ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 24/2564 (โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้) และครั้งที่ 25/2564
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 20 July 2021 22:47
- Hits: 14866
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 24/2564 (โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้) และครั้งที่ 25/2564
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 24/2564 (โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้) และครั้งที่ 25/2564 ได้มีมติที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณากลั่นกรองความเหมาะสมของการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 (พระราชกำหนดฯ) และการจัดทำข้อเสนอแนวทางการดำเนินการตามมาตรา 6 วรรคสาม (ครั้งที่ 5) ดังนี้
1. อนุมัติให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยเป็นการขยายระยะเวลาการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าหรือรับบริการที่ได้รับการสนับสนุน e-Voucher และเพิ่มวงเงินใช้จ่ายสูงสุดที่จะนำมาคำนวณสิทธิ์ e-Voucher จากเดิมไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อวัน เป็น ไม่เกิน 10,000 บาทต่อคนต่อวัน รวมทั้งปรับลดจำนวนกลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ จากเดิม “ไม่เกิน 4 ล้านคน” เป็น “ไม่เกิน 1.4 ล้านคน ทำให้กรอบวงเงินโครงการฯ ลดลงจาก 28,000 ล้านบาท เป็น 9,800 ล้านบาท หรือลดลงประมาณ 18,200 ล้านบาท ทั้งนี้ ให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังดำเนินการตามข้อสังเกตเพิ่มเติมของคณะกรรมการฯ โดยเคร่งครัด
2. อนุมัติให้นำวงเงินกู้เพื่อการตามมาตรา 5 (3) มาใช้เพื่อการตามมาตรา 5 (2) เพิ่มเติม (ครั้งที่ 5) จำนวน 8,275.1393 ล้านบาท เพื่อรองรับการดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พร้อมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ ที่ได้ดำเนินโครงการเสร็จสิ้นแล้ว ให้เร่งปฏิบัติตามข้อ 19 และข้อ 20 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ โดยเร็ว เพื่อให้การบริหารกรอบวงเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
3. อนุมัติให้สำนักงานประกันสังคม ปรับปรุงรายละเอียดโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (กรุงเทพมหานครและปริมณฑล) โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของโครงการให้สอดคล้องกับมาตรการให้ความช่วยเหลือนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 และเปลี่ยนชื่อโครงการเป็นโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ทำให้กรอบวงเงินโครงการฯ เพิ่มขึ้นจาก 2,519.3800 ล้านบาท เป็น 13,504.6960 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 10,985.3160 ล้านบาท ทั้งนี้ เห็นควรให้นายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับเงินช่วยเหลือ เยียวยาจากการดำเนินโครงการฯ ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นอกจากนี้ ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบตามขั้นตอนแล้วให้สำนักงานประกันสังคม เร่งปรับปรุงข้อมูลในระบบ eMENSCR โดยเร็ว พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคม ดำเนินการตามความเห็นเพิ่มเติมของคณะกรรมการฯ โดยเคร่งครัดตามขั้นตอนต่อไป
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 20 กรกฎาคม 2564
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A7626
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ