มาตรการสินเชื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Sunday, 05 December 2021 22:34
- Hits: 9494
มาตรการสินเชื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการสินเชื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ (มาตรการฯ) และอนุมัติงบประมาณวงเงินรวม 1,500 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อดำเนินมาตรการฯ พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการให้สามารถประกอบอาชีพและดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และให้ กค. ธนาคารออมสินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการไปด้วย
สาระสำคัญของเรื่อง
กค. รายงานว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) (โรคโควิด 19) ระลอกใหม่ ที่เริ่มคลี่คลายลงและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมในเขตพื้นที่สถานการณ์ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งผลให้เริ่มมีการเปิดสถานที่และการให้บริการของสถานบริการ รวมไปถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่เริ่มกลับมาดำเนินได้ตามปกติ อย่างไรก็ดี การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของประชาชน รวมถึงการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการในหลายสาขาอาชีพ ทำให้มีรายได้ลดลง ประสบปัญหาด้านการเงินและมีความเสี่ยงในการชำระหนี้คืน ส่งผลให้ขาดเงินทุนสำหรับการเริ่มกลับมาประกอบอาชีพหรือเสริมสภาพคล่องสำหรับการดำเนินธุรกิจต่อไป ทำให้สถาบันการเงินยังไม่มั่นใจกับการปล่อยสินเชื่อให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ รวมทั้งมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ดังนั้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเริ่มต้นในการประกอบอาชีพหรือเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ลดการพึ่งพาสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง หรือสินเชื่อนอกระบบ กค. จึงเสนอมาตรการฯ เพื่อบรรเทาและป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น โดยมีสาระสำคัญของหลักเกณฑ์และเงื่อนไขมาตรการฯ สรุปได้ ดังนี้
หลักเกณฑ์/เงื่อนไข |
รายละเอียด |
|
วัตถุประสงค์ |
เพื่อเป็นเงินทุนเริ่มต้นในการประกอบอาชีพหรือเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพและบรรเทาความเดือดร้อนจากการได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 |
|
กลุ่มเป้าหมาย |
ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมจากหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนที่มีความน่าเชื่อถือ หรือมีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพ ดังนี้ 1) ผู้เริ่มประกอบอาชีพและผู้ประกอบการรายย่อย ประกอบด้วย ผู้ที่ผ่านการอบรมอาชีพ “ช่าง” ทุกประเภท เช่น ช่างปูน ช่างแอร์ ช่างไฟฟ้า ช่างเชื่อม ช่างซ่อมอุปกรณ์ เป็นต้น และผู้ที่ไม่ใช่ช่าง เช่น ผู้ประกอบการเสริมสวยหรือตัดผม ผู้จำหน่ายสินค้าออนไลน์ เป็นต้น โดยมีใบประกาศนียบัตรหรือวุฒิบัตรที่ผ่านการอบรมจากหน่วยงานภาครัฐหรือภาคเอกชนหรือเอกสารอื่นๆ ตามประเภทของอาชีพ หรือมีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพดังกล่าวมาแล้ว 2) ผู้ประกอบการขนาดย่อม ประกอบด้วย ผู้ประกอบการที่มีสถานที่จำหน่ายแน่นอน เช่น ค้าปลีก ค้าส่ง โชห่วย แฟรนไชส์ เป็นต้น โดยมีทะเบียนพาณิชย์ ทะเบียนการค้า สัญญาแฟรนไชส์ หรือเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของอื่นๆ 3) ผู้ขับขี่รถสาธารณะ ประกอบด้วย ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ รถตู้สาธารณะ รถขนส่งสินค้า รถบรรทุก โดยมีใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะ หรือเอกสารอื่นๆ ตามประเภทของอาชีพ |
|
วงเงินรวม |
5,000 ล้านบาท (ธนาคารออมสิน) |
|
วงเงินอนุมัติสินเชื่อ |
ไม่เกิน 300,000 บาทต่อราย |
|
ระยะเวลาโครงการ |
1) ระยะเวลาการยื่นขอสินเชื่อ : ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 2) ระยะเวลาการให้กู้ยืม : รวมทั้งสิ้นต้องไม่เกิน 5 ปี (ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 งวดแรก) โดยธนาคารออมสินสามารถกำหนดระยะปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย รวมถึงหลักเกณฑ์เงื่อนไขเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม |
|
อัตราดอกเบี้ย |
ร้อยละ 3.99 ต่อปี (Effective Rate) |
|
เงื่อนไขการชดเชยของรัฐบาล |
รัฐบาลชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non - Performing Loans : NPLs) ร้อยละ 100 สำหรับ NPLs ที่ไม่เกินร้อยละ 30 ของวงเงินสินเชื่อที่อนุมัติทั้งหมด รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1,500 ล้านบาท (5,000 ล้านบาท * ร้อยละ 30 * ร้อยละ 100) โดยธนาคารออมสินจะทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณเป็นรายปีตามความเหมาะสมและความจำเป็นต่อไป |
|
เงื่อนไขอื่นๆ |
1) ธนาคารออมสินจะคืนดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 10 ของดอกเบี้ยที่ธนาคารออมสินได้รับในรอบปีนั้น (12 งวด) สำหรับลูกค้าที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อวงเงินไม่เกิน 100,000 บาทและมีประวัติชำระหนี้ดีตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป 2) ธนาคารออมสินจัดให้มีการฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อส่งเสริมความรู้ทางการเงินและยกระดับทักษะในการประกอบอาชีพให้แก่ลูกค้า รวมถึงจัดหาอุปกรณ์การค้าและสถานที่จำหน่ายสินค้า เพื่อลดภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายการหาเลี้ยงชีพและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้แก่ลูกค้า 3) แยกบัญชีโครงการเป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA) 4) ไม่นับรวม NPLs ที่เกิดจากการดำเนินงานของมาตรการดังกล่าวในการกำหนดตัวชี้วัดผลการดำเนินงานของธนาคารออมสิน |
|
ประโยชน์ที่จะได้รับ |
คาดว่าจะช่วยเหลือประชาชนให้สามารถกลับมาประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ประมาณ 60,000 ราย |
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 23 พฤศจิกายน 2564
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A11939