ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล และการกำหนดแบบเอกสารที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2552
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 12 October 2021 21:30
- Hits: 9032
ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล และการกำหนดแบบเอกสารที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2552
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล และการกำหนดแบบเอกสารที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2552 ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ตรวจพิจารณาแล้ว และแบบประวัติบุคคล (รปภ.1) ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติขอแก้ไข ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
ทั้งนี้ ร่างประกาศดังกล่าวที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติอนุมัติในหลักการและคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ได้ตรวจพิจารณาแล้ว เป็นการยกเลิกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2552 และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดแบบเอกสารที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2552 โดยกำหนดเป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับใหม่ขึ้น เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล และเอกสารหลักฐานที่ใช้ประกอบการรักษาความปลอดภัยให้มีความเหมาะสมและทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อันจะทำให้เกิดการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนทำให้การตรวจสอบบุคคลซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อราชการ ซึ่งสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้ยืนยันให้ดำเนินการต่อไป โดยขอแก้ไขข้อความในแบบประวัติบุคคล (รปภ.) ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น
สาระสำคัญของร่างประกาศ
1. ยกเลิกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2552 และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดแบบเอกสารที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัย ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2552
2. แก้ไขเพิ่มเติมให้ “ผู้ถูกตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล” เป็น “เจ้าของประวัติ” กรอกรายละเอียดในแบบประวัติบุคคล โดยกำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลซึ่งได้แก่ ผู้ที่อยู่ระหว่างรอว่าจ้าง บรรจุ หรือแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ที่จะได้รับความไว้วางใจให้เข้าถึงสิ่งที่เป็นความลับของทางราชการหรือให้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับภารกิจที่สำคัญหรือทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน โดยบุคคลเจ้าของประวัติต้องกรอกรายละเอียดในแบบประวัติบุคคล (รปภ.1) ให้ครบถ้วน และอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ควบคุมการรักษาความปลอดภัย หรือเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยควบคุมการรักษาความปลอดภัยในหน่วยงานของรัฐนั้น
3. เพิ่มกระบวนการในการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์ (จากเดิมให้ดำเนินการตรวจสอบพิมพ์ลายนิ้วมือ) โดยเพิ่มเติมให้ดำเนินการพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลด้วยวิธีการอื่นได้ในกรณีที่ไม่สามารถตรวจสอบลายนิ้วมือได้ โดยกำหนดให้หน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องทำหนังสือถึงหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์ของบุคคล เพื่อดำเนินการพิมพ์ลายนิ้วมือและตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือ ส่วนกรณีที่ไม่สามารถตรวจสอบลายนิ้วมือได้ ให้ดำเนินการด้วยวิธีอื่น ในการนี้ให้มีการตรวจสอบประวัติการต้องหาคดีอาญาด้วย ซึ่งอาจตรวจสอบจากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง แล้วแจ้งผลการดำเนินการถึงหน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องโดยตรง ทั้งนี้ ให้องค์การรักษาความปลอดภัยร่วมกันพิจารณาวางแนวทางการตรวจสอบพฤติการณ์ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐรับไปดำเนินการเป็นการทั่วไปได้ โดยอาจเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมพิจารณาได้
4. แก้ไขเพิ่มเติมกรณีผลการตรวจสอบตามข้อ 3 ปรากฏว่า บุคคลเจ้าของประวัติมีความผิด หรือ มีผลของคดี หรือมีพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสมหรือมีผลกระทบต่อการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาผลการตรวจสอบว่าจะสั่งบรรจุ แต่งตั้ง หรือว่าจ้าง หรือให้บุคคลนั้นพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ และให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
5. แก้ไขเพิ่มเติมการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลโดยละเอียดให้รวมถึงบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน
6. กำหนดเพิ่มเติมให้ในกรณีที่มีความจำเป็น องค์การรักษาความปลอดภัย อาจประสานกับหน่วยงานของรัฐ เพื่อตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์โดยละเอียดของบุคคล ที่จะบรรจุเข้ารับราชการ หรือว่าจ้าง หรือมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจหรือตำแหน่งที่สำคัญหรือเข้าถึงสิ่งที่เป็นความลับของทางราชการและทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน หรือบุคคลที่มีพฤติการณ์ที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคงและผลประโยชน์แห่งรัฐได้ตามความเหมาะสม โดยให้บุคคลดังกล่าวลงนามในบันทึกรับรองการรักษาความลับเมื่อเข้ารับการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจหรือตำแหน่งหน้าที่ตามแบบ รปภ.3
7. กำหนดให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการให้มีการรับรองความไว้วางใจแก่เจ้าหน้าที่ในสังกัดตามระดับความไว้วางใจตามแบบ รปภ.4 และจัดให้มีทะเบียนความไว้วางใจตามแบบ รปภ.5 รวมทั้งกำหนดให้บุคคลใดเมื่อพ้นจากภารกิจหรือตำแหน่งหน้าที่เกี่ยวกับความลับของทางราชการ ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการให้บุคคลนั้นลงชื่อในบันทึกรับรองการรักษาความลับเมื่อพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจหรือตำแหน่งหน้าที่ตามแบบ รปภ.6
8. ปรับปรุงแบบเอกสารที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัยให้เป็นปัจจุบันและมีความเหมาะสม ประกอบด้วย 6 แบบ ได้แก่
(1) แบบประวัติบุคคล (รปภ.1)
(2) แบบบันทึกเปลี่ยนแปลงประวัติบุคคล (รปภ.2)
(3) แบบบันทึกรับรองการรักษาความลับเมื่อเข้ารับการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจหรือตำแหน่งหน้าที่ (รปภ.3)
(4) แบบใบรับรองความไว้วางใจ (รปภ.4)
(5) แบบทะเบียนความไว้วางใจ (รปภ.5)
(6) แบบบันทึกรับรองการรักษาความลับเมื่อพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจหรือตำแหน่งหน้าที่ (รปภ.6)
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 12 ตุลาคม 2564
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A10413
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ