รายงานผลการดำเนินงานขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี และนครปฐม ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 2
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 11 November 2020 08:07
- Hits: 8001
รายงานผลการดำเนินงานขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี และนครปฐม ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 2
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี และนครปฐม เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2563 ณ จังหวัดสุพรรณบุรี และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) และกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) รับประเด็นข้อหารือจากการประชุมดังกล่าวและพิจารณาดำเนินการต่อไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ร่วมกับคณะทำงานขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ทส. คณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันจังหวัดสุพรรณบุรี ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันจังหวัดกาญจนบุรี และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันจังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2563 โดยมีความก้าวหน้าการดำเนินงานรายจังหวัด สรุปได้ดังนี้
เรื่อง |
|
ความก้าวหน้าการดำเนินงานรายจังหวัด | ||||
สุพรรณบุรี |
กาญจนบุรี |
นครปฐม |
||||
1. การจ้างงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
|
ช่วยเหลือทั้งหมด 1,241 คน วงเงิน 44.21 ล้านบาท |
ช่วยเหลือทั้งหมด 3,779 คน วงเงิน 41.79 ล้านบาท |
ช่วยเหลือทั้งหมด 266 คน วงเงิน 49.94 ล้านบาท |
|||
2. การดำเนินงานขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันจำแนกตามกลุ่มสภาพปัญหา |
||||||
2.1 กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 |
ผู้ประกอบการในพื้นที่ได้รับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินด้วยการสนับสนุนสินเชื่อ รวม 11,088 ราย วงเงิน 8,987.41 ล้านบาท |
- |
- ได้ดำเนินมาตรการพักชำระหนี้ เติมทุนช่วยเหลือลูกหนี้ช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยสินเชื่อ และ Loan Payment Holiday - สำนักงานพาณิชย์จังหวัด อยู่ระหว่างการเสนอของบประมาณโครงการเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้าออนไลน์ให้ผู้ประกอบการ
|
|||
2.2 กลุ่มโครงสร้างการพัฒนาจังหวัดด้านต่างๆ 2.2.1 ด้านการเกษตรและการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ |
1) แผนงานระยะสั้น เช่น - มีการสำรวจแหล่งน้ำประปาหมู่บ้านในพื้นที่เสี่ยงที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค 5 อำเภอ 26 ตำบล 192 หมู่บ้าน (อ.ด่านช้าง ดอนเจดีย์ เดิมบางนางบวช อู่ทอง และหนองหญ้าไซ) 2) แผนงานระยะยาว - อยู่ระหว่างการเสนอขอรับงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ภายใต้โครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่าเหนือเขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี จำนวน 318-1-87 ไร่ - ดำเนินโครงการผันน้ำ เขื่อนศรีนครินทร์-อ่างเก็บน้ำกระเสียว โดยวางท่อเหล็กคาร์บอนรับแรงดันสูง และก่อสร้างสถานีสูบน้ำ (อยู่ระหว่างขอใช้พื้นที่ วางท่อ และรับฟัง ความคิดเห็นของประชาชน) - กำจัดผักตบชวาได้ 452,995 ตัน ตั้งแต่ เดือนตุลาคม 2562- กันยายน 2563) ในแม่น้ำ ท่าจีน ทั้งนี้ องค์การ บริหารส่วนจังหวัดได้เสนอ ให้ออกกฎและระเบียบ รองรับให้องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารถจัดเก็บผักตบชวาเพื่อนำมาผลิตเป็นปุ๋ยหรือสารบำรุงดินแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่ |
- |
กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้สำรวจข้อมูลในพื้นที่และเห็นควรมีการเจาะบ่อบาดาลเพื่อการเกษตรเพิ่มเติม จำนวนไม่น้อยกว่า 35 บ่อ |
|||
2.2.2 ปัญหาด้านที่ดินทำกิน และด้านทรัพยากรธรรมชาติ |
|
- คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดได้เห็นชอบพื้นที่ของกรมป่าไม้ที่ส่งมอบให้จังหวัดจำนวน 5 แปลง เนื้อที่ 15,807-3-60 ไร่ แล้ว - พื้นที่ของกระทรวง การพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ (นิคมสร้างตนเองกระเสียว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี) จำนวน 1 แปลง เนื้อที่รวม 84-2-54 ไร่ (29 ราย) อยู่ระหว่างการทำสัญญาเช่า 27 ราย |
- คณะอนุกรรมการแก้ไข ปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ จังหวัด (กบร. จังหวัด) ได้พิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐ (ผ่านการพิจารณาของ กบร. จังหวัด แล้ว) 36,420 แปลง คงเหลือที่ต้องดำเนินการอีก 19,907 แปลง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจเพื่อออกเอกสาร - ขณะนี้อยู่ระหว่าง การจัดสรรที่ดินในพื้นที่ ป่าสงวน ในบางพื้นที่ เช่น ป่าเขาพระฤาษี และป่าเขาบ่อแร่ แปลงที่ 1 ต.ท่าขนุน ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ และ ต.ปรังเผล อ. สังขละบุรี เนื้อที่ 6,576-2-85 ไร่ -คณะอนุกรรมการปรับปรุง แผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ แบบบูรณาการ มาตราส่วน 1:4,000 และแก้ไขปัญหา ที่ดินของรัฐ ได้ดำเนินการ ตรวจสอบพื้นที่ทับซ้อน ในเขตอุทยานแห่งชาติ เขื่อนศรีนครินทร์และอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เนื้อที่ 154,754 ไร่
|
|||
2.2.3 ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม |
- เทศบาลเมืองสุพรรณบุรีมีศูนย์กำจัดขยะพื้นที่ 153 ไร่ โดยในปี 2566 จะดำเนินโครงการจัดตั้ง ศูนย์จัดการขยะมูลฝอย ติดเชื้อ และโรงงานคัดแยก มูลฝอยทั่วไป และก่อสร้าง โรงงานคัดแยกขยะมูลฝอย เพิ่มเติม (ขณะนี้อยู่ระหว่าง เสนอรับการสนับสนุน งบประมาณ 299.51 ล้านบาท) - สำหรับพื้นที่อื่นๆ ยังไม่มีการกำจัดขยะมูลฝอยแบบถูกหลักวิชาการซึ่งขณะนี้บริษัทเอกชน ได้รับอนุญาตให้ลงทุนก่อสร้างเตาเผาเพื่อรองรับขยะมูลฝอยในพื้นที่แต่ อปท. ยังไม่มีแนวทางปฏิบัติในประเด็นการชำระค่ากำจัดขยะมูลฝอย |
-ได้จัดทำประกาศ เรื่อง การจัดระเบียบแพในพื้นที่ บริเวณเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ และเขื่อน วชิราลงกรณ์ อ.ทองผาภูมิ อ.ไทรโยค และพื้นที่ โดยรอบ ขณะนี้อยู่ระหว่าง การดำเนินการเตรียม สถานที่จอดแพ -ได้มีประกาศจังหวัด เพื่อกำหนดพื้นที่และ มาตรการควบคุมผล กระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5โดยกำหนดเขตพื้นที่โซนนิ่งห้ามเผาอ้อย รอบชุมชน 5 กิโลเมตร และรอบโรงงานน้ำตาล 10 และ 20 กิโลเมตร ทั้งนี้ ได้มีการดำเนิน โครงการสินเชื่อเพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิต อ้อยอย่างครบวงจร |
กรมควบคุมมลพิษ เตรียมดำเนินการตรวจวัด คุณภาพน้ำ ส่งเสริม การจัดการขยะมูลฝอย สำรวจและควบคุม แหล่งกำเนิดมลพิษ ในพื้นที่คลองเจดีย์บูชา และศึกษาความเหมาะสม ในการจัดทำมาตรการ แนวทางการฟื้นฟู คุณภาพน้ำ กรมควบคุมมลพิษได้เสนอให้ท้องถิ่น ติดตั้งเครื่องวัด PM2.5 แบบอัตโนมัติ ตรวจวัดภายนอกอาคารณ เทศบาลเมืองสามพราน |
นอกจากนี้ ได้มีประเด็นมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ 1) ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประสานกับหน่วยงานและภาคประชาชนเพื่อพิจรณาความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการผันน้ำเชื่อนศรีนครินทร์-อ่างก็บน้ำกระสียว 2) ให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณา (1) กำหนดระเบียบและแนวทางปฏิบัติให้ อปท. สามารถจัดเก็บผักตบชวาเพื่อนำมาผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์หรือสารบำรุงดินแจกจ่ายให้ประชาชนในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ (2) กำหนดแนวทางปฏิบัติ ขั้นตอน และกฎระเบียบในการให้ อปท. สามารถชำระค่ากำจัดขยะมูลฝอยแก่เอกชนที่ลงทุนก่อสร้างศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และ 3) ให้กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณากำหนดแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาอ้อย
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 10 พฤศจิกายน 2563
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A11237
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ