นโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนการบริหารจัดการทุนพัฒนากำลังคนการอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาประเทศ
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 22 September 2021 00:10
- Hits: 1251
นโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนการบริหารจัดการทุนพัฒนากำลังคนการอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาประเทศ
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนการบริหารจัดการทุนพัฒนากำลังคน การอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาประเทศ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เสนอ
ทั้งนี้ อว. เสนอว่า นโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนฯ เป็นกรอบในการกำหนดทิศทางการจัดสรรทุนที่ชัดเจนเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลง และความต้องการของประเทศได้อย่างทันเวลา โดยตั้งเป้าหมายในการ “ให้ทุน” เพื่อมุ่งเน้นการ “สร้างคน” ให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วภายใน 10 ปี จึงจำเป็นต้องเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วน เพื่อจัดทำโครงการด้านการจัดสรรทุนพัฒนากำลังคนการอุดมศึกษา ในการพัฒนาประเทศ และเร่งรัดการผลิตกำลังคนระดับสูงให้ตอบโจทย์ประเทศ กำหนดแผนงานให้เกิดความชัดเจนต่อไป
สาระสำคัญ
เนื่องจากทุนการศึกษาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการ “สร้างคน” เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาประเทศ และเร่งรัดการผลิตกำลังคนระดับสูงให้ตอบโจทย์ประเทศ จึงต้องกำหนดจุดเน้น (Focus) การจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง (Priority) หรือหาทางลัด (By-pass) เพื่อให้ดำเนินการอย่างมีเป้าหมายและเกิดผลสัมฤทธิ์ โดยสนับสนุน ส่งเสริมให้มีการจัดสรรทุนในสาขาที่หลากหลายครอบคลุมสหวิทยาการ ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ มนุษย์ศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ มีระบบบริหารจัดการทุนในภาพรวมของประเทศที่มีเอกภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
นโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนการบริหารจัดการทุนพัฒนากำลังคนการอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาประเทศ เพื่อกำหนดทิศทางการจัดสรรทุนที่ชัดเจนรองรับความเปลี่ยนแปลง และความต้องการของประเทศได้อย่างทันเวลา สะท้อนภารกิจของอุดมศึกษาที่จะเป็นกลไกในการขับเคลื่อน การพัฒนาประเทศในฐานะเป็นมันสมองอย่างแท้จริง โดยมีเป้าหมายการดำเนินงาน ดังนี้
1) หน่วยบริหารทุนมีความเป็นเอกภาพ ในการนำนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อน การบริหารจัดการทุนไปสู่การปฏิบัติ
2) มีแผนการดำเนินงานและแผนงบประมาณที่ชัดเจน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เกิดการบริหารจัดการที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด เกิดผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานที่ตอบโจทย์ประเทศได้ สามารถทำให้ประเทศไทยก้าวพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลาง
3) ผลการประเมินการใช้ประโยชน์ และการใช้ศักยภาพจากผู้รับทุน เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่โครงการได้กำหนดไว้ มีการใช้งบประมาณของประเทศที่คุ้มค่า และเกิดการพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการของภาคการผลิตด้านต่างๆ ด้วยผลผลิตจากผู้รับทุนที่กลับมาสร้างนวัตกรรมที่เหมาะสมกับประเทศไทยและสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้จริง
1. แนวทางการขับเคลื่อน ประกอบด้วย 3 แนวทาง มีสาระสำคัญ ดังนี้
1.1 ปฏิรูปกลไกการบริหารจัดการทุนให้มีความเป็นเอกภาพภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการบริหารจัดการทุน ประกอบด้วย
1) การบูรณาการหน่วยบริหารจัดการทุนให้มีเอกภาพ เนื่องจากหน่วยบริหารจัดการทุนของประเทศมีหลายแหล่งทุนหลายกระทรวง อีกทั้งภายในกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ก็มีหลายหน่วยงานที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยจัดสรรและบริหารทุนการศึกษา ประเภทต่างๆ ตั้งแต่ทุนระดับมัธยมศึกษา ปริญญาตรี ปริญญาโท และระดับปริญญาเอก ซึ่งการให้ทุนเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแต่ละโครงการ อาจทำให้เกิดความซ้ำซ้อน จึงจำเป็นต้องมีการบูรณาการหน่วยบริหารจัดการทุนให้มีเอกภาพ
2) การจัดสรรทุนเพื่อพัฒนาสมรรถนะ (Competency) และทักษะที่จำเป็นในการพัฒนาประเทศ (Non-degree) เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) และทันต่อความต้องการกำลังคนในภาคการผลิตและอุตสาหกรรมสำคัญในระยะสั้น โดยลักษณะความร่วมมือกันระหว่างสถาบันการศึกษา ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม
3) กำหนดคุณสมบัติของผู้รับทุนให้ชัดเจน และกำหนดวิธีการสรรหาและการคัดเลือกที่มีรูปแบบหลากหลายสอดคล้องกับบริบทโลก ทั้งกลไกการสรรหา (Recruit) และรับเข้า (Admit) อย่างเหมาะสมตามสถานการณ์
4) ปรับรูปแบบ/เงื่อนไขการรับทุนให้มีความยืดหยุ่น เพื่อดึงดูดผู้รับทุนที่มีศักยภาพสูงทั้งในและต่างประเทศตลอดเวลาทั้งการศึกษารวมทั้งผู้ที่จบการศึกษาแล้ว
5) พัฒนาและสร้างแรงจูงใจกับผู้รับทุนเข้าร่วมโครงการ โดยปรับรูปแบบและเงื่อนไขการรับทุน รวมทั้งการชดใช้ทุนให้มีความยืดหยุ่น เพื่อดึงดูดและสร้างแรงจูงใจผู้รับทุนที่มีศักยภาพสูงทั้งในและต่างประเทศ ตลอดเวลาทั้งการศึกษารวมทั้งผู้ที่จบการศึกษาแล้ว
6) พัฒนาระบบฐานข้อมูลทุนการศึกษาให้ทันสมัย เป็นปัจจุบัน และสามารถใช้ประโยชน์เชิงนโยบายได้ โดยปฎิรูประบบฐานข้อมูลทุนการศึกษาทั้งระบบ ด้วยการกำหนด Data Catalog จัดทำและบูรณาการการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลกลางร่วมกัน สร้างสารสนเทศด้านทุนพัฒนากำลังคนการอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาประเทศ
7) กำหนดแนวทางการจัดสรรทุน เช่น ประเภทการรับทุน สาขาวิชา ประเทศที่ไปศึกษา โดยมีกลยุทธ์และทิศทางที่สอดคล้องกับความจำเป็นและเร่งด่วนในการพัฒนาประเทศ
1.2 จัดสรรทุนเพื่อสร้างคนให้ตรงกับตลาดงานและสอดคล้องกับความต้องการของประเทศ ประกอบด้วย
1) จัดสรรทุนเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนระดับสูงเฉพาะทางตามความต้องการของประเทศ (Demand Side) โดยการกำหนดเป้าหมายและจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มสาขาวิชา ตามความเร่งด่วนเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณในการจัดสรรทุนเกิดความคุ้มค่าและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ
2) จัดสรรทุนเพื่อพัฒนากำลังคนที่มีความรู้ความสามารถขั้นสูงและมีสมรรถนะตามความต้องการของตลาดงานที่เปลี่ยนแปลงไป จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) ทำให้ความต้องการ ความรู้ในการพัฒนาประเทศเปลี่ยนไป ทั้งภาคการศึกษา การสาธารณสุข อุตสาหกรรม และการสื่อสารต่างๆ เช่น คนที่มีความรู้ในการผลิตวัคซีน การผลิตแพลตฟอร์ม เทคโนโลยีทางอาหาร ความสามารถทางอากาศยาน เป็นต้น
3) กำหนดสัดส่วนการจัดสรรทุนโดยเน้นสาขาวิชาที่มีความจำเป็นต่อการกำหนดยุทธศาสตร์เชิงพื้นที่ (Strategic, Function, Area) เช่น การนำ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ โมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Model) มาช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
4) บริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ในการกำหนดประเทศที่ไปศึกษาสาขาวิชาตามยุทธศาสตร์ชาติ และแผนด้านอุดมศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศ
5) กำหนดแนวทางการต่อยอดการพัฒนาสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นเพื่อดึงดูดกำลังคนที่มีคุณภาพ ในการพัฒนาประเทศ
6) บูรณาการการจัดสรรทุนกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนด้านการอุดมศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศ และมีเป้าหมายการผลิตกำลังคนที่ชัดเจน
1.3 ขับเคลื่อน ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานให้เป็นระบบและสม่ำเสมอ รวมทั้งวางแผนการใช้ประโยชน์จากผู้รับทุน ประกอบด้วย
1) ขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นไปตามทิศทางและเป้าหมาย
2) ติดตามการศึกษาและใช้ประโยชน์จากนักเรียนทุนอย่างเป็นระบบจากฐานข้อมูลทุนการศึกษา
3) วางระบบในการดูแลผู้รับทุน มีหน่วยงานที่ดูแลและติดตามผู้รับทุนอย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ
4) ใช้ศักยภาพของผู้รับทุนอย่างเต็มที่เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนากำลังคนเพื่อพัฒนาประเทศตั้งแต่ระยะที่มีการศึกษา
5) สร้างความก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพ (Career Path) ของผู้รับทุนให้ชัดเจน
6) สร้างความร่วมมือกับภาคเอกชน ภาคการผลิต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมผลิตหรือแลกเปลี่ยนความรู้/เทคโนโลยี โดยอาจมีการปรับเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติงานชดใช้ทุนให้มีรูปแบบที่ดึงดูดผู้รับทุนไปทำงานให้เต็มศักยภาพ
7) มีระบบการรายงานผลการดำเนินการในภาพรวมอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ
2. ความสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศ
2.1 ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (2561–2580) ในยุทธศาสตร์ที่ 3 ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ โดยคนไทยมีความพร้อมทั้งกาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการที่ดีรอบด้านและมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วงวัย มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมและผู้อื่น มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย รักษาศีลธรรมและเป็นพลเมืองดีของชาติ มีหลักคิดที่ถูกต้อง มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 มีทักษะสื่อสารภาษาอังกฤษและภาษาที่สาม และอนุรักษ์ภาษาท้องถิ่น มีนิสัยรักการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต สู่การเป็นคนไทยที่มีทักษะสูง เป็นนวัตกร นักคิด ผู้ประกอบการ เกษตรกรยุคใหม่ และอื่นๆ โดยมีสัมมาชีพตามความถนัดของตนเอง
2.2 แผนด้านการอุดมศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศ พ.ศ. 2564 – 2570 มีวิสัยทัศน์ “อุดมศึกษาสร้างคน สร้างปัญญา เพื่อพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืน” โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการ ได้แก่ (1) กำลังคนมีคุณภาพและปริมาณรองรับการพัฒนาประเทศ และการเปลี่ยนแปลงตามกระแสโลก (2) งานวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน และ (3) สถาบันอุดมศึกษามีสมรรถนะตรงตามอัตลักษณ์/จุดแข็ง เพื่อให้เกิดคุณภาพในระบบอุดมศึกษา
2.3 (ร่าง) กรอบนโยบายและยุทธศาสตร์การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2566 – 2570 มีวิสัยทัศน์ “สานพลังการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมไทย พลิกโฉมให้ประเทศมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน ยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้วยเศรษฐกิจสร้างคุณค่า และพร้อมก้าวสู่อนาคต” ซึ่งได้กำหนดประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนากำลังคน สถาบันอุดมศึกษา และสถาบันวิจัยให้เป็นฐานการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศแบบก้าวกระโดดและอย่างยั่งยืน
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 21 กันยายน 2564
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
A9753