ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 18/2564
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Sunday, 26 December 2021 22:08
- Hits: 7473
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 18/2564
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้ พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564) ในคราวประชุมครั้งที่ 18/2564 ที่ได้มีมติที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาข้อเสนอแนวทางการดำเนินการตามมาตรา 6 แห่งพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (ครั้งที่ 2) และการพิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมของข้อเสนอแผนงานหรือโครงการเพื่อขอใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 รวมทั้งการพิจารณาข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ดังนี้
1. อนุมัติให้นำวงเงินกู้เพื่อการตามมาตรา 5 (2) แห่งพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 มาใช้เพื่อการตามมาตรา 5 (1) แห่งพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 เพิ่มเติม (ครั้งที่ 2) จำนวน 60,000 ล้านบาท เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
2. อนุมัติโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย จำนวน 30,002,310 โดส (Pfizer) ปี พ.ศ. 2565 กรอบวงเงิน 16,297,700,600 บาท และโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย จำนวน 60,000,000 โดส (AstraZeneca) ปี พ.ศ. 2565 กรอบวงเงิน 18,762.5160 ล้านบาท ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงาน/โครงการกลุ่มที่ 1 ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 และมอบหมายให้กรมควบคุมโรค เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ และดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สามารถจัดหาเงินกู้ พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อ 15 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 อย่างเคร่งครัดตามขั้นตอนต่อไป
3. อนุมัติโครงการเยียวยาผู้ประกันตน ในกิจการสถานบันเทิง และผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ของสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กรอบวงเงิน 607.1550 ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงานหรือโครงการกลุ่มที่ 2 ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 ทั้งนี้ มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคม เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ และดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะสามารถจัดหาเงินกู้เพื่อใช้จ่ายโครงการตามแผนการใช้จ่ายเงินที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการเงินของภาครัฐ พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อ 15 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 โดยเคร่งครัด นอกจากนี้ มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับความเห็นเพิ่มเติมของคณะกรรมการฯ ไปประกอบการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
4. อนุมัติโครงการ Thailand Festival Experience ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรอบวงเงิน 300 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงาน/โครงการกลุ่มที่ 3 ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 และมอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ และดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะสามารถจัดหาเงินกู้ พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อ 15 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 อย่างเคร่งครัดตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ เห็นควรให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และดำเนินการเบิกจ่ายเงินกู้ฯ ให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ เพื่อให้การบริหารจัดการเงินกู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
5. มอบหมายให้กรมการจัดหางาน ดำเนินโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการตามมติคณะรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จโดยเร็ว พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้กับธุรกิจ SMEs สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของประเทศเปลี่ยนแปลงไปจากในปัจจุบัน จนทำให้ภาครัฐจำเป็นต้องประกาศมาตรการควบคุมไม่ให้สถานบันเทิงเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2565 เห็นควรมอบหมายให้กรมการจัดหางานพิจารณาความเหมาะสมของการปรับปรุงรายละเอียดของโครงการฯ เสนอให้คณะกรรมการฯ พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
6. อนุมัติให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยการเพิ่มจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 6,218 คน กรอบวงเงิน 12.4360 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากกรอบวงเงินของโครงการในส่วนของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม และวันที่ 5 ตุลาคม 2564 และขยายระยะเวลาโครงการในส่วนของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นสิ้นสุดในเดือนมกราคม 2565 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ เพื่อให้ภาครัฐสามารถให้ความช่วยเหลือนักเรียนและผู้ปกครองได้อย่างครอบคลุมตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ทั้งนี้ เมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการฯ แล้ว เห็นควรให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเร่งดำเนินการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในระบบ eMENSCR ให้สอดคล้องกับการปรับปรุงรายละเอียดโครงการต่อไป
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 21 ธันวาคม 2564
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A12709