WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

รายงานสถานการณ์การส่งออกของไทย เดือนตุลาคม 2564

GOV

รายงานสถานการณ์การส่งออกของไทย เดือนตุลาคม 2564

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์การส่งออกของไทย เดือนตุลาคม 2564 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้

          สาระสำคัญ และข้อเท็จจริง

          1. สรุปสถานการณ์การส่งออกของไทย เดือนตุลาคม 2564

                   การส่งออกของไทยในเดือนตุลาคม 2564 มีมูลค่า 22,738.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (750,016 ล้านบาท) ขยายตัวร้อยละ 17.4 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวร้อยละ 12.2 การส่งออกของไทยยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางสภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ประเทศคู่ค้าของไทยมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากการเติบโตทั้งในสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม ทั้งนี้ การส่งออก 10 เดือนแรกของปี 2564 ขยายตัวร้อยละ 15.7 เมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวร้อยละ 19.6

                   มูลค่าการค้ารวม

                   มูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนตุลาคม 2564 การส่งออก มีมูลค่า 22,738.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 17.4 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 23,108.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 34.6 ดุลการค้าขาดดุล 370.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาพรวมการส่งออก 10 เดือนแรกของปี 2564 การส่งออก มีมูลค่า 222,736.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 15.7 การนำเข้า มีมูลค่า 221,089.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 31.3 ดุลการค้า 10 เดือนแรก เกินดุล 1,646.6 ล้านเหรียญสหรัฐ

                   มูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนตุลาคม 2564 การส่งออก มีมูลค่า 750,015.8 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 24.9 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 772,540.0 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 43.3 ดุลการค้าขาดดุล 22,524.1 ล้านบาท ภาพรวมการส่งออก 10 เดือนแรกของปี 2564 การส่งออก มีมูลค่า 6,952,185.9 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 16.0 การนำเข้า มีมูลค่า 6,999,330.7 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 31.8 ดุลการค้า 10 เดือนแรก ขาดดุล 47,114.8 ล้านบาท

                   การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร

                   มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 18.2 (YoY) ขยายตัวต่อเนื่อง 11 เดือน สินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ ยางพารา ขยายตัวร้อยละ 51.7 (ขยายตัวในตลาดจีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น อินเดีย และเกาหลีใต้) ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง แห้ง กระป๋องและแปรรูป ขยายตัว ร้อยละ 28.7 (ขยายตัวในตลาดจีน สหรัฐฯ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และญี่ปุ่น) ข้าว ขยายตัวร้อยละ 33.7 (ขยายตัวในตลาดเบนิน โกตดิวัวร์ จีน อังโกลา และอิรัก) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ขยายตัวร้อยละ 29.5 (ขยายตัวในตลาดจีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์) น้ำตาลทราย ขยายตัวร้อยละ 111.6 (ขยายตัวในตลาดอินโดนีเซีย กัมพูชา เกาหลีใต้ ไต้หวัน และลาว) สินค้าที่หดตัว ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป หดตัวร้อยละ 14.2 (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น แคนาดา และซาอุดีอาระเบีย แต่ขยายตัวดีในตลาดออสเตรเลีย อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เกาหลีใต้ และแอฟริกาใต้) ไก่แปรรูป หดตัวร้อยละ 18.9 (หดตัวในตลาดญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ ฮ่องกง และเยอรมนี แต่ขยายตัวดีในตลาดเนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ และไอร์แลนด์) เครื่องดื่ม หดตัวร้อยละ 10.7 (หดตัวในตลาดเวียดนาม เมียนมา จีน สปป.ลาว และสิงคโปร์ แต่ขยายตัวดีในตลาดกัมพูชา และสหรัฐฯ) ผักสด แช่เย็น แช่แข็ง แห้ง กระป๋องและแปรรูป หดตัวร้อยละ 3.4 (หดตัวในตลาดญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ และสหราชอาณาจักร แต่ขยายตัวดีในตลาดสหรัฐฯ มาเลเซีย ออสเตรเลีย และเนเธอร์แลนด์) สินค้าปศุสัตว์อื่นๆ หดตัวร้อยละ 47.7 (หดตัวในตลาดเวียดนาม สปป.ลาว กัมพูชา ญี่ปุ่น และไต้หวัน แต่ขยายตัวดีในตลาดเมียนมา จีน อินโดนีเซีย และสหรัฐฯ) 10 เดือนแรกของปี 2564 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 14.8

 

EXIM One 720x90 C J

 

                    การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม

                    มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 13.9 (YoY) ขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือน สินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ขยายตัวร้อยละ 67.3 (ขยายตัวในตลาดจีน เวียดนาม อินเดีย สิงคโปร์ และกัมพูชา) รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 10.3 (ขยายตัวในตลาดฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สหรัฐฯ เม็กซิโก อินโดนีเซีย และแอฟริกาใต้) แผงวงจรไฟฟ้า ขยายตัวร้อยละ 18.6 (ขยายตัวในตลาดฮ่องกง สิงคโปร์ จีน ญี่ปุ่น และมาเลเซีย) อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัวร้อยละ 20.6 (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ อินเดีย เยอรมนี สหราชอาณาจักร และเบลเยียม) เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ ขยายตัวร้อยละ 35.9 (ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น อินเดีย อินโดนีเซีย จีน และมาเลเซีย) สินค้าที่หดตัว ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง หดตัวร้อยละ 4.6 (หดตัวในตลาดญี่ปุ่น มาเลเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และเยอรมนี แต่ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ จีน และอินเดีย) อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด หดตัวร้อยละ 6.3 (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ และไต้หวัน แต่ขยายตัวได้ดีในตลาดเวียดนาม ฮ่องกง ญี่ปุ่น จีน และสิงคโปร์) ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ 11.7 (หดตัวในตลาดญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย แต่ขยายตัวได้ดีในตลาดสหรัฐฯ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย และเกาหลีใต้) เครื่องซักผ้า เครื่องซักแห้งและส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ 29.3 (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เวียดนาม และมาเลเซีย แต่ขยายตัวได้ดีในตลาดเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และอียิปต์) 10 เดือนแรกของ ปี 2564 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 14.5

                   ตลาดส่งออกสำคัญ

                   การส่งออกไปยังตลาดส่งออกสำคัญขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน สรุป ดังนี้
                  1)
ตลาดหลัก ขยายตัวร้อยละ 17.4 โดยขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ร้อยละ 16.1 จีน ร้อยละ 14.1 อาเซียน (5) ร้อยละ 39.7 CLMV ร้อยละ 19.8 และ สหภาพยุโรป (27) ร้อยละ 14.0 ขณะที่ ญี่ปุ่น หดตัวร้อยละ 2.0
                   2)
ตลาดรอง ขยายตัวร้อยละ 17.8 ขยายตัวในตลาด เอเชียใต้ ร้อยละ 50.4 ตะวันออกกลาง ร้อยละ 33.2 ทวีปแอฟริกา ร้อยละ 38.8 ลาตินอเมริกา ร้อยละ 14.1 และรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS ร้อยละ 78.8 ขณะที่ ทวีปออสเตรเลีย หดตัวร้อยละ 7.3 และ

                  3) ตลาดอื่นๆ หดตัวร้อยละ 2.4

 

GC 720x100

 

          2. แนวโน้ม และมาตรการส่งเสริมการส่งออกในปี 2564

                  การส่งออกของไทยในปี 2564 มีแนวโน้มขยายตัวดี สะท้อน(1) ทิศทางการค้าโลกขยายตัวต่อเนื่องจนถึงไตรมาสที่ 4 (2) ค่าเงินบาทยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า ช่วยเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันด้านราคาให้กับสินค้าไทย (3) การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และการเตรียมเปิดประเทศในหลายประเทศ ส่งผลดีต่อภาคการค้า (4) ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ตามอุปสงค์ที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก ช่วยสนับสนุนการส่งออกสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน อาทิ เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์ และ (5) มูลค่าการส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์การค้าชายแดนเริ่มคลี่คลาย โดยด่านการค้าสำคัญจะกลับมาเปิดดำเนินการได้อีกครั้ง สำหรับแผนส่งเสริมการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี กระทรวงพาณิชย์ยังคง กระทรวงพาณิชย์ยังคงดำเนินการตามยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตและแผนงานของกระทรวงพาณิชย์ที่กำหนดไว้ โดยมาตรการส่งเสริมการส่งออกในระยะถัดไป ได้แก่ การผลักดันการส่งออกมันสำปะหลังไทยให้มีคุณภาพอันดับ 1 ของโลก ตามยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทยปี 2564 - 2567 การเร่งรัดความตกลง RCEP ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว หลังจากที่ไทยยื่นให้สัตยาบันแล้ว เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าไทย การเจรจาเปิดด่านการค้าสำคัญเพื่อลดอุปสรรคการส่งออกหลังวิกฤติโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย รวมไปถึงการเดินหน้าตามแผนรักษาตลาดเดิม สร้างตลาดใหม่ และฟื้นฟูตลาดเก่าที่เสียไป โดยมีกระทรวงพาณิชย์ ทีมเซลล์แมนประเทศ และกรอ.พาณิชย์ ที่จะร่วมกันเดินหน้าผลักดันการส่งออกของไทย ให้ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องไปพร้อมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังวิกฤติโควิด-19

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 21 ธันวาคม 2564

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

A12718

 Click Donate Support Web

TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ais 720x100NHA720x100

เจนเนอราลี่

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!