ขอยกเลิกโครงการก่อสร้างอาคารที่พักข้าราชการกองบัญชาการกองทัพไทยพื้นที่ประชาชื่น และโอนงบประมาณที่ตั้งไว้สำหรับรายการดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ไปสมทบเป็นค่างานก่อสร้างโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการกองบัญชาการกองทัพไทย ระยะที่ 2
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 26 May 2021 12:58
- Hits: 1192
ขอยกเลิกโครงการก่อสร้างอาคารที่พักข้าราชการกองบัญชาการกองทัพไทยพื้นที่ประชาชื่น และโอนงบประมาณที่ตั้งไว้สำหรับรายการดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ไปสมทบเป็นค่างานก่อสร้างโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการกองบัญชาการกองทัพไทย ระยะที่ 2
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ยกเลิกรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการก่อสร้างอาคารที่พักข้าราชการ บก.ทท. พื้นที่ประชาชื่น (โครงการฯ ประชาชื่น) และโอนงบประมาณที่ตั้งไว้สำหรับรายการดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 วงเงิน 79.91 ล้านบาท ไปสมทบเป็นค่างานก่อสร้างโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการ บก.ทท. ระยะที่ 2 (โครงการฯ ระยะที่ 2) ต่อไป ตามที่กระทรวงกลาโหม (กห.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
กห. รายงานว่า บก.ทท. ได้ดำเนินการก่อสร้างที่พักอาศัยให้กับข้าราชการ บก.ทท. และครอบครัว รวม 2 โครงการ ดังนี้
1. โครงการฯ ประชาชื่น มีการดำเนินการสรุปได้ ดังนี้
1.1 บก.ทท. มีแผนการก่อสร้างที่พักอาศัยให้กับข้าราชการ บก.ทท. และครอบครัว ในพื้นที่ราชพัสดุของ บก.ทท. พื้นที่ประชาชื่น โดยสร้างเป็นอาคารสูง 25 ชั้น จำนวน 3 อาคาร เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่พักอาศัยของข้าราชการที่มีความต้องการเป็นจำนวนมาก โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ได้รับอนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2567 (4 ปี) วงเงิน 475.40 ล้านบาท (ไม่รวมเงินสำรองเผื่อเหลือเผื่อขาด) (ตามมติคณะรัฐมนตรี 20 ตุลาคม 2563) เพื่อก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยดังกล่าว รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบสาธารณูปโภค จำนวน 1 อาคาร จำนวนห้องพัก 154 ห้อง
1.2 ต่อมาได้มีผู้ร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเกี่ยวกับการดำเนินโครงการฯ ประชาชื่น เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงมีความกังวลว่าจะได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง การระบายน้ำ แรงสั่นสะเทือน การจราจร ตลอดจนอันตรายจากเศษวัสดุการก่อสร้าง โดยเสนอขอให้พิจารณายกเลิกการดำเนินการก่อสร้างอาคารสูง 25 ชั้น จำนวน 3 อาคาร หรือปรับรูปแบบอาคารเป็นแบบอาคารที่มีความสูงไม่เกิน 8 ชั้น และจัดแผนผังอาคารให้มีระยะห่างจากพื้นที่ข้างเคียง สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน (สผผ.) จึงขอให้สำนักยุทธโยธาทหาร บก.ทท. ชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
1.3 ปัจจุบันโครงการฯ ประชาชื่น อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งทางบริษัทที่ปรึกษาได้ดำเนินการตามกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่ได้กำหนดไว้ โดยมีการเก็บรวบรวมข้อมูล การสัมภาษณ์รายบุคคล การใช้แบบสอบถามและการสนทนากลุ่มย่อย และได้แจกจ่ายมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้กับผู้อยู่อาศัยในชุมชนรอบโครงการอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้ร้องเรียนยังคงมีความวิตกกังวลว่าจะได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบด้านต่างๆ ตามมาภายหลังในระหว่างดำเนินการก่อสร้างและเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งหากดำเนินโครงการฯ ประชาชื่นต่อไปอาจมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างไม่สำเร็จ และจะส่งผลกระทบในระยะยาวต่อข้าราชการที่พักอาศัยกับผู้พักอาศัยโดยรอบโครงการดังกล่าวในอนาคต ดังนั้น ผู้บัญชาการทหารสูงสุดจึงได้อนุมัติหลักการให้ชะลอโครงการฯ ประชาชื่น และขอให้พิจารณาพื้นที่ก่อสร้างแห่งใหม่ พร้อมทั้งให้มีหนังสือถึง สผผ. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง และต่อมาได้เห็นชอบให้ยกเลิกโครงการฯ ประชาชื่น แล้ว
2. โครงการฯ ระยะที่ 2 มีการดำเนินการสรุปได้ ดังนี้
2.1 บก.ทท. ได้ทำสัญญาจ้างบริษัทที่ 1 ดำเนินโครงการฯ ระยะที่ 2 ในวงเงิน 184 ล้านบาท เริ่มดำเนินงานเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2561 และมีกำหนดแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2562 ซึ่ง บก.ทท. ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 - 2562 จำนวน 140.50 ล้านบาท และได้เบิกจ่ายให้แก่ผู้รับจ้างแล้ว วงเงิน 74.52 ล้านบาท คงเหลืองบประมาณ จำนวน 65.98 ล้านบาท แต่โดยที่บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินงานได้ตามระยะเวลาที่กำหนด บก.ทท. จึงได้บอกเลิกสัญญาจ้างกับบริษัทที่ 1
2.2 บก.ทท. ได้ทำสัญญาจ้างบริษัทที่ 2 เพื่อดำเนินการในส่วนที่เหลือ ในวงเงิน 145.89 ล้านบาท โดยเริ่มดำเนินงานเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2563 และมีกำหนดแล้วเสร็จวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 โดยมีรายละเอียดการเบิกจ่ายงบประมาณ ดังนี้
(1) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
บก.ทท. ได้ใช้จ่ายงบประมาณจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ที่ได้ขยายระยะเวลาเบิกจ่ายงบประมาณจนถึงเดือนกันยายน 2563 จำนวน 65.98 ล้านบาท (เหลือจ่ายจากการเบิกจ่ายให้บริษัทที่ 1) จ่ายให้แก่บริษัทที่ 2 จำนวน 49.92 ล้านบาท คงเหลือวงเงินที่ต้องเบิกจ่ายให้บริษัทที่ 2 จำนวน 95.97 ล้านบาท (145.89 - 49.92)
(2) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
บก.ทท. ได้เสนอคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 วงเงิน 79.91 ล้านบาท แต่ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จึงได้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ (สงป.) เพื่อขอโอนเงินจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จากโครงการก่อสร้างอาคารนักเรียนนายสิบแผนที่และอาคารแผนกขนส่งพื้นที่โรงเรียนแผนที่ กรมแผนที่ทหาร วงเงิน 16.06 ล้านบาท ไปตั้งจ่ายโครงการฯ ระยะที่ 2 ซึ่ง สงป. ได้อนุมัติให้ บก.ทท. โอนเงินจัดสรรดังกล่าวแล้วทำให้คงเหลืองบประมาณที่ต้องเบิกจ่ายให้บริษัทที่ 2 จำนวน 79.91 ล้านบาท (145.89 - 49.92 - 16.06)
3. โดยที่ บก.ทท. มีความต้องการงบประมาณเพื่อดำเนินการตามโครงการฯ ระยะที่ 2 ซึ่งมีกำหนดส่งมอบงานภายในเดือนพฤษภาคม 2564 วงเงิน 79.91 ล้านบาท บก.ทท. จึงมีแผนที่จะใช้งบประมาณที่ตั้งไว้สำหรับโครงการฯ ประชาชื่น ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (ซึ่งยกเลิกไปแล้วตามข้อ 1.3) และโอนงบประมาณดังกล่าวมาใช้สำหรับโครงการฯ ระยะที่ 2
4. สงป. เห็นว่า การยกเลิกรายการก่อหนี้ผูกพันโครงการฯ ประชาชื่นย่อมมีผลทำให้ไม่มีรายการดังกล่าวที่จะต้องตั้งงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 - 2567 รองรับอีกต่อไป ดังนั้น กรณีดังกล่าวจึงเป็นการเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณไว้ บก.ทท. จึงต้องเสนอขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีตามนัยข้อ 7 (3) ของระเบียบว่าด้วยการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 โดยขอยกเลิกรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการฯ ประชาชื่น และขอโอนงบประมาณที่ตั้งไว้สำหรับรายการดังกล่าวในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 วงเงิน 79.91 ล้านบาท ไปสมทบเป็นค่างานก่อสร้างโครงการฯ ระยะที่ 2 ในคราวเดียวกัน
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 25 พฤษภาคม 2564
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A51044
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ