(ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570)
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Saturday, 13 November 2021 23:16
- Hits: 10561
(ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570)
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอดังนี้
1. รับทราบสาระสำคัญของ (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) (แผ่นพัฒนาฯ ฉบับที่ 13) และกรอบแนวคิดของการขับเคลื่อน ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13
2. มอบหมาย สศช. ประสานงานกับสำนักงบประมาณ (สงป.) เพื่อกำหนดกลไกที่เหมาะสมในการจัดสรรงบประมาณสำหรับสนับสนุนการขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 และมอบหมาย สงป. จัดทำยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ให้เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับ (ร่าง) แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 เพื่อให้การขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 สามารถบรรลุผลตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
โดยในส่วนการมอบหมาย สศช. นำความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ มาพิจารณาปรับปรุง (ร่าง) แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ ก่อนนำเสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะรัฐมนตรีพิจารณาความเหมาะสมตามลำดับต่อไป ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สาระสำคัญของเรื่อง
สศช. รายงานว่า ปัจจุบัน สศช. อยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อ (ร่าง) แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ซึ่งจะมีกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2564 จากนั้นจะเสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะรัฐมนตรีต่อไป ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
1. สาระสำคัญของ (ร่าง) แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ประกอบด้วย
1.1 บทบาท ความสำคัญ และสถานะ โดยที่แผนพัฒนาฯ เป็นแผนระดับที่ 2 ซึ่งเป็นกลไกในการถ่ายทอดยุทธศาสตร์ชาติไปสู่การปฏิบัติ ทำหน้าที่ระบุทิศทางและเป้าหมายการพัฒนาที่ประเทศควรให้ความสำคัญในระยะ 5 ปี ดังนั้น จึงได้มีการปรับเปลี่ยนกรอบการจัดทำ (ร่าง) แผนพัฒนาฯ (ฉบับที่ 13) ให้ครอบคลุมเฉพาะประเด็นการพัฒนาประเทศที่มีความสำคัญสูง ทั้งนี้ ประเด็นการพัฒนาภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติซึ่งไม่ได้ระบุไว้ใน (ร่าง) แผนพัฒนาฯ (ฉบับที่ 13) จะดำเนินการขับเคลื่อนผ่านแผนระดับ 2 ฉบับอื่นต่อไป
1.2 หลักการและแนวคิด 4 ประการ ได้แก่ (1) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (2) แนวคิด “ล้มแล้วลุกไว” (Resilience) มุ่งเน้นการลดความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลง และการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสเพื่อสร้างการเติบโตที่มีคุณภาพและยั่งยืน (3) เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ และ (4) โมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio – Circular -Green Economy: BCG) นอกจากนี้ยังได้คำนึงถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของบริบทในระดับประเทศและระดับโลกในระยะยาวอันเป็นผลสืบเนื่องจากโควิด - 19
1.3 วัตถุประสงค์และเป้าหมาย เพื่อพลิกโฉมประเทศไทย (ไทย) สู่ “สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน” โดยมีเป้าหมายหลักที่ต้องการบรรลุผล 5 ประการ สรุปได้ ดังนี้
เป้าหมาย |
สาระสำคัญ |
|
(1) การปรับโครงสร้างการผลิตสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม |
ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและบริการที่สำคัญให้สามารถตอบโจทย์พัฒนาการของเทคโนโลยีและสังคมยุคใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม |
|
(2) การพัฒนาคนสำหรับโลกยุคใหม่ |
พัฒนาคนไทยให้มีทักษะและคุณลักษณะที่เหมาะสมกับโลกยุคใหม่และเตรียมกำลังคนที่มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน |
|
(3) การมุ่งสู่สังคมแห่งโอกาสและความเป็นธรรม |
ลดความเหลื่อมล้ำเชิงรายได้ ความมั่นคง และโอกาสในการแข่งขันของภาคธุรกิจ รวมทั้งสนับสนุนช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางและผู้ด้อยโอกาสในการเลื่อนชั้นทางเศรษฐกิจและสังคม |
|
(4) การเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืน |
ปรับปรุงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตและการบริโภคให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับขีดความสามารถของระบบนิเวศและการแก้ไขปัญหามลพิษด้วยวิธีการที่ยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในระยะยาว |
|
(5) การเสริมสร้างความ สามารถของประเทศในการรับมือกับความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงภายใต้บริบทโลกใหม่ |
สร้างความพร้อมในการรับมือและแสวงหาโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงของโลก พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและกลไกทางสถาบันที่เอื้อต่อการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างและระบบการบริหารงานของภาครัฐ ให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของบริบททางเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี |
1.4 หมุดหมายการพัฒนา ได้กำหนด 13 หมุดหมายการพัฒนาเพื่อถ่ายทอดเป้าหมายหลักไปสู่ภาพของการขับเคลื่อนที่ชัดเจน โดยแบ่งเป็น 4 มิติ ดังนี้
มิติ |
หมุดหมายการพัฒนา |
|
(1) ภาคการผลิตและบริการเป้าหมาย 6 หมุดหมาย |
1. ไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง 2. ไทยเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน 3. ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของอาเซียน 4. ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง 5. ไทยเป็นประตูการค้าการลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ ที่สำคัญของภูมิภาค 6. ไทยเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลและอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะของอาเซียน |
|
(2) โอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม 3 หมุดหมาย |
7. ไทยมีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เข้มแข็ง มีศักยภาพสูง และสามารถแข่งขันได้ 8. ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน 9. ไทยมีความยากจนข้ามรุ่นลดลงและคนไทยทุกคนมีความคุ้มครองทางสังคมที่เพียงพอ เหมาะสม |
|
(3) ความยั่งยืนของทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2 หมุดหมาย |
10. ไทยมีเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ 11. ไทยสามารถลดความเสี่ยงและผลกระทบจากภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ |
|
(4) ปัจจัยผลักดันการพลิกโฉมประเทศ 2 หมุดหมาย |
12. ไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตอบโจทย์การพัฒนาแห่งอนาคต 13. ไทยมีภาครัฐที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ประชาชน |
2. กรอบแนวคิดของการขับเคลื่อน ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล ใช้หลักการของวงจรบริหารงานคุณภาพ (Plan-Do-Check-Act: PDCA) ซึ่งให้ความสำคัญกับการสร้างกระบวนการทำงานที่เป็นระบบและมีการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ มีสาระสำคัญ สรุปได้ ดังนี้
2.1 การขับเคลื่อน (Do) ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่ (1) การขับเคลื่อนแบบบนลงล่าง (Top down) โดยการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ที่มีองค์ประกอบครอบคลุมภาคีการพัฒนาทั้งภาครัฐและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการและสร้างความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ในการผลักดันให้การดำเนินงานสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 และ (2) การขับเคลื่อนแบบล่างขึ้นบน (Bottom up) ผ่านการจัดทำแผนพัฒนาภาค และจังหวัด/กลุ่มจังหวัด ที่มีการถ่ายระดับเป้าหมายการพัฒนาของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 โดยพิจารณาให้มีความสอดคล้องกับศักยภาพ ความต้องการและทรัพยากรของพื้นที่ รวมถึงเป็นไปตามนโยบาย หลักเกณฑ์ และแนวทาง ตามที่คณะกรรมการบูรณาการนโยบายภาคและคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการกำหนด
2.2 การติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล (Check) ใช้กลไกการทำงานที่มีอยู่ของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งมีภารกิจเกี่ยวข้องกับการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล เช่น ผู้ตรวจราชการ คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ สศช. และ สงป.
2.3 การปรับปรุงการดำเนินงานตามผลการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล (Act) หน่วยงานและกลไกที่เกี่ยวข้องนำผลการติดตามฯ ไปวิเคราะห์และประมวลผลเพื่อกำหนดมาตรการปรับปรุงแก้ไขการดำเนินงานให้มุ่งสู่เป้าหมายตามระยะเวลาที่กำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 9 พฤศจิกายน 2564
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A11385
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ