ขอเพิ่มวงเงินงบประมาณโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 01 December 2020 22:54
- Hits: 13657
ขอเพิ่มวงเงินงบประมาณโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอปรับเพิ่มกรอบวงเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 จากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติเบื้องต้น เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 จำนวน 18,096.06 ล้านบาท เพิ่มเติมอีก 28,711.29 ล้านบาท เป็น 46,807.35 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) มีมติเห็นชอบแล้ว โดยจำแนกเป็น
1. ค่าดำเนินการชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันกับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงโดยใช้แหล่งเงินทุนของ ธ.ก.ส. จำนวน 17,676.54 ล้านบาท ขอวงเงินเพิ่มเติมอีก จำนวน 28,078.44 ล้านบาท เป็น 45,754.98 ล้านบาท
2. ค่าใช้จ่ายในการชดเชยต้นทุนเงิน ธ.ก.ส. (ชดเชยต้นทุนเงินในอัตราร้อยละ 2.250) จำนวน 397.72 ล้านบาท ขอวงเงินเพิ่มเติมอีก 631.76 ล้านบาท เป็น 1,029.49 ล้านบาท
3. ค่าบริหารจัดการ ธ.ก.ส. จำนวน 21.80 ล้านบาท ขอวงเงินเพิ่มเติมอีก 1.09 ล้านบาท เป็น 22.88 ล้านบาท
สาระสำคัญของเรื่อง
นบข. ได้มีมติเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ดังนี้
1. รับทราบผลการประชุมหารือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงบประมาณ กรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 โดยที่ประชุมมีมติรับทราบการประมาณการวงเงินชดเชยโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 รวมทั้งสิ้น 46,807.35 ล้านบาท ซึ่งเกินวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 จำนวน 18,096.06 ล้านบาท โดยกระทรวงพาณิชย์จะขอวงเงินเพิ่มเติมอีก จำนวน 28,711.29 ล้านบาท
2. รับทราบผลการดำเนินการของคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ซึ่งได้กำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงแล้ว จำนวน 4 งวด สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวถึงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 ครอบคลุมเกษตรกรรวมทั้งสิ้น 4,334,178 ครัวเรือน ประมาณการวงเงินงบประมาณจำนวน 41,866.16 ล้านบาท และเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ขึ้นทะเบียนเพาะปลูก ปีการผลิต 2563/64 รอบที่ 1 กับกรมส่งเสริมการเกษตรที่แจ้งวันคาดว่าเก็บเกี่ยวหลังวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 (งวดที่ 5 เป็นต้นไป) คงเหลืออีกจำนวน 487,370 ครัวเรือน ผลผลิต 2,894,905 ตัน ซึ่งหากใช้ส่วนต่างราคาที่เกษตรกรได้รับชดเชยในงวดที่ 4 เพื่อประมาณการวงเงินคาดว่าจะใช้วงเงินประมาณ 3,888.82 ล้านบาท รวมประมาณการวงเงินชดเชยทั้งสิ้น 45,754,98 ล้านบาท ซึ่งเกินวงเงินชดเชยที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 จำนวน 17,676.54 ล้านบาท
3. เห็นชอบปรับเพิ่มกรอบวงเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 จากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติเบื้องต้น เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 จำนวน 18,096.06 ล้านบาท เพิ่มเติมอีก จำนวน 28,711.29 ล้านบาท เป็น 46,807.35 ล้านบาท จำแนกเป็น 1) ค่าดำเนินการชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันกับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง โดยใช้แหล่งเงินทุนของ ธ.ก.ส. จำนวน 17,676.54 ล้านบาท ขอวงเงินเพิ่มเติมอีก จำนวน 28,078.44 ล้านบาท เป็น 45,754.98 ล้านบาท 2) ค่าใช้จ่ายในการชดเชยต้นทุนเงิน ธ.ก.ส.(ชดเชยต้นทุนเงินในอัตราร้อยละ 2.250) จำนวน 397.72 ล้านบาท ขอวงเงินเพิ่มเติมอีก 631.76ล้านบาท เป็น 1,029.49 ล้านบาท 3) ค่าบริหารจัดการ ธ.ก.ส. จำนวน 21.80 ล้านบาท ขอวงเงินเพิ่มเติมอีก 1.09 ล้านบาท เป็น 22.88 ล้านบาท
4. มอบหมายธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และกระทรวงพาณิชย์จัดทำรายละเอียดโครงการฯ และงบประมาณให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และให้กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะฝ่ายเลขานุการ นบข. นำเสนอคณะรัฐมนตรีตามระเบียบต่อไป
5. มอบหมายกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับผิดชอบในการตรวจสอบตัวเลขการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปริมาณผลผลิต ประมาณการณ์วงเงินที่ใช้ ตลอดจนกำกับดูแลการจ่ายเงินให้ถูกต้อง ครบถ้วน รวมทั้งกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่ตรวจสอบความถูกต้องของการจ่ายเงินและการรับเงินของเกษตรกรอีกทางหนึ่ง กรณีพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดต่อไป
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 1 ธันวาคม 2563
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A12030
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ