WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

สรุปสถานการณ์สาธารณภัย และการช่วยเหลือ

GOV 5

สรุปสถานการณ์สาธารณภัย และการช่วยเหลือ

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปสถานการณ์สาธารณภัย และการช่วยเหลือ ระหว่างวันที่ 22-28 มิถุนายน 2564 ตามที่กระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) เสนอ ดังนี้

          สรุปสถานการณ์สาธารณภัย และการช่วยเหลือ ระหว่างวันที่ 22 - 28 มิถุนายน 2564 

          การคาดหมายลักษณะอากาศ การสั่งการเพื่อเตรียมความพร้อม และการช่วยเหลือ

          1. สภาพอากาศ (ระหว่างวันที่ 28 มิถุนายน - 4 กรกฎาคม 2564)

          ในช่วงวันที่ 29 มิถุนายน - 4 กรกฎาคม 2564 หย่อมความกดอากาศต่ำยังคงปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อน ทำให้ทำให้บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 - 2 เมตร ตลอดช่วง

          2. การแจ้งเตือนและสั่งการเพื่อเตรียมความพร้อม

          กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดเจ้าหน้าที่อยู่เวรเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้พร้อม เพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันเหตุการณ์

          3. ข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย / ผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้มีข้อสั่งการเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 สั่งการให้กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2564 ดังนี้

                 1) การเตรียมความพร้อม

                 1.1 การเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อุทกภัย ให้จัดตั้งคณะทํางานติดตามสถานการณ์โดยมี หน่วยงานด้านการพยากรณ์หน่วยงานด้านการบริหารจัดการน้ำ ฝ่ายปกครองในพื้นที่ ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญจากภาคประชาสังคมหรือสถาบันการศึกษาที่มีศักยภาพ เพื่อร่วมทําหน้าที่ติดตามข้อมูลสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำและเหตุการณ์ที่อาจส่งผลให้เกิดสาธารณภัยในช่วงฤดูฝน รวมทั้งวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์น้ำในพื้นที่ เพื่อใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจของผู้อํานวยการแต่ละระดับ สำหรับใช้ในการสื่อสารแจ้งเตือนประชาชน ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในการเผชิญเหตุได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ และสภาพพื้นที่

                 1.2 การจัดทําแผนเผชิญเหตุอุทกภัย ให้ทบทวนและปรับปรุงแผนเผชิญเหตุอุทกภัยของจังหวัดให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

                 1.3 การระบายน้ำและการเพิ่มพื้นที่รองรับน้ำ ให้มอบหมายกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในแต่ละระดับดําเนินการอย่างเป็นระบบ มีความเชื่อมโยงกันโดยเฉพาะตามรอยต่อเขตรับผิดชอบ ที่เป็นเส้นทางน้ำไหลผ่าน

                 1.4 การตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงสถานที่ใช้กักเก็บน้ำ / กั้นน้ำ อาทิ อ่างเก็บน้ำ พนังกั้นน้ำให้มอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบจัดทีมวิศวกรเข้าสํารวจตรวจสอบ และปรับปรุงให้เกิดความมั่นคงแข็งแรง เพื่อให้สามารถรองรับกรณีฝนตกหนัก หรือน้ำไหลเข้า / ผ่านในปริมาณมาก รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่

                 1.5 การแจ้งเตือนภัย เมื่อมีแนวโน้มการเกิดสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่มขึ้นในพื้นที่ให้ดําเนินการแจ้งเตือนไปยังกองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในแต่ละระดับ ตลอดจนหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมบุคลากร วัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเผชิญเหตุ และเตรียมการในพื้นที่เสี่ยงภัยเสี่ยงภัยเป็นการล่วงหน้า รวมทั้งแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบในทุกช่องทางทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ อาทิ สื่อสังคมออนไลน์ วิทยุชุมชน หอกระจายข่าวประจําหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูล ข่าวสาร ตลอดจนแนวทางการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย ช่องทางการแจ้งข้อมูล และการขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และในกรณีจังหวัดที่มีเส้นทางน้ำเชื่อมต่อกันให้มีการประเมินสถานการณ์ร่วมกัน และแจ้งเตือนระหว่างจังหวัดต้นน้ำและจังหวัดปลายน้ำอย่างใกล้ชิด

                 2) การเผชิญเหตุ

                 เมื่อเกิดหรือคาดว่าจะเกิดสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่มในพื้นที่ ให้ยึดแนวทางการจัดการสาธารณภัยในภาวะฉุกเฉิน ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ .. 2558 และกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยดําเนินการตามแนวทาง ดังนี้

                 2.1 จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับจังหวัด อําเภอ และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นศูนย์ควบคุม สั่งการ และอํานวยการหลักในการระดมสรรรพกําลัง ตลอดจนการประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งฝ่ายพลเรือน หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรสาธารณกุศล

                 2.2 ให้มอบหมายฝ่ายปกครอง กํานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นําชุมชน ตลอดจนอาสาสมัคร ประชาชนจิตอาสา เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงในชุมชน พื้นที่สําคัญทางเศรษฐกิจ สถานที่สําคัญต่างๆ และร่วมกันกําจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำเมื่อเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ทั้งนี้ หากมีกรณีน้ำท่วมขัง สร้างความเดือดร้อน ความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนให้เร่งกําหนดแนวทางการระบายน้ำ พร้อมทั้งสั่งใช้เครื่องจักรกลในพื้นที่ของหน่วยงาน ฝ่ายพลเรือน หน่วยทหาร และภาคเอกชน เพื่อเร่งระบายน้ำ และเปิดทางน้ำในพื้นที่

                 2.3 จัดชุดปฏิบัติการเร่งให้ความช่วยเหลือด้านการดํารงชีพแก่ประชาชนที่ประสบภัยตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ความช่วยเหลือด้านอาหาร น้ำดื่ม การรักษาพยาบาล โดยอย่าให้เกิดความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติ และเชิญชวนประชาชนจิตอาสามีส่วนร่วมกับภาครัฐในการให้ความช่วยเหลือประชาชน ที่ประสบภัย

                 2.4 กรณีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ให้บูรณาการหน่วยงานเป็นทีมช่างในพื้นที่ทั้งหน่วยทหาร ตํารวจ ฝ่ายปกครอง สถาบันการศึกษา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนประชาชนจิตอาสา เพื่อเร่งซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนโดยเร็ว

                 2.5 กรณีเส้นทางคมนาคมได้รับความเสียหาย หรือถูกน้ำท่วมจนประชาชนไม่สามารถใช้ยานพาหนะสัญจรได้ให้จัดทําป้ายแจ้งเตือนพร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่อํานวยความสะดวกการจราจร แนะนําเส้นทางเลี่ยงที่ปลอดภัย

รวมทั้งจัดยานพาหนะที่เหมาะสม อาทิ เรือ รถยกสูง เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน และให้เร่งซ่อมแซมเส้นทางที่ชํารุด / ถูกตัดขาด เพื่อให้ประชาชนใช้สัญจรได้โดยเร็ว

                 2.6 เน้นย้ำการสื่อสารสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในช่วงเกิดสถานการณ์อุทกภัย ผ่านสื่อมวลชน ตลอดจนสื่อแขนงต่างๆ และสื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้เกิดความเข้าใจถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง

                 2.7 ให้รายงานสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มที่เกิดขึ้นต่อกองอํานวยการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการประเมินสถานการณ์และเสนอ ความเห็นต่อผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติในการตัดสินใจสั่งการในเชิงนโยบายต่อไป

 

          สรุปสถานการณ์วาตภัย ข้อมูล วันที่ 22 - 28 มิถุนายน 2564

          1. จังหวัดนครราชสีมา วันที่ 27 มิถุนายน 2564 เวลา 18.00 . เกิดเหตุวาตภัยในพื้นที่อำเภอพระทองคำ ตำบลพังเทียม (หมู่ที่ 1) ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 1 หลัง คอกสัตว์ 1 หลัง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

          2. จังหวัดหนองบัวลําภู วันที่ 23 มิถุนายน 2564 เวลา 16.30 . เกิดเหตุวาตภัยในพื้นที่อำเภอ เมืองหนองบัวลำภู ตำบลโพธิ์ชัย (หมู่ที่ 3) ตำบลนาคําไฮ (หมู่ที่ 3) ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 11 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

และวันที่ 27 มิถุนายน 2564 เวลา 13.30 . เกิดเหตุวาตภัยในพื้นที่อำเภอศรีบุญเรือง ตำบลหนองแก (หมู่ที่ 3,4,9) ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

          3. จังหวัดนครราชสีมา วันที่ 26 มิถุนายน 2564 เวลา 18.00 . เกิดเหตุวาตภัยในพื้นที่อำเภอคง ตำบลคง (หมู่ที่ 7) ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 3 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

          4. จังหวัดนครศรีธรรมราช วันที่ 23 มิถุนายน 2564 เวลา 14.30 . เกิดเหตุวาตภัยในพื้นที่ อำเภอนบพิตํา ตำบลนาเหรง (หมู่ที่ 7,9) ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 2 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

          5. จังหวัดสุรินทร์ วันที่ 23 มิถุนายน 2564 เวลา 18.30 . เกิดเหตุวาตภัยในพื้นที่อำเภอลําดวน ตำบลอู่โลก (หมู่ที่ 7) ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 1 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

          6. จังหวัดร้อยเอ็ด วันที่ 23 มิถุนายน 2564 เวลา 21.00 . เกิดเหตุวาตภัยในพื้นที่อำเภอธวัชบุรี ตำบลเมืองน้อย (หมู่ที่ 6) ตำบลเขวาทุ่ง (หมู่ที่ 5,6,9) ตำบลไพศาล (หมู่ที่ 1) ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 9 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

          การให้ความช่วยเหลือ : สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อําเภอ หน่วยทหาร ในพื้นที่ อปท. อปพร. อาสาสมัคร และมูลนิธิ เข้าสํารวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว

 

          สรุปสถานการณ์แผ่นดินไหว ระหว่างวันที่ 22 - 28 มิถุนายน 2564

          กรมป้องกันและบรเทาสาธารณภัย ได้รับรายงานข้อมูลเหตุแผ่นดินไหว จากกรมอุตุนิยมวิทยา และศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้เกิดแผ่นดินไหว ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย ดังนี้

          1. วันที่ 28 มิถุนายน 2564 เวลา 04.03 . เกิดแผ่นดินไหวบนบกขนาด 3.5 ที่ความลึก 55 กม. บริเวณประเทศเมียนมา ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประมาณ 378 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

          2. วันที่ 27 มิถุนายน 2564 เวลา 08.41 . เกิดแผ่นดินไหวบนบกขนาด 3.4 ที่ความลึก 10 กม. บริเวณมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ประมาณ 279 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

          3. วันที่ 26 มิถุนายน 2564 เวลา 04.44 . เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.2 ที่ความลึก 2 กม. บริเวณประเทศเมียนมา ห่างจากอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประมาณ 36 กม. ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

 

          สรุปสถานการณ์อุบัติภัย และเหตุการณ์สำคัญ ระหว่างวันที่ 22 - 28 มิถุนายน 2564

          1. จังหวัดนครราชสีมา วันที่ 27 มิถุนายน 2564 เวลา 13.00 . เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในซอยไชยณรงค์ 3 ถนนเบญจรงค์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา ลักษณะเป็นบ้านเก่าครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าทำการดับเพลิงจนเพลิงสงบ เวลา 15.00 . เพลิงลุกไหม้ได้รับความเสียหาย 8 หลัง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

          2. จังหวัดอุตรดิตถ์ วันที่ 25 มิถุนายน 2564 เวลา 00.11 . เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลฝ่ายหลวง อำเภอลับแล เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าทำการดับเพลิงจนเพลิงสงบ เวลา 02.00 . เพลิงลุกไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหลัง 2 หลัง และเสียหายบางส่วน 2 หลัง) ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

          3. จังหวัดอุดรธานี วันที่ 22 มิถุนายน 2564 เวลา 15.00 . เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่บ้านเชียงพิณ หมู่ที่ 1 ตำบลเชียงพิณ อำเภอเมืองอุดรธานี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าทำการดับเพลิงจนเพลิงสงบ เวลา 16.10 . เพลิงลุกไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหลัง 1 หลัง และเสียหายบางส่วน 3 หลัง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

          4. จังหวัดชลบุรี วันที่ 22 มิถุนายน 2564 เวลา 16.55 . เกิดเหตุเพลิงไหม้บริษัท ซีเท็กซ์อินดัสตรีคอร์ปอเรชั่น จํากัด ตั้งอยู่เลขที่ 69 หมู่ที่ 2 ตำบลพานทอง อำเภอพานทอง ประกอบกิจการผลิตแผ่นโฟมและภาชนะพลาสติก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าทำการดับเพลิงจนเพลิงสงบ เวลา 17.20 . เพลิงลุกไหม้วัสดุและอุปกรณ์เสียหาย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 29 มิถุนายน 2564

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

A6864

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!