ร่างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ....
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 07 September 2021 22:58
- Hits: 11509
ร่างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ....
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและรับทราบดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตและความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอ สภาผู้แทนราษฎรต่อไป
2. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
ทั้งนี้ คค. เสนอว่า
1. โดยที่พระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม มีการใช้บังคับมาเป็นเวลานาน ทำให้มีบทบัญญัติบางมาตราที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และไม่เอื้ออำนวย ต่อการดำเนินกิจการและการบริหารงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ดังนั้น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการประกอบกิจการท่าเรือ สมควรแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์และอำนาจการดำเนินกิจการท่าเรือ รวมทั้งปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจของคณะกรรมการ กทท. ให้มีความเหมาะสม ปรับปรุงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของประธานกรรมการ กรรมการ และผู้ว่าการ กทท. เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้ สมควรปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับกิจการที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ตลอดจนบทบัญญัติเกี่ยวกับบทกำหนดโทษ และการเปรียบเทียบปรับ เพื่อให้ การประกอบกิจการท่าเรือมีความคล่องตัวและเกิดประโยชน์สูงสุด จึงจำเป็นต้องตราร่างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ฉบับนี้
2. คค. ได้ดำเนินการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้แล้ว โดยดำเนินการผ่านเว็บไซต์ กทท. www.port.co.th ระหว่างวันที่ 3 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 และได้มีหนังสือถึงหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน จำนวน 1 ครั้ง เพื่อรับฟังความคิดเห็น เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 และให้แจ้งผลกลับมาภายในวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 นอกจากนี้ ได้จัดทำสรุปผลการ รับฟังความคิดเห็นและรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายพร้อมทั้งเปิดเผยเอกสารดังกล่าวผ่านทางเว็บไซต์ ww.port.co.th ตามแนวทางของมติคณะรัฐมนตรี (19 พฤศจิกายน 2562) เรื่อง การดำเนินการ เพื่อรองรับและขับเคลื่อนการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมาย และการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 รวมทั้งได้จัดทำแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และ กรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีด้วยแล้ว
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์และอำนาจการดำเนินกิจการของ กทท. ปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจของคณะกรรมการ กทท. ปรับปรุงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของประธานกรรมการ กรรมการ และ ผู้ว่าการ กทท. ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับกิจการที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และบทบัญญัติเกี่ยวกับบทกำหนดโทษและการเปรียบเทียบปรับ รายละเอียดดังนี้
1. กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงว่าด้วยการควบคุม ปรับปรุง และให้ความสะดวกและความปลอดภัยแก่กิจการท่าเรือและการเดินเรือภายในอาณาบริเวณและการอื่น เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติ
2. กำหนดให้ กทท. มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับท่าเรือหรือที่เป็นประโยชน์แก่ กทท.
3. กำหนดให้ กทท. มีอำนาจกระทำการต่างๆ ภายในขอบวัตถุประสงค์ และอำนาจเช่นว่านี้ให้รวมถึง
3.1 สร้าง ซื้อ จัดหา จำหน่าย เช่า ให้เช่า จ้าง รับจ้างและดำเนินงานเกี่ยวกับเครื่องใช้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของกิจการท่าเรือ
3.2 ถือกรรมสิทธิ์หรือมีสิทธิครอบครองหรือทรัพยสิทธิต่างๆ สร้าง ซื้อ จัดหา ขาย จำหน่าย เช่า ให้เช่า เช่าซื้อ ให้เช่าซื้อ ยืม ให้ยืม รับจำนำ รับจำนอง แลกเปลี่ยน โอนหรือรับโอนหรือการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวกับทรัพย์สินทั้งในและนอกราชอาณาจักร ตลอดจนรับทรัพยสิทธิที่มีผู้บริจาคให้
3.3 กำหนดอัตราค่าภาระ การจัดเก็บ และการยกเว้นค่าภาระการใช้ท่าเรือ บริการ และความสะดวกต่างๆ ของกิจการท่าเรือ และออกระเบียบเกี่ยวกับวิธีชำระค่าภาระดังกล่าว
3.4 จัดระเบียบว่าด้วยการใช้ท่าเรือ บริการและความสะดวกต่างๆ ของกิจการท่าเรือ
3.5 จัดระเบียบว่าด้วยความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม
3.6 กู้ยืมเงินทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร
3.7 ขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำภายในอาณาบริเวณ หรือนอกอาณาบริเวณ ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย
3.8 ควบคุม ปรับปรุง และให้ความสะดวกและความปลอดภัยแก่กิจการท่าเรือและ การเดินเรือภายในอาณาบริเวณ
3.9 กำหนดอัตราค่าภาระต่างๆ และจัดเก็บค่าการะภายในอาณาบริเวณ และกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและจัดเก็บค่าธรรมเนียมในการขุดลอกร่องน้ำนอกอาณาบริเวณ
3.10 ออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อการลงทุนหรือเพื่อประโยชน์แก่กิจการท่าเรือ
3.11 จัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักรเพื่อประกอบกิจการท่าเรือหรือกิจการที่เกี่ยวเนื่องหรือที่เป็นประโยชน์แก่ กทท. ภายในขอบแห่งวัตถุประสงค์ของ กทท. ทั้งนี้ บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดดังกล่าวจะมีคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของ คนต่างด้าวถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียนของบริษัทนั้นไม่ได้
3.12 ลงทุนหรือเข้าร่วมกิจการกับบุคคลอื่นทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร เพื่อประกอบกิจการท่าเรือหรือกิจการที่เกี่ยวเนื่องหรือที่เป็นประโยชน์แก่ กทท. หรือถือหุ้นในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร เพื่อประกอบกิจการท่าเรือหรือกิจการที่เกี่ยวเนื่องหรือที่เป็นประโยชน์แก่ กทท.
3.13 ก่อตั้งสิทธิหรือทำนิติกรรมใดๆ ทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร
3.14 บริหารจัดการและดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ และ การบรรทุกขนถ่ายสินค้าเพื่อประโยชน์แก่กิจการของ กทท.
3.15 ประกอบกิจการที่เกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนที่ดินที่ กทท. เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือมีสิทธิครอบครอง
3.16 กระทำการอย่างอื่นบรรดาที่เกี่ยวกับหรือเกี่ยวเนื่องในการจัดการให้สำเร็จ ตามวัตถุประสงค์ของ กทท.
4. กำหนดให้มีคณะกรรมการ กทท. ประกอบด้วยประธานกรรมการ 1 คน กรรมการอื่นไม่น้อยกว่า 6 คน แต่ไม่เกิน 9 คน ให้ผู้ว่าการ กทท. เป็นกรรมการและเลขานุการโดยตำแหน่ง ให้ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและกรรมการจะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย และจะต้องเป็นผู้มีความรู้และจัดเจนเกี่ยวกับการท่าเรือ 1 คนเป็นอย่างน้อย และเกี่ยวกับการขนส่งการเดินเรือ พาณิชยกรรม การเศรษฐกิจ การคลัง การบริหาร วิศวกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือนิติศาสตร์ โดยให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่น นอกจากนี้ ให้คณะกรรมการนี้มีอำนาจหน้าที่วางนโยบายและควบคุมดูแลโดยทั่วไปซึ่งกิจการของ กทท.
5. กำหนดให้ประธานกรรมการและกรรมการต้องไม่เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของ กทท. และต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ
6. กำหนดให้คณะกรรมการแต่งตั้งผู้ว่าการ กทท. ด้วยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ให้ผู้ว่าการ กทท. มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละไม่เกิน 4 ปี และอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่ต้องไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน ทั้งนี้ ผู้ว่าการ กทท. ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ
7. กำหนดให้การกู้ยืมเงินทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักรเป็นจำนวนเกิน 100 ล้านบาท จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ราคาเกิน 10 ล้านบาท จัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักรเพื่อประกอบกิจการท่าเรือหรือกิจการที่เกี่ยวเนื่อง หรือที่เป็นประโยชน์แก่ กทท. ภายในขอบ แห่งวัตถุประสงค์ของ กทท. ลงทุนหรือเข้าร่วมกิจการกับบุคคลอื่นทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักรเพื่อประกอบกิจการท่าเรือหรือกิจการที่เกี่ยวเนื่อง หรือที่เป็นประโยชน์แก่ กทท. หรือถือหุ้นในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดทั้งภายใน และภายนอกราชอาณาจักรเพื่อประกอบกิจการท่าเรือหรือกิจการที่เกี่ยวเนื่องหรือที่เป็นประโยชน์ แก่ กทท. ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน
8. กำหนดให้ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงว่าด้วยการควบคุม ปรับปรุง และให้ ความสะดวกและความปลอดภัยแก่กิจการท่าเรือและการเดินเรือภายในอาณาบริเวณมีโทษปรับ ตามที่ กทท. ประกาศกำหนด หรือถูกระงับการให้บริการ หรือทั้งปรับและถูกระงับการให้บริการ นอกจากนี้ ผู้ใดไม่ชำระค่าภาระ ค่าเช่า ค่าบริการ ค่าธรรมเนียม หรือค่าตอบแทนตามอัตราที่กำหนดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10 เท่าของอัตราสูงสุด ทั้งนี้ เมื่อผู้ต้องหาได้ชำระเงินค่าปรับตามจำนวนที่เปรียบเทียบภายในระยะเวลาที่กำหนดแล้วให้ถือว่าคดีเลิกกันตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แต่ถ้าผู้ต้องหาไม่ยินยอมตามที่เปรียบเทียบหรือ เมื่อยินยอมแล้วไม่ชำระเงินค่าปรับภายในระยะเวลาที่กำหนดให้ดำเนินคดีต่อไป
9. กำหนดให้บรรดากฎกระทรวง ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งที่ยังมีผลใช้บังคับอยู่ใน วันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะมีกฎกระทรวง ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 7 กันยายน 2564
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A9229
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ