รายงานภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 4/2563 และแนวโน้มไตรมาสที่ 1/2564 และรายงานภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมประจำเดือนมกราคม 2564
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 07 April 2021 20:59
- Hits: 10089
รายงานภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 4/2563 และแนวโน้มไตรมาสที่ 1/2564 และรายงานภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมประจำเดือนมกราคม 2564
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เสนอรายงานภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไตรมาสที่ 4/2563 และแนวโน้มไตรมาสที่ 1/2564 และรายงานภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมประจำเดือนมกราคม 2564 ดังนี้
สาระสำคัญ
ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในไตรมาสที่ 4/2563 เมื่อพิจารณาจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) หดตัวร้อยละ 0.9 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับในไตรมาสที่ 3/2563 ที่หดตัวร้อยละ 8.1 อุตสาหกรรมสำคัญที่หดตัวในไตรมาสที่ 4/2563 อาทิการผลิตน้ำตาล ภาวะการผลิตลดลง เนื่องจากปีนี้เปิดหีบช้ากว่าปีก่อน เนื่องจากชาวไร่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณอ้อยเข้าหีบน้อยกว่าปีก่อนการผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายการผลิตลดลงเกือบทุกรายการสินค้า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก ผู้บริโภคลดการซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะในกลุ่มเสื้อผ้าการผลิตผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ ที่มิใช่ยางล้อภาวะการผลิตลดลงจากสินค้ายางแท่ง เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวทำให้มีคำสั่งซื้อเข้ามาน้อย รวมถึงมีการเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2563 ทำให้วัตถุดิบ (น้ำยาง) ออกสู่ตลาดลดลงสำหรับอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวดีในไตรมาสที่ 4/2563 อาทิการผลิตรถยนต์การผลิตเพิ่มขึ้นทุกรายการสินค้า เนื่องจากไตรมาสสุดท้ายของปีมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดหลายรุ่นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้ในตลาดโลกเพื่อนำไปใช้ร่วมกับกลุ่มสินค้าขั้นปลาย เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ
ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเดือนมกราคม 2564 เมื่อพิจารณาจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) หดตัวร้อยละ 2.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศ
อุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลให้ MPI เดือนมกราคม 2564 หดตัวเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน คือ
1. การกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม หดตัวร้อยละ 11.92 จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงมีอยู่ส่งผลให้การเดินทางลดลงทั้งการเดินทางในประเทศและการเดินทางระหว่างประเทศ
2. น้ำตาล หดตัวร้อยละ 13.18 เนื่องจากปีนี้เปิดหีบช้าและด้วยสภาพอากาศแห้งแล้งไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกส่งผลให้ปริมาณอ้อยเข้าหีบมีน้อยกว่าปีก่อน
3. รถยนต์ และเครื่องยนต์ หดตัวร้อยละ 3.9 จากความกังวลของผู้บริโภคที่มีต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ในประเทศ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
อุตสาหกรรมสำคัญที่ยังขยายตัวในเดือนมกราคม 2564 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
1. เม็ดพลาสติก เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.86 จากการหยุดซ่อมบำรุงของผู้ผลิตบางรายในปีก่อน และความต้องการใช้ในกลุ่มสินค้าต่อเนื่อง เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า บรรจุภัณฑ์ ถุงอาหาร ขวด และเครื่องใช้ในครัวเรือน
2. เหล็กและเหล็กกล้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.44 ตามความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และบรรจุภัณฑ์อาหาร อีกปัจจัยหนึ่งมาจากราคาเหล็กปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากประเทศจีนนำเข้าสินค้าเหล็กเพิ่มสูงขึ้นมากจนเกิดภาวะขาดแคลนสินค้า ส่งผลให้ราคาเหล็กปรับตัวสูงขึ้น ผู้ผลิตจึงเร่งผลิตเพื่อขายทำกำไรในช่วงนี้
แนวโน้มอุตสาหกรรมสาขาสำคัญ ไตรมาสที่ 1/2564
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์คาดว่าจะมีดัชนีผลผลิตและมูลค่าการส่งออกขยายตัวร้อยละ 3.2 และ 4.7 ตามลำดับ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ Work from Home และการเรียนออนไลน์ของนักเรียนนักศึกษา ทำให้มีการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยังคงเป็นที่ต้องการในการพัฒนาระบบเทคโนโลยี 5G และผลิตภัณฑ์สำหรับโครงสร้างพื้นฐานทาง IT
อุตสาหกรรมเยื่อกระดาษ กระดาษ และสิ่งพิมพ์คาดว่าผลิตภัณฑ์กระดาษ (กระดาษแข็ง กระดาษลูกฟูก และกระดาษคราฟต์) ที่ใช้ผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ จะขยายตัวเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวในกลุ่มอาหาร ขณะเดียวกันบรรจุภัณฑ์กระดาษในยุค New Normal จะขยายตัวค่อนข้างมากแบบก้าวกระโดดและยังได้อานิสงส์ตามการใช้งานสำหรับส่งสินค้าทางออนไลน์ ในขณะที่การส่งออกจะขยายตัวต่อเนื่องในกลุ่มเยื่อกระดาษ สำหรับกลุ่มหนังสือและสิ่งพิมพ์จะยังคงหดตัวต่อเนื่อง
อุตสาหกรรมยาคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5.0 ตามแนวโน้มการขยายตัวที่ดีของตลาดทั้งในและต่างประเทศ สำหรับการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวได้ดีในตลาดอาเซียน โดยเฉพาะ เมียนมา เวียดนาม และกัมพูชา
อุตสาหกรรมอาหารคาดว่าดัชนีผลผลิตในภาพรวมน่าจะขยายตัว เนื่องจากปริมาณผลผลิตทางการเกษตรที่ใช้แปรรูปในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น มันสำปะหลัง สับปะรด เพิ่มขึ้น ประกอบกับการบริโภคในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคจากภาครัฐ สำหรับมูลค่าการส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวเช่นกัน โดยสินค้าอาหารที่ได้อานิสงส์จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เช่น อาหารสำเร็จรูป (ทูน่ากระป๋อง ผักและผลไม้กระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป) สิ่งปรุงรส และอาหารสัตว์เลี้ยงสำเร็จรูป
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 7 เมษายน 2564
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A4230
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ