การพิจารณาขยายเวลาการปรับลดอัตราเงินนำส่งจากสถาบันการเงินเป็นการชั่วคราวในปี 2565
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 20 October 2021 01:17
- Hits: 8905
การพิจารณาขยายเวลาการปรับลดอัตราเงินนำส่งจากสถาบันการเงินเป็นการชั่วคราวในปี 2565
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอการพิจารณาขยายเวลาการปรับลดอัตราเงินนำส่งจากสถาบันการเงินเป็นการชั่วคราวในปี 2565 [เป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (10 เมษายน 2555) ที่ให้ กค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยมีการหารืออย่างสม่ำเสมอถึงความเหมาะสมของอัตราการเรียกเก็บเงินนำส่งของสถาบันคุ้มครองเงินฝากและ ธปท. โดยคำนึงถึงปริมาณภาระหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน สถานการณ์ทางเศรษฐกิจโดยรวม และสถานะความมั่นคงของสถาบันการเงิน รวมทั้งความจำเป็นในการขยายภารกิจในการดูแลสถาบันการเงินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และแจ้งความคืบหน้าแก่คณะรัฐมนตรีเพื่อทราบอย่างน้อยเป็นรายปี] สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีความยืดเยื้อและ มีความไม่แน่นอนสูง ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในประเทศและกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคบริการ ทำให้ ภาคธุรกิจและประชาชนมีสถานะทางการเงินที่เปราะบางมากขึ้น แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาภาคธุรกิจและประชาชนอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่าภาคธุรกิจและประชาชนต้องการความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ธปท. จึงเห็นสมควรให้ขยายเวลาการปรับลดอัตราเงินนำส่งจากสถาบันการเงินเป็นการชั่วคราวอีก 1 ปี จากเดิมอัตราร้อยละ 0.46 ต่อปี เป็นร้อยละ 0.23 ต่อปี จนถึงสิ้นปี 2565 (กค. ไม่ขัดข้องกับผลการพิจารณาของ ธปท.) เพื่อลดภาระต้นทุนทางการเงินของสถาบันการเงินและส่งผ่านต้นทุนที่ลดลงดังกล่าวไปช่วยบรรเทาผลกระทบต่อภาคธุรกิจและประชาชน ทั้งนี้ ธปท. จะติดตามการดำเนินการดังกล่าว เพื่อให้มั่นใจว่าสถาบันการเงินได้ให้ความช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชนอย่างเต็มที่
2. ธปท. ได้ประเมินผลกระทบจากการขยายเวลาการปรับลดอัตราเงินนำส่งจากสถาบันการเงินดังกล่าว พบว่า ยังมีเงินเพียงพอสำหรับการชำระดอกเบี้ยหนี้เงินกู้ ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 (FIDF 1) และพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง พ.ศ. 2545 (FIDF 3) ในช่วงเวลาดังกล่าว และประมาณการว่า การชำระคืนหนี้ต้นเงิน FIDF 1 และ FIDF 3 จะเสร็จสิ้นภายในปี 2574 เช่นเดิม
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 19 ตุลาคม 2564
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A10647
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ