ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 34/2564
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 21 September 2021 23:47
- Hits: 667
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 34/2564
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ (คกง.) ในคราวประชุมครั้งที่ 34/2564 เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2564 และที่ได้มีมติที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณากลั่นกรองข้อเสนอแผนงานหรือโครงการเพื่อขอใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 (พระราชกำหนดฯ) และการพิจารณาจัดทำข้อเสนอแนวทางการดำเนินการตามพระราชกำหนดฯ รวมทั้งการพิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมของการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ ดังนี้
1. อนุมัติโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ครั้งที่ 6 รวม 6 จังหวัด (จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดสกลนคร จังหวัดชัยนาท จังหวัดราชบุรี และจังหวัดสุพรรณบุรี) จำนวน 834 โครงการ กรอบวงเงินรวม 1,942,302,315 บาท โดยให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน (แผนงานที่ 3.2) ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดฯ พร้อมทั้งเห็นควรให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการเร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายใต้กรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565 นอกจากนี้เห็นควรมอบหมายให้จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดสกลนคร จังหวัดชัยนาท จังหวัดราชบุรี และจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการและดำเนินการตามมติคณะกรรมการฯ โดยเคร่งครัด
2. มอบหมายให้หน่วยงานของรัฐที่อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อขอใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ และเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายจากคณะรัฐมนตรี (เฉพาะในส่วนของการปรับเพิ่มกรอบวงเงินของโครงการ) พิจารณาดำเนินการโดยจัดหาแหล่งเงินอื่นๆ ดำเนินการตามความเหมาะสมของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
3. มอบหมายให้หน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายจากคณะรัฐมนตรีอยู่ระหว่างจัดทำข้อเสนอเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของโครงการ (ไม่รวมการปรับเพิ่มกรอบวงเงินของโครงการ) เร่งจัดทำข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีผ่านกระทรวงเจ้าสังกัดเสนอคณะกรรมการฯ พิจารณาตามขั้นตอนข้อ 18 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 พ.ศ. 2563 (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ) พร้อมระบุเหตุผลและความจำเป็นเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ทั้งนี้ การขยายระยะเวลาดำเนินการตามแผนงาน/โครงการจะต้องดำเนินการให้สิ้นสุดภายในเดือนธันวาคม 2564
4. อนุมัติให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปรับปรุงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ กรณีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และโครงการทัวร์เที่ยวไทย ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว ทั้งนี้ เห็นควรให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเร่งดำเนินการแก้ไขข้อมูลโครงการในระบบ eMENSCR โดยเร็ว
5. อนุมัติให้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการขององค์กรภาคประชาชนที่อยู่ในความรับผิดชอบ จำนวน 2 โครงการ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้เห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว ทั้งนี้ เห็นควรให้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเร่งดำเนินการแก้ไขข้อมูลโครงการในระบบ eMENSCR โดยเร็ว
6. อนุมัติให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ และโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว ทั้งนี้ เห็นควรให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เร่งดำเนินการแก้ไขข้อมูลโครงการในระบบ eMENSCR โดยเร็ว
สาระสำคัญ
1. คกง. เห็นชอบให้ ททท. ปรับปรุงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ กรณีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และโครงการทัวร์เที่ยวไทย โดยเปลี่ยนแปลงระยะเวลาสิ้นสุดการดำเนินโครงการฯ เป็นสิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 โดยกำหนดให้ประชาชนใช้สิทธิ์ได้ไม่เกินวันที่ 31 มกราคม 2565 และให้ ททท. เร่งรัดการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ทั้งนี้ ในกรณีที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 มีความรุนแรงเกิดขึ้นในช่วงระหว่างดำเนินโครงการเห็นควรให้ ททท. เสนอขอยุติการดำเนินโครงการฯ ทั้ง 2 โครงการ และเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการทัวร์เที่ยวไทย ดังนี้ (1) เปลี่ยนแปลงการเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัด จากเดิมเดินทางได้เฉพาะวันอาทิตย์ - พฤหัสบดี) เป็น สามารถเดินทางได้ทุกวัน และ (2) เปลี่ยนแปลงจำนวนรายการข้อมูลแพ็คเกจนำเที่ยว จากเดิม กำหนดให้มีรายการนำเที่ยว 15 รายการต่อบริษัท เพิ่มขึ้นเป็น 30 รายการต่อบริษัท ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เห็นชอบตามขั้นตอนแล้วเพื่อให้การดำเนินโครงการฯ สามารถกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น
2. คกง. เห็นชอบให้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการขององค์กรภาคประชาชนที่อยู่ในความรับผิดชอบ จำนวน 2 โครงการ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้เห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว โดยเป็นการขยายระยะเวลาดำเนินโครงการ ดังนี้
1) โครงการส่งเสริมอาชีพและสร้างงาน สร้างรายได้แก่ผู้พิการ ผู้ดูแลคนพิการหรือครอบครัวคนพิการ ทั้ง 7 ประเภท ของบริษัท สังคมดี วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด จากเดิมตั้งแต่เดือนมีนาคม - กันยายน 2564 เป็นตั้งแต่เดือนมีนาคม - ธันวาคม 2564
2) โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจครัวเรือนคนพิการและครอบครัวด้วยเกษตรสมัยใหม่และยกระดับการแปรรูปผลิตภัณฑ์และอาหาร โดยใช้การตลาดผสมผสาน Online ผ่าน Social Media ของมูลนิธิสภาศูนย์การดำรงชีวิตอิสระคนพิการประเทศไทย จากเดิมตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2564 เป็นตั้งแต่เดือนมกราคม - ธันวาคม 2564
3. คกง. เห็นชอบให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ และโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เห็นชอบตามขั้นตอนแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับผลการดำเนินโครงการดังนี้
1) โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ โดยขอปรับลดจำนวนกลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการดังกล่าวจากเดิม “ไม่เกิน 1.4 ล้านคน” เป็น “ไม่เกิน 1 ล้านคน” ซึ่งจะส่งผลให้กรอบวงเงินของโครงการฯ ลดลงจากเดิมวงเงิน 9,800 ล้านบาท เป็นวงเงิน 7,000 ล้านบาท
2) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 โดยขอปรับลดจำนวนกลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการดังกล่าว จากเดิม “ไม่เกิน 31 ล้านคน” เป็น “ไม่เกิน 28 ล้านคน” ซึ่งจะส่งผลให้กรอบวงเงินของโครงการฯ ลดลงจากเดิม 93,000 ล้านบาท เป็นวงเงิน 84,000 ล้านบาท
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 21 กันยายน 2564
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
A9745