้า เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนและประกอบการตัดสินใจสั่งการของนายกรัฐมนตรีได้อย่างทันท่วงที

มติที่ประชุม :

1) รับทราบแผนการดำเนินงานฯ

2) ให้ฝ่ายเลขานุการฯ รับความเห็นและข้อสังเกตของที่ประชุมฯ ไปพิจารณา

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 21 ธันวาคม 2564

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

A12721

 Click Donate Support Web

EXIM One 720x90 C JGC 720x100TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ais 720x100NHA720x100

เจนเนอราลี่

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!