ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 17/2564
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 14 December 2021 22:46
- Hits: 3297
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 17/2564
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เสนอผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ (คกง.) ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 (พระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564) ในคราวประชุมครั้งที่ 17/2564 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ดังนี้
1. อนุมัติโครงการภายใต้กลุ่มโครงการห้องปฏิบัติการ จำนวน 4 โครงการ วงเงิน 223.6711 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.1 โครงการการพัฒนาศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์แอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพวัคซีนเพื่อรองรับการวิจัยพัฒนาและผลิตวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) โรคติดเชื้ออุบัติใหม่ และโรคอุบัติซ้ำ ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (2-A010) (โครงการการพัฒนาศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานห้องปฏิบัติการฯ) กรอบวงเงิน 7.552 ล้านบาท ปรับลดจากข้อเสนอ จำนวน 0.24 ล้านบาท
1.2 โครงการพัฒนาห้องปฏิบัติการ ABSL3 คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี เพื่อการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยทางชีวภาพระดับสากล ของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (2-A015) (โครงการพัฒนาห้องปฏิบัติการ ABSL3) กรอบวงเงิน 25.5038 ล้านบาท ปรับลดจากข้อเสนอ จำนวน 0.9562 ล้านบาท
1.3 โครงการเพิ่มขีดความสามารถห้องปฏิบัติการทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนก่อนทดลองในมนุษย์ ของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (2-A016) (โครงการเพิ่มขีดความสามารถห้องปฏิบัติการฯ) กรอบวงเงิน 50.7747 ล้านบาท ปรับลดจากข้อเสนอ จำนวน 0.5303 ล้านบาท
1.4 โครงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและทดสอบวัคซีนและเภสัชภัณฑ์ในลิงมาร์โมเส็ท ของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (2-A019) (โครงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการวิจัยฯ) กรอบวงเงิน 139.8406 ล้านบาท ปรับลดจากข้อเสนอ จำนวน 0.1594 ล้านบาท
2. มอบหมายให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และสถาบันวัคซีนแห่งชาติเป็นหน่วยรับผิดชอบโครงการ ดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) สามารถจัดหาเงินกู้เพื่อใช้จ่ายโครงการตามแผนการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการเงินของภาครัฐ พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อ 15 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 พ.ศ. 2564 (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี กู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564) โดยเคร่งครัดตามขั้นตอนต่อไป พร้อมทั้งปรับแผนการดำเนินงานและเบิกจ่ายเงินโครงการให้เป็นปัจจุบัน โดยจะต้องดำเนินการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2565 พร้อมทั้งจัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยงในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้มีความชัดเจน
3. มอบหมายให้หน่วยงานเจ้าของโครงการในกลุ่มการจัดหาวัสดุและสิ่งก่อสร้าง จำนวน 45 โครงการ วงเงิน 13,674.4301 ล้านบาท ทบทวนข้อเสนอโครงการ ทั้งนี้ เห็นควรมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รวบรวมและจัดส่งข้อเสนอโครงการที่ได้ดำเนินการดังกล่าวเสนอให้ คกง. พิจารณาตามขั้นตอนภายในเดือนธันวาคม 2564
4. มอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการศึกษา วิจัย และพัฒนาเกี่ยวกับวัคซีนโรคโควิด 19 และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง พิจารณาเสนอขอรับการจัดสรรจากแหล่งเงินอื่น อาทิ งบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามขั้นตอนและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
5. มอบหมายให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพประสานกับสำนักงบประมาณ (สงป.) และ สธ. ในการขอรับจัดสรรงบประมาณสำหรับค่าตอบแทนบุคลากรทางการแพทย์รวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 ตามความจำเป็นและความเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
6. อนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการมาตรการการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของนิสิต นักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐและภาคเอกชน (โครงการมาตรการการลดภาระฯ) โดยเพิ่มเติมกลุ่มเป้าหมายนักศึกษาระดับปริญญาตรีของสถาบันการอาชีวศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทั้งหมด 23 แห่ง จำนวน 9,949 คน ภายใต้กรอบวงเงินตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 จำนวน 10,000 ล้านบาท และขยายเวลาสิ้นสุดโครงการมาตรการการลดภาระฯ จากเดิมสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน 2564 เป็นเดือนมกราคม 2565 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว
7. มอบหมายให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และ ศธ. เร่งเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลของทุกหน่วยงานที่จัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาเพื่อป้องกันการตกหล่น ความซ้ำซ้อน และความล่าช้าในการช่วยเหลือเยียวยา และเพื่อเป็นประโยชน์แก่ภาครัฐในการนำข้อมูลมาประกอบการวิเคราะห์ กำหนดนโยบายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมและสนับสนุนการส่งต่อและพัฒนาผู้เรียนรายบุคคลต่อไป
8. อนุมัติให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 (โครงการให้ความช่วยเหลือฯ) ของ ศธ. ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้เห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว ทำให้กรอบวงเงินโครงการให้ความช่วยเหลือฯ เพิ่มขึ้น 642.922 ล้านบาท จาก 23,226.4 ล้านบาท เป็น 23,869.322 ล้านบาท และมอบหมายให้กระทรวงแรงงาน (รง.) กองทัพบก [กระทรวงกลาโหม (กห.)] โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นหน่วยรับผิดชอบโครงการให้ความช่วยเหลือฯ เพิ่มเติม
9. มอบหมายให้หน่วยงานต้นสังกัดของกลุ่มเป้าหมายที่เพิ่มเติมจัดส่งข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) พิจารณาตรวจสอบความซ้ำซ้อนของนักเรียน/นักศึกษาในสถานศึกษาทั้งหมดในสังกัด ศธ. ทั้งสถานศึกษาของรัฐและสถานศึกษาเอกชน และนอกสังกัด ศธ. เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างรอบคอบและรัดกุม ซึ่งจะช่วยให้การใช้จ่ายตามพระราชกำหนดกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
10. มอบหมายให้ ศธ. เร่งพัฒนาความเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลของทุกหน่วยงานที่จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และปริญญาตรีในสถาบันการอาชีวศึกษา เพื่อป้องกันการตกหล่น ความซ้ำซ้อน และภาครัฐมีข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ กำหนดนโยบายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุม และสนับสนุนการพัฒนาผู้เรียนรายบุคคลต่อไป
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 14 ธันวาคม 2564
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A12449