WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 26/2564

1aaaD

ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 26/2564

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 26/2564 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ได้มีมติที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำข้อเสนอแนวทางการดำเนินการตามมาตรา 6 วรรคสาม แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 .. 2563 (พระราชกำหนดฯ) (ครั้งที่ 6) การพิจารณากลั่นกรองข้อเสนอแผนงานหรือโครงการเพื่อขอใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ การพิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมของการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้

          1. อนุมัติให้กรมส่งเสริมการเกษตร เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการยกระดับเกษตรแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาดตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ทำให้วงเงินของโครงการฯ ในส่วนของงบเงินอุดหนุน ปรับลดจาก 13,878.1200 ล้านบาท เป็น 9,479.4936 ล้านบาท หรือลดลง 4,398.6264 ล้านบาท โดยเห็นควรมอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร เร่งดำเนินการแก้ไขข้อมูลโครงการในระบบ eMENSCR โดยเร็ว

          2. อนุมัติให้นำวงเงินกู้เพื่อการตามมาตรา 5 (3) มาใช้เพื่อการตามมาตรา 5 (1) เพิ่มเติม จำนวน 13,026.1200 ล้านบาท และมาตรา 5 (2) เพิ่มเติม จำนวน 1,522.9900 ล้านบาท รวมวงเงิน 14,549.1100 ล้านบาท เพื่อรองรับการดำเนินงานโครงการที่มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และสาธารณสุขและโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมาตรา 6 วรรคสามแห่งพระราชกำหนดฯ (ครั้งที่ 6) ทั้งนี้ ภายหลังการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้กรอบวงเงินเพื่อการตามมาตรา 5 (3) คงเหลือ 4,265.6210 ล้านบาท (รวมการปรับลดกรอบวงเงินโครงการยกระดับเกษตรแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ของกรมส่งเสริมการเกษตรแล้ว แต่ยังไม่รวมกับผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 26/2564 ในส่วนที่เหลือ)

          3. อนุมัติโครงการค่าบริการสาธารณสุขภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กรอบวงเงิน 13,026.1200 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงานที่ 1.3 ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดฯ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับหน่วยบริการ สถานพยาบาลที่ให้บริการสาธารณสุขโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับประชาชนทุกสิทธิ ระหว่างเดือนสิงหาคม - กันยายน 2564 และมอบหมายให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ เร่งดำเนินการตามความเห็นและข้อสังเกตเพิ่มเติมของคณะกรรมการฯ โดยเคร่งครัด

          4. อนุมัติให้สำนักงานประกันสังคม ปรับปรุงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยขยายพื้นที่ดำเนินโครงการฯ จากเดิม 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัดโดยเพิ่มเติมพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ทำให้กรอบวงเงินโครงการฯ เพิ่มขึ้นจาก 13,504.6960 ล้านบาท เป็น 15,027.6860 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,522.9900 ล้านบาท พร้อมทั้งเห็นควรให้นายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับเงินช่วยเหลือ เยียวยาจากการดำเนินโครงการฯ ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทั้งนี้ เห็นควรมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคม เร่งดำเนินการตามความเห็นและข้อสังเกตเพิ่มเติมของคณะกรรมการฯ โดยเคร่งครัด

          5. อนุมัติให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการพัฒนาห้องปฏิบัติการชีวนิรภัย ระดับ 3 เพื่อรองรับการเป็นเครือข่ายห้องปฏิบัติการวินิจฉัยการติดเชื้อโรคโควิด-19 และเชื้อโรคระบาดอื่นๆ ในเขตภาคเหนือ จากเดิม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 30 กันยายน 2564 เป็น ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2564 ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ โดยเห็นควรมอบหมายให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เร่งดำเนินการแก้ไขข้อมูลโครงการในระบบ eMENSCR โดยเร็ว

          6. อนุมัติให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของโครงการคนละครึ่ง และโครงการคนละครึ่งระยะที่ 2 ให้แก่ร้านค้าที่ถูกระงับสิทธิ จำนวน 296 ราย วงเงินที่ระงับการจ่ายจำนวน 972,516 บาท จนกว่าการตรวจจะแล้วเสร็จ เพื่อให้ครอบคลุมการจ่ายเงินให้ร้านค้าใน กลุ่มดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน ทั้งนี้ ไม่เกินวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยเห็นควรมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เร่งดำเนินการตามความเห็นของคณะกรรมการฯ ตามขั้นตอนต่อไป

          7. อนุมัติให้จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดยะลา ปรับแผนดำเนินงานแผนการใช้จ่ายงบประมาณโครงการฯ และยกเลิกการดำเนินกิจกรรมย่อยภายใต้โครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ ตามที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว และอนุมัติให้จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปรับแผนการดำเนินงานโครงการพัฒนาผ้าทอละว้า ตามที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว และให้ยุติการดำเนินโครงการ Mae Hong Son Arts and Crafts และโครงการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหลังโควิด (Pai Post Covid Retreat) ทั้งนี้ เห็นควรมอบหมายให้จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดยะลา จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดแม่ฮ่องสอน เร่งดำเนินการแก้ไขข้อมูลโครงการในระบบ eMENSCR โดยเร็ว

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 27 กรกฎาคม 2564

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

A7807

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C J

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

smed banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!