การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการดำเนินการมาตรการที่มิใช่ภาษีสำหรับสินค้าจำเป็นภายใต้แผนปฏิบัติการฮานอยว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานของอาเซียนให้เข้มแข็งในการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของโควิด-19
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 11 November 2020 01:30
- Hits: 9549
การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการดำเนินการมาตรการที่มิใช่ภาษีสำหรับสินค้าจำเป็นภายใต้แผนปฏิบัติการฮานอยว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานของอาเซียนให้เข้มแข็งในการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของโควิด-19
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการดำเนินการมาตรการที่มิใช่ภาษีสำหรับสินค้าจำเป็นภายใต้แผนปฏิบัติการฮานอยว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานของอาเซียนให้เข้มแข็งในการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของโควิด-19 (Memorandum of Understanding on the Implementation of Non-Tariff Measures on Essential Goods under the Hanoi Plan of Action on Strengthening ASEAN Economic Cooperation and Supply Chain Connectivity in Response to the COVID-19 Pandemic) ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
สาระสำคัญ
ร่างบันทึกความเข้าใจฯ จะมีการลงนามในช่วงการประชุมเตรียมการของรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 37 มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ครอบคลุมมาตรการการจำกัดทางการค้า หรือมาตรการที่มิใช่ภาษีที่บิดเบือนการค้าที่ใช้กับรายการสินค้าจำเป็นในภาคผนวกของบันทึกความเข้าใจฯ
2. ประเทศสมาชิกอาเซียนจะไม่ริเริ่ม หรือคงมาตรการที่มิใช่ภาษีที่จำกัดการค้าต่อสินค้าจำเป็น เท่าที่จะทำได้ ยกเว้นกรณีภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโดยสอดคล้องกับพันธกรณีภายใต้ความตกลงของ WTO และ ATIGA
3. กำหนดให้ประเทศสมาชิกอาเซียนต้องมีการแจ้งเตือน (notification) มาตรการที่ประกาศใช้ต่อสำนักเลขาธิการอาเซียน
4. สมาชิกสามารถใช้สิทธิและพันธกรณีภายใต้ WTO และความตกลงระหว่างประเทศอื่น
5. ไม่มีข้อผูกพันทางกฎหมายภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และไม่มีผลให้เกิดข้อพิพาททางการค้า
6. มีระยะเวลาการมีผลบังคับใช้ 2 ปี นอกจากประเทศสมาชิกอาเซียนจะตกลงเป็นอย่างอื่นภายหลังจากที่มีการทบทวนระยะ 1 ปีแรก
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 10 พฤศจิกายน 2563
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A11229
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ