รายงานผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ครั้งที่ 1/2563
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Thursday, 29 October 2020 11:16
- Hits: 8565
รายงานผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ครั้งที่ 1/2563
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (คณะกรรมการ ป.ย.ป) ครั้งที่ 1/2563 ตามที่สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (สำนักงาน ป.ย.ป.) เสนอ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง และประสานกับสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และ การสร้างความสามัคคีปรองดอง เพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูปประเทศต่อไป รวมทั้งให้รับความเห็นของหน่วยงานต่างๆ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
สาระสำคัญของรื่อง
คณะกรรมการ ป.ย.ป. ได้มีการประชุมครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2563 โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้มีมติพิจารณาแนวทางในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศ สรุปได้ดังนี้
1. เห็นชอบแนวทางการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ย.ป. โดยควรมุ่งเน้นเฉพาะประเด็นยุทธศาสตร์ชาติและประเด็นปฏิรูปประเทศจากคณะกรรมการ ป.ย.ป. รวมทั้งประเด็นกิจกรรมที่จะส่งผลต่อประชาชนอย่างมีนัยสำคัญจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และประเด็นปฏิรูปจากคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ โดยมีกลุ่มขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (กลุ่ม ป.ย.ป.) กระทรวง ทำหน้าที่ติดตามรายงานความคืบหน้าและปัญหาและอุปสรรคของ การดำเนินการขับเคลื่อนต่อสำนักงาน ป.ย.ป. เพื่อจัดทำรายงานและเสนอแนวทางการดำเนินการแก้ไข ต่อคณะกรรมการ ป.ย.ป. ต่อไป และเห็นชอบให้สำนักงาน ป.ย.ป. และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) ร่วมกันกำหนดตัวชี้วัด (KPI) การปฏิรูปประเทศตามประเด็นการขับเคลื่อนของส่วนราชการ โดยพิจารณาร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในแต่ละประเด็นเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและสอดคล้องกับบทบาทและอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการนั้น ตลอดจนร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) กำหนดแนวทางในการนำผลสัมฤทธิ์ของการขับเคลื่อนมาประกอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการของหัวหน้าส่วนราชการ
2. เห็นชอบในหลักการให้ยกเลิกคณะกรรมการ 5 คณะ ได้แก่ (1) คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (2) คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ (3) คณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ (4) คณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติและ (5) คณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง และให้แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนิการปฏิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วน เพื่อให้การขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศในส่วนที่ต้องมีการปรับปรุง แก้ไข หรือการตรากฎหมายเป็นไปด้วยความต่อเนื่องและมีประสิทธิภพ โดยนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการเกี่ยวกับเรื่องการใช้ระบบ Big Data ที่มีระดับชั้นความลับของข้อมูล ให้ข้อมูลพื้นฐานของทุกกระทรวงสามารถเผยแพร่และนำมาใช้ประโยชน์ได้โดยไม่ก้าวล่วงความเป็นสิทธิส่วนบุคคลหรือละเมิดอำนาจของแต่ละหน่วยงาน แต่สามารถขอใช้ประโยชน์ได้เป็นครั้งคราว
3. เห็นชอบในหลักการในการปรับปรุงกลไกการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ดังนี้
3.1 การขับเคลื่อนผ่านกลุ่ม ป.ย.ป. กระทรวง เช่น (1) กำหนดให้ผลการดำเนินการ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศเป็นตัวชี้วัดระดับกระทรวงอยู่ในความรับผิดชอบของรัฐมนตรีเจ้าสังกัด และให้นำผลการดำเนินการตามตัวชี้วัดมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจำปีต่อไป และ (2) ดำเนินการขับเคลื่อนแผนการปฏิรูปประเทศ ในกรณีที่เกิดปัญหาการดำเนินการที่ต้องมีการ บูรณาการระหว่างหลายหน่วยงาน หรือการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนเชื่อมโยงหลายหน่วยงาน โดยการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางแก้ไขปัญหานำเสนอคณะกรรมการ ป.ย.ป. และคณะรัฐมนตรีพิจารณา ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงเร่งรัด ผลักดัน และขับเคลื่อนการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศทุกด้านให้มีผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม รวมทั้งให้ ป.ย.ป. กระทรวงเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการปฏิรูปของแต่ละกระทรวงตามความคล่องตัว โครงสร้างและประสิทธิภาพของหน่วยงาน โดยเน้นการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เพิ่มภาระในการทำงานแก่หน่วยงานต่างๆ มากจนเกินไป
3.2 หลักสูตรการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (หลักสูตร ป.ย.ป.) โดยปรับปรุงรูปแบบการจัดอบรมหลักสูตร ป.ย.ป. จากมุ่งเน้นการเสริมสร้างสมรรถนะของผู้เข้าร่วมอบรมเป็นมุ่งเน้นการขับเคลื่อนแผนการปฏิรูปประเทศไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ซึ่งนายกรัฐมตรีเน้นหลักสูตรต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้ฝึกอบรมให้เหมาะสมกับการเป็นข้าราชการในศตวรรษที่ 21
3.3 เห็นชอบประเด็นขับเคลื่อนสำคัญของคณะกรรมการ ป.ย.ป. 3 ประเด็น ได้แก่ (1) การขับเคลื่อนแผนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย (2) การขับเคลื่อนและสร้างการรับรู้ผลการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และ (3) การขับเคลื่อนแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา
3.4 รับทราบผลงานสำคัญของสำนักงาน ป.ย.ป. เช่น เรื่องการปรับปรุงพัฒนากฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ (Regulatory Guillotine) โดยนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการ ได้แก่ (1) เรื่องการปฏิรูประบบร้องเรียนร้องทุกข์ของประเทศ การบูรณาการข้อมูลสารสนเทศ เพื่อวิเคราะห์ประมวลผลเรื่องร้องเรียนหรือร้องทุกข์จากประชาชนให้สำนักงาน ป.ย.ป. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการบูรณาการข้อมูลให้มีความครอบคลุม ครบถ้วน สมบูรณ์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ร่วมกันต่อไป (2) เรื่องการป้องกันและบรรเทาปัญหาฝุ่นควัน ให้สำนักงาน ป.ย.ป. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาศึกษาวิเคราะห์สาเหตุของการเกิด ฝุ่นควันในช่วงต่างๆ ของแต่ละพื้นที่ และให้สำนักงาน ป.ย.ป. ขับเคลื่อนให้มีการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อจำแนกแหล่งกำเนิดของฝุ่นควัน เพื่อนำมาเป็นข้อมูลประกอบการกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นควันของประเทศอย่างยั่งยืนและ (3) โครงการนำร่องการบูรณาการการสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำให้ผู้พิการ ให้สำนักงาน ป.ย.ป. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับปรุง/พัฒนาระบบ Big Data ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเพื่อให้มีฐานข้อมูลผู้พิการที่ครบถ้วนสมบูรณ์
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 28 ตุลาคม 2563
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A10716
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ