รายงานสถานการณ์การส่งออกของไทย เดือนสิงหาคม 2564
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Saturday, 13 November 2021 20:58
- Hits: 7153
รายงานสถานการณ์การส่งออกของไทย เดือนสิงหาคม 2564
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถานการณ์การส่งออกของไทย เดือนสิงหาคม 2564 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
1. สรุปสถานการณ์การส่งออกของไทย เดือนสิงหาคม 2564
การส่งออกของไทยในเดือนสิงหาคม 2564 มีมูลค่าสูงกว่า 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ด้วยมูลค่า 21,976.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวที่ร้อยละ 8.93 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวร้อยละ 19.43 เป็นผลจากการผลักดัน และแก้ไขอุปสรรคด้านการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจโลก โดย UNCTAD คาดว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะเติบโตรวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 5 ทศวรรษ โดยเฉพาะในประเทศคู่ค้าสำคัญ อาทิ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป สอดคล้องกับภาคการผลิตทั่วโลกที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตโลก (Global Manufacturing PMI) ที่อยู่เหนือระดับ 50 เป็นเดือนที่ 14 ซึ่งเป็นการเติบโตจากการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าวัตถุดิบ และสินค้าเพื่อการลงทุน นอกจากนี้ เงินบาทที่อ่อนค่าช่วยเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของสินค้าไทย ทั้งนี้ การส่งออก 8 เดือนแรกของปี 2564 ขยายตัวที่ร้อยละ 15.25 เมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ร้อยละ 21.22
มูลค่าการค้ารวม
มูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนสิงหาคม 2564 การส่งออก มีมูลค่า 21,976.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 8.93 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 23,191.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 47.92 ดุลการค้าขาดดุล 1,215.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภาพรวมการส่งออก 8 เดือนแรกของปี 2564 การส่งออก มีมูลค่า 176,961.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 15.25 การนำเข้า มีมูลค่า 175,554.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 30.97 ดุลการค้า 8 เดือนแรก เกินดุล 1,406.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
มูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนสิงหาคม 2564 การส่งออก มีมูลค่า 715,416.40 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 12.83 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 765,248.80 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 53.20 ดุลการค้าขาดดุล 49,832.40 ล้านบาท ภาพรวมการส่งออก 8 เดือนแรกของปี 2564 การส่งออก มีมูลค่า 5,441,613.75 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 13.78 การนำเข้า มีมูลค่า 5,476,523.71 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 29.52 ดุลการค้า 8 เดือนแรก ขาดดุล 34,909.96 ล้านบาท
การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร
มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 23.6 (YoY) ขยายตัว 9 เดือนต่อเนื่อง สินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ ยางพารา ขยายตัวร้อยละ 98.8 (ขยายตัวทุกตลาด อาทิ จีน มาเลเซีย ญี่ปุ่น สหรัฐฯ และฝรั่งเศส) ผัก ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ขยายตัวร้อยละ 84.8 (ขยายตัวหลายตลาด อาทิ จีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เวียดนาม และมาเลเซีย) น้ำมันปาล์ม ขยายตัวร้อยละ 51.0 (ขยายตัวทุกตลาด อาทิ อินเดีย มาเลเซีย เมียนมา จีน และกัมพูชา) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ขยายตัวร้อยละ 48.4 (ขยายตัวทุกตลาด อาทิ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ) ข้าว ขยายตัวร้อยละ 25.4 (ขยายตัวหลายตลาด อาทิ จีน เบนิน เซเนกัล อังโกลา และฮ่องกง) อาหารสัตว์เลี้ยง ขยายตัวร้อยละ 17.3 (ขยายตัวหลายตลาด อาทิ สหรัฐฯ มาเลเซีย ออสเตรเลีย อินเดีย และฟิลิปปินส์) น้ำตาลทราย ขยายตัวร้อยละ 5.5 (ขยายตัวหลายตลาด อาทิ อินโดนีเซีย กัมพูชา เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น) สินค้าที่หดตัว ได้แก่ สุกรสด แช่เย็น แช่แข็ง หดตัวร้อยละ 73.1 (หดตัวในตลาดฮ่องกง กัมพูชา และลาว แต่ขยายตัวดีในเมียนมา) ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป หดตัวร้อยละ 31.9 (หดตัวแทบทุกตลาด เช่น ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร จีน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ แต่ขยายตัวดีในตลาดเนเธอร์แลนด์) อาหารทะเลสด แช่เย็น แช่แข็งกระป๋องและแปรรูป หดตัวร้อยละ 10.4 (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ และออสเตรเลีย แต่ขยายตัวดีในตลาดญี่ปุ่น จีน แคนาดา เกาหลีใต้ และอียิปต์) เครื่องดื่ม หดตัวที่ร้อยละ 13.6 (หดตัวในตลาดกัมพูชา เมียนมา จีน สิงคโปร์ และลาว แต่ขยายตัวดีในตลาดเวียดนาม กานา อินโดนีเซีย และสหรัฐฯ) 8 เดือนแรกของปี 2564 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 14.7
การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม
มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 3.3 (YoY) ขยายตัว 6 เดือนต่อเนื่อง สินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ขยายตัวร้อยละ 68.3 (ขยายตัวทุกตลาด อาทิ จีน กัมพูชา ญี่ปุ่น อินเดีย และเวียดนาม) รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 17.8 (ขยายตัวในตลาดฟิลิปปินส์ สหรัฐฯ อินโดนีเซีย แอฟริกาใต้ และเม็กซิโก) รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 44.3 (ขยายตัวทุกตลาด อาทิ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และเบลเยียม) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 10.5 (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และเกาหลีใต้) เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ขยายตัวร้อยละ 60.3 (ขยายตัวแทบทุกตลาด อาทิ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย อินเดีย) อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัวร้อยละ 35.7 (ขยายตัวหลายตลาด อาทิ สหรัฐฯ อินเดีย สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ จีน) สินค้าที่หดตัว ได้แก่ เครื่องซักผ้า เครื่องซักแห้งและส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ 15.5 (หดตัวในตลาดเวียดนาม มาเลเซีย ออสเตรเลีย เปรู และอินโดนีเซีย แต่ขยายตัวได้ดีในตลาดสหรัฐฯ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ชิลี และเม็กซิโก) เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน หดตัวร้อยละ 7.6 (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ และเวียดนาม แต่ขยายตัวได้ดีในตลาดออสเตรเลีย อินโดนีเซีย อินเดีย และอาร์เจนตินา) เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว หดตัวร้อยละ 5.6 (หดตัวหลายตลาด อาทิ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง ออสเตรเลีย เวียดนาม แต่ขยายตัวได้ดีในตลาดจีน) ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป หดตัวร้อยละ 85.8 (หดตัวในตลาดสิงคโปร์ ฮ่องกง สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรเลีย แต่ขยายตัวได้ดีในตลาด สปป.ลาว เกาหลีใต้ กัมพูชา ญี่ปุ่น และไต้หวัน) 8 เดือนแรกของปี 2564 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 14.4
ตลาดส่งออกสำคัญ
การส่งออกไปยังตลาดส่งออกสำคัญยังขยายตัวต่อเนื่อง แม้ว่าจะชะลอลงบางส่วนจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าในหลายประเทศ การส่งออกไปกลุ่มตลาดต่างๆ สรุป ดังนี้ 1) ตลาดหลัก ขยายตัวร้อยละ 18.2 โดยขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ร้อยละ 16.2 จีน ร้อยละ 32.3 ญี่ปุ่น ร้อยละ 10.0 สหภาพยุโรป (27) ร้อยละ 16.1 อาเซียน (5) ร้อยละ 26.9 ขณะที่ CLMV หดตัวเล็กน้อยร้อยละ 0.03 2) ตลาดรอง ขยายตัวร้อยละ 18.4 ขยายตัวเกือบทุกกลุ่มตลาด ได้แก่ เอเชียใต้ ร้อยละ 54.5 ตะวันออกกลาง ร้อยละ 31.9 ทวีปแอฟริกา ร้อยละ 27.5 ลาตินอเมริกา ร้อยละ 50.8 และรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS ร้อยละ 44.8 ขณะที่ทวีปออสเตรเลียหดตัวร้อยละ 15.9 และ 3) ตลาดอื่นๆ หดตัวร้อยละ 90.1
2. แนวโน้ม และมาตรการส่งเสริมการส่งออกในปี 2564
การส่งออกของไทยในปี 2564 มีแนวโน้มของการขยายตัวที่ดี สะท้อนจาก (1) สินค้าอุตสาหกรรมหลายรายการยังเติบโตได้ต่อเนื่อง เป็นสัญญาณบวกต่อภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกของไทย (2) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ช่วยสนับสนุนการขยายตัวของการส่งออกของสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน อาทิ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ (3) มาตรการผ่อนคลายการล็อกดาวน์ในสหรัฐฯ จีน และสหภาพยุโรป และการเร่งฉีดวัคซีนทั่วโลก ส่งผลดีต่อกำลังซื้อของประเทศคู่ค้า (4) ค่าเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อสินค้าส่งออกของไทยที่เน้นการแข่งขันด้านราคา สำหรับแผนส่งเสริมการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ยังคงมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” และแผนงานของกระทรวงพาณิชย์ที่กำหนดไว้ โดยในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 จะมีกิจกรรมที่ช่วยขับเคลื่อนการส่งออกอย่างต่อเนื่อง สำหรับกิจกรรมในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคมนี้ เช่น งานยี่ปั๊วออนไลน์ ครั้งที่ 2 (20-24 ก.ย. 64) กิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์กลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม (22-24 ก.ย. 64) และผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย (29-30 ก.ย. 64) งานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทยในรูปแบบเสมือนจริง THAIFEX (29 ก.ย. - 3 ต.ค. 64) โครงการจับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับ SME ส่งออก เฟส 2 (ก.ย. - พ.ย. 64) เป็นต้น นอกจากนี้ ในช่วงปลายปียังจะมีงานแสดงสินค้านานาชาติอัญมณีและเครื่องประดับ “Phuket Gems Fest” รวมถึงการเดินหน้าผลักดันกิจกรรมภายใต้ “มินิเอฟทีเอ ไทย-ไห่หนาน” โดยมีแผนที่จะจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ไทย-ไห่หนาน และการจัดงานแสดงสินค้ารูปแบบ Mirror & Mirror นำร่องธุรกิจบริการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งไทยมีโอกาสผลักดันทั้งสินค้าและบริการเชิงสุขภาพเข้าไปให้บริการในไห่หนาน เช่น นวดแผนไทย สปา ผลิตภัณฑ์ด้านความงาม ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย และการให้บริการสุขภาพแบบองค์รวม
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 9 พฤศจิกายน 2564
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A11376
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ