การบริจาคเงินสมทบกองทุนตั้งต้นเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานที่ปลอดภัย เป็นระเบียบ และปกติ (Start - Up Fund for Safe, Orderly and Regular Migration) ภายใต้การบริหารของสหประชาชาติ
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 23 September 2020 09:55
- Hits: 2807
การบริจาคเงินสมทบกองทุนตั้งต้นเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานที่ปลอดภัย เป็นระเบียบ และปกติ (Start - Up Fund for Safe, Orderly and Regular Migration) ภายใต้การบริหารของสหประชาชาติ
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อการจัดทำข้อตกลงการบริหารจัดการมาตรฐาน (Standard Administrative Arrangement: SAA) สำหรับการบริจาคเงินสมทบทุนตั้งต้นเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานที่ปลอดภัย เป็นระเบียบ และปกติ (Start - Up Fund for Safe, Orderly and Regular Migration) อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่าง SAA ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อประโยชน์ของไทย และไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไปแล้ว ให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) สามารถดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังพร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 [เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ (ตามข้อ 5.6)] รวมทั้งอนุมัติให้เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา เป็นผู้ลงนามใน SAA โดย กต. จะจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรฯ สำหรับการลงนามครั้งต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
กต. รายงานว่า
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 ผู้แทนจากองค์การระหว่างประเทศ 8 หน่วยงาน ได้แก่ 1) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (International Organization for Migration: IOM) 2) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ 3) สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ 4) สำนักงานกิจการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ 5) องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (United Nations Children’s Fund: UNICEF) 6) สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ 7) โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ และ 8) สำนักงานว่าด้วย ยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจมาตรฐานสำหรับกองทุนตั้งต้นเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานที่ปลอดภัย เป็นระเบียบ และปกติ (Start - Up Fund for Safe, Orderly and Regular Migration) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนรัฐในการนำ (Global Compact for Safe, Orderly and Regular Migration: GCM) ไปปฏิบัติผ่านการดำเนินโครงการในประเทศต่างๆ โดยมีคณะกรรมการอำนวยการ (Steering Committee) ทำหน้าที่บริหารจัดการและพิจารณาข้อเสนอโครงการต่างๆ และมีผู้อำนวยการใหญ่ IOM เป็นประธาน ทั้งนี้ ในการบริจาคเงินสมทบกองทุนฯ ประเทศผู้บริจาคจะต้องลงนาม SAA ซึ่งเป็นแบบฟอร์มมาตรฐานที่จัดทำขึ้นโดยฝ่ายเลขานุการกองทุนฯ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและโปร่งใสต่อแนวทางการบริหารจัดการเงินบริจาค
กต. เห็นว่าการบริจาคเงินเข้ากองทุนฯ เป็นการแสดงบทบาทในการร่วมบริหารจัดการโยกย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศที่เป็นรูปธรรม เช่น สนับสนุนการเข้าถึงบริการสาธารณะ โดยในการประชุมคณะมนตรี IOM สมัยที่ 110 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ณ นครเจนีวา ประเทศไทยได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะบริจาคเงินสมทบกองทุนฯ ภายหลังการดำเนินกระบวนการภายในเสร็จสิ้นแล้ว (ปัจจุบันมีประเทศที่บริจาคเงินเข้ากองทุนฯ แล้ว 8 ประเทศ ประมาณ 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยผู้อำนวยการใหญ่ IOM แจ้งว่าไทยเป็น 1 ใน 3 ของกลุ่มประเทศผู้บริจาคร่วมกับสหพันธรัฐเยอรมนีและสหราชอาณาจักรที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกคณะกรรมการอำนวยการกองทุนฯ และจะมีการหมุนเวียนการเป็นสมาชิกในช่วงสิ้นปี 2563
ร่าง SAA มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดรายละเอียดการให้เงินของประเทศผู้บริจาคและการใช้เงินในกองทุนฯ เพื่อดำเนินความร่วมมือต่างๆ ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของกองทุนฯ ดังนี้ (1) การชำระเงินทุนให้แก่ตัวแทนบริหารจัดการและบัญชีกองทุน (2) การจัดสรรเงินทุนให้แก่หน่วยงานสหประชาชาติที่เข้าร่วมและบัญชีแยกประเภท (3) การรายงานผล (4) การติดตามและการประเมินผล (5) การตรวจสอบ ได้แก่ การตรวจสอบภายนอกและภายใน การตรวจสอบภายในร่วม ค่าใช้จ่ายของการตรวจสอบภายใน และการตรวจสอบพันธมิตรที่ร่วมดำเนินการ (6) การฉ้อโกง การทุจริตและพฤติกรรมที่ผิดจริยธรรม (7) การสื่อสารและความโปร่งใส (8) การสิ้นสุดการเปลี่ยนแปลง การยุติ และยอดเงินที่ไม่ได้ใช้ (9) การมีผลบังคับใช้ โดยมีผลบังคับใช้เมื่อผู้เข้าร่วมได้ลงนามและจะมีผลบังคับใช้จนกว่าข้อตกลงจะสิ้นสุดหรือถูกยกเลิก (10) การยุติข้อพิพาท ข้อพิพาทใดๆ ที่เกิดขึ้นจากเงินสนับสนุนที่ผู้บริจาคให้แก่กองทุนจะได้รับการแก้ไขผ่านการหารือระหว่างผู้บริจาค ตัวแทนบริหารจัดการและหน่วยงานสหประชาชาติที่เข้าร่วมที่เกี่ยวข้อง
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 22 กันยายน 2563
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
A9520
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ