WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

การต่ออายุโครงการการให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด โดยการยกเลิกภาษีนำเข้าและโควตา (Duty Free Quota Free Scheme : DFQF) ของไทย ระยะที่ 2

GOV3 copy copyการต่ออายุโครงการการให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด โดยการยกเลิกภาษีนำเข้าและโควตา (Duty Free Quota Free Scheme : DFQF) ของไทย ระยะที่ 2

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ ดังนี้

          1. อนุมัติการต่ออายุโครงการการให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุดโดยการยกเลิกภาษีนำเข้าและโควตา (Duty Free Quota Free Scheme: DFQF) ของไทย (โครงการฯ) ระยะที่ 2 ประกอบด้วย

                  1.1 ระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ 6 ปี โดยสำหรับโครงการฯ ระยะที่ 2 ให้สิ้นสุดโครงการฯ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2564

                  1.2 จำนวนสินค้าที่ให้สิทธิพิเศษภายใต้โครงการฯ ระยะที่ 2 รวมทั้งสิ้น 7,187 รายการ หรือคิดเป็นร้อยละ 66.47 ของรายการสินค้าทั้งหมดในระบบ HS 2017 (ระบบพิกัดศุลกากรสากลซึ่งกำหนดโดยองค์การศุลกากรโลกและมีการปรับพิกัดศุลกากรสากลทุก 5 ปี)

          2. เห็นชอบการปรับชื่อ องค์ประกอบ และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันผลกระทบอันเนื่องจากการให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด โดยการยกเลิกภาษีนำเข้าและโควตา (คณะกรรมการฯ) ปรับชื่อเป็น คณะกรรมการว่าด้วยการให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด โดยการยกเลิกภาษีนำเข้าและโควตา (Duty Free Quota Free Scheme: DFQF)”

          3. มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ การดำเนินการเพื่อยกเว้นอากรสำหรับสินค้าภายใต้โครงการฯ ระยะที่ 2

          สาระสำคัญ

          กระทรวงพาณิชย์ ได้ขอให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติการต่ออายุโครงการการให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด โดยการยกเลิกภาษีนำเข้าและโควตา (Duty Free Quota Free Scheme : DFQF) ของไทย (โครงการฯ) ระยะที่ 2 เนื่องจากโครงการระยะที่ 1 สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากโครงการฯ ระยะที่ 1 ที่เคยเสนอคณะรัฐมนตรี ดังนี้

 

โครงการฯ ระยะที่ 1

[มติคณะรัฐมนตรี (19 พฤศจิกายน 2564)]

 

เสนอครั้งนี้ (โครงการฯ ระยะที่ 2)

 

- ระยะเวลาโครงการฯ 6 ปี โดยเริ่มโครงการฯ ในวันที่ 1 มกราคม 2558 – 31 ธันวาคม 2563 [มีผลตั้งแต่ในวันที่ 9 เมษายน 2558 เนื่องจากเป็นวันที่ประกาศกระทรวงการคลังมีผลบังคับใช้]

 

 

 

- ระยะเวลาโครงการฯ 6 ปี โดยสิ้นสุดโครงการฯ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2569 (จะเริ่มมีผลใช้บังคับเมื่อมีการจัดทำและใช้บังคับประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการยกเว้นอากร)

- จำนวนสินค้าที่ให้สิทธิพิเศษ ภายใต้โครงการฯ รวมทั้งสิ้น 6,998 รายการ คิดเป็นร้อยละ 73.21 ของรายการสินค้าทั้งหมดในระบบ HS 2021 (9,558 รายการ) และต่อมาเป็นปรับเป็น 7,496 รายการ คิดเป็นร้อยละ 69.32 ของรายการสินค้าทั้งหมดในระบบ HS 2017 (10,813 รายการ)

 

- จำนวนสินค้าที่ให้สิทธิพิเศษ ภายใต้โครงการฯ ระยะที่ 2 รวมทั้งสิ้น 7,187 รายการ หรือคิดเป็นร้อยละ 66.47 ของรายการสินค้าทั้งหมดในระบบ HS 2017 (10,813 รายการ) ซึ่งถือว่ามีรายการลดลงจากเดิมเล็กน้อย

 

          และเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามโครงการฯ ระยะที่ 2 กระทรวงพาณิชย์จึงได้ขอให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงการคลังดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการยกเว้นอากรด้วย โดยภายหลังจากคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในเรื่องนี้ กระทรวงการคลังจึงจะดำเนินการยกร่างประกาศยกเว้นอากรเพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในโอกาสต่อไป (ซึ่งเป็นไปในลักษณะเดียวกันกับการดำเนินโครงการฯ ระยะที่ 1)

          ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานภายใต้โครงการฯ ในปี 2562 และปี 2563 พบว่ามูลค่าและสัดส่วนการนำเข้าภายใต้โครงการฯ คิดเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับการนำเข้าจากประเทศพัฒนาน้อยที่สุดทั้งหมดและการนำเข้าจากทั่วโลกทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการฯ เป็นการดำเนินการตามพันธกรณีของประเทศไทยในฐานะสมาซิกองค์การการค้าโลก ซึ่งการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุดจะแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่างๆ และเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ

          ในส่วนการปรับชื่อ องค์ประกอบ และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันผลกระทบอันเนื่องจากการให้สิทธิพิเศษแก่ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด โดยการยกเลิกภาษีนำเข้าและโควตา (คณะกรรมการฯ) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การดำเนินการของคณะกรรมการฯ ครอบคลุมภารกิจการจัดทำ ทบทวน และถอดถอนรายการสินค้าที่ให้สิทธิภายใต้โครงการฯ โดยหน้าที่สำคัญประการหนึ่งหลังจากนี้ คือ คณะกรรมการฯ จะทำหน้าที่พิจารณาเพิ่มหรือลดรายการสินค้าภายใต้โครงการฯ ระยะที่ 2 เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับระบบพิกัดศุลกากรสากลขององค์การศุลกากรโลกจาก HS 2017 เป็น HS 2022 ที่จะเกิดขึ้นในปี 2564 ด้วย

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 5 พฤษภาคม 2564

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

A5112

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!