ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง - ล้านช้าง (Memorandum of Understanding on the Cooperation on Project of Mekong - Lancang Cooperation Special Fund)
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 09 December 2020 00:21
- Hits: 13680
ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง - ล้านช้าง (Memorandum of Understanding on the Cooperation on Project of Mekong - Lancang Cooperation Special Fund)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง - ล้านช้าง (Memorandum of Understanding on the Cooperation on Project of Mekong - Lancang Cooperation Special Fund) และอนุมัติให้ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์และนโยบายของไทย ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้นๆ โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เสนอ
สาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง - ล้านช้าง ประจำปี 2563 ระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดแนวทางในการบริการจัดการงบประมาณของโครงการที่ได้รับการอนุมัติจากฝ่ายจีนให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้กองทุนอย่างสูงสุด ซึ่งสรุปได้ ดังนี้
1. หลักการเบื้องต้น มุ่งบริหารจัดการกองทุนเพื่อให้เกิดสันติภาพและความมั่งคั่งต่อประเทศสมาชิกกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง โดยเคารพกฎหมายและกฎระเบียบของทั้งประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน และร่วมกันติดตามประเมินโครงการและการใช้งบประมาณจากกองทุน
2. โครงการที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ 4 โครงการ ได้แก่
2.1 โครงการการบริหารจัดการมลพิษทางอากาศที่เกิดจากฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน และ 10 ไมครอน (PM10 and PM2.5 from HAZE Smog and Visibility Effect in Thailand) เสนอโดย สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ เป็นจำนวนเงิน 59,576 ดอลลาร์สหรัฐ
2.2 โครงการการตรวจวัดคุณภาพน้ำในแม่น้ำโขง (A Microbial - based Index to Assess the Ecological Status of the Lancang - Mekong River based on Molecular Approaches and DNA Barcoding) เสนอโดย ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เป็นจำนวนเงิน 461,300 ดอลลาร์สหรัฐ
2.3 โครงการการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง การแปรรูป การควบคุมศัตรูพืช การผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง รวมทั้งการบริหารจัดการของเสีย (Enhance Production Capacity and People’s Livelihood by Improving the Value Chain for Cassava Cultivation and Application: Clean Cassava Chips, Native Starch, Modified Starch, Ethanol and Biogas Production) เสนอโดย ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เป็นจำนวนเงิน 462,700 ดอลลาร์สหรัฐ
2.4 โครงการบริหารจัดการโลจิสติกส์และการค้าข้ามพรมแดน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (The Cooperation of SMEs and Labor in Logistics and Border Trade in Lancang - Mekong Countries under the plan to develop an Integrated Transportation and Logistic) เสนอโดย มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย เป็นจำนวนเงิน 453,000 ดอลลาร์สหรัฐ
3. การส่งมอบงบประมาณและการบริหารจัดการ สาธารณรัฐประชาชนจีนจะส่งมอบงบประมาณสำหรับดำเนินโครงการภายใน 20 วันหลังจากการลงนามบันทึกความเข้าใจฯ และฝ่ายไทย โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมจะแจ้งฝ่ายจีนอย่างเป็นทางการภายใน 10 วัน หลังการได้รับงบประมาณ
4. การควบคุมดูแลและประเมินผลโครงการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จะควบคุมดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งตรวจสอบการดำเนินโครงการอย่างสม่ำเสมอ และอาจมีการตรวจสอบการดำเนินโครงการร่วมกันกับฝ่ายจีน ทั้งนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จะต้องจัดทำรายงานผลการดำเนินโครงการเมื่อเสร็จสิ้นแล้ว รวมทั้งดำเนินการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน และคืนงบประมาณส่วนที่เหลือให้แก่ฝ่ายจีนภายใน 3 เดือน หลังจบโครงการ โดยการประยุกต์ใช้ร่างบันทึกความเข้าใจฯ ไม่ก่อให้เกิดผลผูกพันทางกฎหมายต่อทั้งสองฝ่ายและไม่เป็นสนธิสัญญาภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 8 ธันวาคม 2563
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A12204
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ