ร่างพระราชกฤษฎีกาให้นำบทบัญญัติภายใต้มาตรา 30 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 มาใช้บังคับ พ.ศ. ....
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 02 June 2021 00:55
- Hits: 2213
ร่างพระราชกฤษฎีกาให้นำบทบัญญัติภายใต้มาตรา 30 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 มาใช้บังคับ พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้นำบทบัญญัติภายใต้มาตรา 30 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 มาใช้บังคับ พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. เสนอว่า
1. โดยที่พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 มาตรา 30 บัญญัติว่า ในระยะเริ่มแรก มิให้นำส่วนที่ 3 การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ มาตรา 41 มาตรา 42 มาตรา 43 มาตรา 44 มาตรา 44/1 มาตรา 44/2 มาตรา 44/3 มาตรา 44/4 และมาตรา 44/5 และส่วนที่ 4 การกำกับการประกอบกิจการ มาตรา 45 และมาตรา 46 ในหมวด 2 การกำกับดูแลการประกอบกิจการ และมาตรา 65 (1) มาตรา 78 มาตรา 83 วรรคสอง และมาตรา 84 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ และมาตรา 16 มาตรา 27 มาตรา 28 และมาตรา 29 มาใช้บังคับ จนกว่าคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะมีความพร้อมที่จะดำเนินการตามบทบัญญัติดังกล่าว โดยเสนอให้มีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดให้นำบทบัญญัตินั้นมาใช้บังคับ โดยก่อนเสนอให้ตรา พระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ให้ กสทช. จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามความเหมาะสมและนำข้อมูลที่ได้รับมาประกอบการพิจารณา พร้อมทั้งให้ กสทช. จัดทำแผนการดำเนินการ และกำหนดกรอบระยะเวลาในการตราพระราชกฤษฎีกาอย่างชัดเจน และให้มีการรายงานผลการเตรียมความพร้อมให้คณะรัฐมนตรีและรัฐสภาทราบอย่างน้อยทุกหกเดือนและเปิดเผยให้ประชาชนทราบด้วย
2. กสทช. ได้จัดทำแผนการดำเนินการ โดยกำหนดกรอบระยะเวลาให้มีการเสนอตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 และรายงานผลการเตรียมความพร้อมให้คณะรัฐมนตรีและรัฐสภาทราบแล้ว และในการจัดทำแผนการดำเนินการดังกล่าว กสทช. ได้คำนึงถึงความพร้อมทางด้านต่างๆ ในการดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรร คลื่นความถี่ฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 ดังนี้
2.1 ความพร้อมทางด้านกฎหมาย เช่น แก้ไขข้อจำกัดการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ การยกเลิกการออกใบอนุญาตประกอบกิจการ การโอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ และการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่โดยวิธีการอื่นนอกจากวิธีประมูล เป็นต้น
2.2 ความพร้อมทางด้านเทคนิค เช่น แก้ไขปัญหาการรบกวนระหว่างผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในแต่ละกิจการ โดยแบ่งช่วงของคลื่นความถี่อย่างชัดเจน (Band Partitioning) การดำเนินการแก้ไขแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ในส่วนของภาคผนวก ก. และตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ ให้สามารถประกอบกิจการหรือให้บริการข้ามกิจการได้ เป็นต้น
2.3 ความพร้อมทางด้านเศรษฐกิจ เช่น คำนึงถึงประโยชน์ที่ประเทศชาติและประชาชนจะได้รับจากการหลอมรวมในมิติคลื่นความถี่ อันจะส่งผลทำให้ผู้ให้บริการสามารถพัฒนาหรือผลิตการให้บริการใหม่ๆ ที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน อันเป็นการกระตุ้นการบริโภคของประชาชนและ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีการขยายตัวมากยิ่งขึ้น
3. สำนักงาน กสทช. ได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ต่อการตราพระราชกฤษฎีกาภายใต้ตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 ในระหว่างวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ถึงวันที่ 18 มีนาคม 2564 โดยจัดให้มีการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2563 ณ อาคารหอประชุม ชั้น 2 สำนักงาน กสทช. และถ่ายทอดสดการประชุมผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงาน กสทช. ด้วยแล้ว
4. ในการประชุม กสทช. ครั้งที่ 7/2564 เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 ได้มีมติเห็นชอบการเสนอให้มีการตราร่างพระราชกฤษฎีกาฯ และเห็นชอบสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ต่อการตราร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ดังกล่าว
5. บัดนี้ กสทช. มีความพร้อมที่จะดำเนินการตามบทบัญญัติตามข้อ 1 แล้ว จึงได้ยกร่างพระราชกฤษฎีกาให้นำบทบัญญัติภายใต้มาตรา 30 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และ กำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 มาใช้บังคับ พ.ศ. …. เพื่อให้การใช้คลื่นความถี่เกิดประโยชน์สูงสุด และสอดคล้องกับเทคโนโลยีการสื่อสารโดยใช้ คลื่นความถี่ที่ได้พัฒนาขึ้น
6. ภายหลังร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับแล้ว กสทช. จะนำหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องจำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ (1) การแก้ไขแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ (ภาคผนวก ก. และตารางกำหนดคลื่นความถี่แห่งชาติ) (2) หลักเกณฑ์การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่โดยวิธีอื่นนอกเหนือจากวิธีประมูล (3) หลักเกณฑ์และวิธีการขออนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคมเพิ่มเติมจากการประกอบกิจการที่ได้รับอนุญาต และ (4) หลักเกณฑ์และวิธีการโอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลใช้บังคับต่อไป
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา
ให้นำบทบัญญัติส่วนที่ 3 การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ มาตรา 41 มาตรา 42 มาตรา 43 มาตรา 44 มาตรา 44/1 มาตรา 44/2 มาตรา 44/3 มาตรา 44/4 และมาตรา 44/5และส่วนที่ 4 การกำกับการประกอบกิจการ มาตรา 45 และมาตรา 46 ในหมวด 2 การกำกับดูแลการประกอบกิจการ และมาตรา 65 (1) มาตรา 78 มาตรา 83 วรรคสอง และมาตรา 84 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 และมาตรา 16 มาตรา 27 มาตรา 28 และมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 มาใช้บังคับ
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 1 มิถุนายน 2564
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A6074
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ