ขอความเห็นชอบร่างแถลงการณ์การประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปคและร่างแผนงานความมั่นคงอาหารเอเปคมุ่งสู่ปี ค.ศ. 2030
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 17 August 2021 21:14
- Hits: 1939
ขอความเห็นชอบร่างแถลงการณ์การประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปคและร่างแผนงานความมั่นคงอาหารเอเปคมุ่งสู่ปี ค.ศ. 2030
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการต่อร่างแถลงการณ์รัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค และร่างแผนงานความมั่นคงอาหารเอเปคมุ่งสู่ปี ค.ศ. 2030 และหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการต่อไป โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีก รวมทั้งอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ร่วมรับรองร่างแถลงการณ์การประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค และร่างแผนงานความมั่นคงอาหารเอเปคมุ่งสู่ปี ค.ศ. 2030 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
1. ร่างแถลงการประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค และร่างแผนงานความมั่นคงอาหาร เอเปคมุ่งสู่ปี ค.ศ. 2030 เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการดำเนินงานเกี่ยวกับความร่วมมือด้านความมั่นคงอาหารระหว่างสมาชิกเอเปค เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 โดยไม่มีการลงนามและไม่มีข้อผูกพันทางกฏหมาย (non-legal binding) ทั้งนี้ เอเปคเป็นเวทีการประชุมที่เกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างสมาชิก ซึ่งสมาชิกสามารถพิจารณาให้ความร่วมมือตามความสมัครใจ อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติหากสมาชิกได้ตกลงร่วมกันในเรื่องสำคัญๆ เอเปคจะมีกลไกในการติดตามผล และที่ผ่านมาไทยได้ให้การ สนับสนุนและดำเนินงานความร่วมมือด้านเกษตรและความมั่นคงอาหารในกรอบเอเปคมาโดยตลอด
2. สาระสำคัญของร่างแถลงการณ์การประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค ประกอบด้วย การรับทราบถึงผลกระทบอย่างต่อเนื่องของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีต่อความเป็นอยู่ที่ดีและความปลอดภัยของประชาชนทุกคนในภูมิภาคเอเปค โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านความมั่นคงอาหารและห่วงโซ่อุปทาน และวางแนวทางในการตอบสนองต่อวิกฤตสุขภาพโลกอย่างทันท่วงที และต่อสภาวะเศรษฐกิจที่หยุดชะงักโดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง พร้อมรับรองแผนงานความมั่นคงอาหารเอเปคมุ่งสู่ปี ค.ศ. 2030 ตลอดจนสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ซึ่งแผนงานความมั่นคงอาหารเอเปคมุ่งสู่ปี ค.ศ. 2030 นี้ มีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ปุตราจายา ค.ศ. 2040 ในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจใน 3 มิติ คือ (1) การค้าและการลงทุน (2) นวัตกรรมและการแปลงเป็นดิจิทัล และ (3) การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง สมดุล มั่นคง ยั่งยืน และครอบคลุม นอกจากนี้ ให้ความสำคัญกับองค์การระหว่างประเทศอื่นอย่างต่อเนื่อง
3. สาระสำคัญของร่างแผนงานความมั่นคงอาหารเอเปคมุ่งสู่ปี ค.ศ. 2030 กล่าวถึงการผลักดันประเด็นความมั่นคงอาหาร โดยมีการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ (1) เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม โดยมุ่งให้เอเปคเป็นผู้นำระดับโลกในการนำนวัตกรรมมาใช้ในระบบอาหาร และผลักดันการทำแผนงานดิจิทัลด้านความมั่นคงอาหาร สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น เกษตรอัจฉริยะ ส่งเสริมการลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนในเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมตลอดห่วงโซ่คุณค่าอาหาร และการลงทุนให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และผู้ประกอบการรายใหม่ (2) ผลิตภาพ เน้นการพัฒนาด้านผลิตภาพและประสิทธิภาพของระบบอาหารในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มการผลิตในธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงขจัดอุปสรรคในห่วงโซ่อุปทาน (3) ความครอบคลุม สนับสนุนการมีส่วนร่วมที่สมดุลในการประชุมต่างๆ โดยคำนึงถึงเพศ ชาติพันธุ์ และอายุ และดำเนินการตามแผนสำหรับสตรี และการเติบโตอย่างครอบคลุม ส่งเสริมแนวคิดด้านต่างๆ ที่ตระหนักถึงกลุ่มเปราะบาง รวมถึงการจัดตั้งกลุ่มผู้นำของชนพื้นเมืองของเอเปค (4) ความยั่งยืน ร่วมกันปรับปรุงประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมของระบบอาหารเอเปค รวมถึงแบ่งปันงานวิจัยด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพิ่มการผลิตที่ยั่งยืน การแปรรูปและการบริโภค (การใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสมและการอนุรักษ์ดินและน้ำ) และลดการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร โดยจะแบ่งปันข้อมูล/ แนวปฏิบัติที่ดี เพื่อบริหารจัดการ ความหลากหลายทางชีวภาพและการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงแนวคิดด้านชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (5) ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐและเอกชน ตระหนักถึงบทบาทของภาคเอกชนที่เป็นศูนย์กลางตลอดห่วงโซ่คุณค่าอาหารในการผลิตและการแปรรูปอาหาร การกระจายสินค้า การค้าและการลงทุน (6) กำหนดเป้าหมายที่ชาญฉลาดและการดำเนินการตามแผนงานความมั่นคงอาหารเอเปคมุ่งสู่ปี ค.ศ. 2030 นำเสนอแนวทางสู่การจัดการด้านอาหารที่เข้าถึงได้ความมีอยู่ของอาหาร มีคุณค่าทางโภชนาการและเพียงพอสำหรับประชาชนในภูมิภาคเอเปค และการนำแผนงานไปสู่การปฏิบัติ โดยการจัดลำดับความสำคัญอย่างเหมาะสม ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้โดยเฉพาะ วัดผลได้บรรลุผลได้ มีความเกี่ยวข้องกัน และมีการกำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจน
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 17 สิงหาคม 2564
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A8567
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ