ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 28/2564
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 10 August 2021 21:28
- Hits: 5060
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 28/2564
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 28/2564 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 ได้มีมติที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมของการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 (พระราชกำหนดฯ) และการพิจารณาติดตามผลการดำเนินงานแผนงานหรือโครงการภายใต้แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดฯ ดังนี้
1. อนุมัติให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังปรับลดกรอบวงเงินโครงการเราชนะ จาก 280,242 ล้านบาท เป็น 273,482 ล้านบาท หรือปรับลดประมาณ 6,760.0000 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับผลการ ดำเนินโครงการ
2. อนุมัติให้สำนักงานประกันสังคม ปรับปรุงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กรอบวงเงินโครงการเพิ่มขึ้นจาก 15,027.6860 ล้านบาท เป็น 17,050.4145 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 2,022.7285 ล้านบาท
3. อนุมัติให้จังหวัดลำพูน ปรับลดกิจกรรมสร้างแปลงเรียนรู้เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านอาหารในชุมชน (แปลงเรียนรู้ด้านปศุสัตว์) ภายใต้โครงการขยายผลการดำเนินงานเกษตรกรรมยั่งยืน วงเงิน 2.2980 ล้านบาท ทำให้กรอบวงเงินโครงการ ปรับลดลงจาก 8.8588 ล้านบาท เป็น 6.5608 ล้านบาท หรือปรับลดลง 2.2980 ล้านบาท
4. อนุมัติให้จังหวัดยุติหรือยกเลิกโครงการของจังหวัดที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ รวมจำนวน 8 โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 46.0222 ล้านบาท
5. มอบหมายให้หัวหน้าหน่วยงานรับผิดชอบโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ และยังอยู่ระหว่างดำเนินโครงการฯ เร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี โดยในกรณีที่หน่วยงานพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้ให้หน่วยงานเร่งเสนอขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ (ระยะเวลาดำเนินโครงการ) ตามขั้นตอนข้อ 18 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 พ.ศ. 2563 (ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ) ทั้งนี้ หน่วยงานรับผิดชอบ ต้องดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 โดยไม่สามารถผูกพันงบประมาณได้ยกเว้นในกรณี ที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ดำเนินโครงการหลังจากวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ในการพิจารณาอนุมัติโครงการในคราวแรกเท่านั้น
สาระสำคัญ
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ เห็นควรให้ความเห็นชอบให้สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงานปรับปรุงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย
1) เปลี่ยนชื่อโครงการ จาก โครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็น โครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง
2) ขยายพื้นที่ดำเนินการ จาก 13 จังหวัดเป็น 29 จังหวัดตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 (ฉบับที่ 30) ที่ได้มีการปรับปรุงเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเพิ่มเติมจากข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 28 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ที่ 11/2564 โดยเพิ่มเติมจังหวัดกาญจนบุรี ตาก นครนายก นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง
3) กรอบวงเงินโครงการ เพิ่มขึ้นจาก 15,027.6860 ล้านบาท เป็น 17,050.4145 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 2,022.7285 ล้านบาท
4) ขยายระยะเวลาให้นายจ้างในพื้นที่ 3 จังหวัด (ข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 28) และ 16 จังหวัด (ข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 30) สามารถขึ้นทะเบียนประกันสังคมรายใหม่ได้ พร้อมทั้งให้ สปส. ตรวจสอบและยืนยันข้อมูลจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จนถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2564 โดยในกรณีที่ สปส. เห็นว่าการดำเนินโครงการไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ให้เร่งจัดทำข้อเสนอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการที่มีจำนวนเป้าหมายและกรอบวงเงินของโครงการที่เหมาะสมเสนอคณะกรรมการฯ พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
5) เร่งพิจารณาจัดทำข้อเสนอขยายการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ 13 จังหวัด เพิ่มเติมอีกจำนวน 1 เดือน เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2564 ซึ่งจะช่วยให้การให้ความช่วยเหลือนายจ้างและผู้ประกันตนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เสนอคณะกรรมการฯ ตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ แล้ว เห็นควรให้สำนักงานประกันสังคมเร่งดำเนินการแก้ไขข้อมูลโครงการในระบบ eMENSCR โดยเร็ว
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 10 สิงหาคม 2564
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A8305
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ