WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ขออนุมัติกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564-2565 ตามแผนปฏิบัติการบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2564 – 2565) ของมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ และสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแ

GOV 5ขออนุมัติกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ .. 2564-2565 ตามแผนปฏิบัติการบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระยะที่ 3 (.. 2564 – 2565) ของมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ และสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้

          1. รับทราบผลการดำเนินงานของมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ และสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ในช่วงแผนยุทธศาสตร์การบูรณาการการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระยะที่ 1 – 2 (.. 2554 – 2562) และแผนปฏิบัติการบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระยะที่ 3 (.. 2564 – 2565) ของมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริและสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ   

          2. เห็นชอบสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ และสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ตามแผนปฏิบัติการบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระยะที่ 3 (.. 2564 – 2565) โดยมอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีในหมวดเงินอุดหนุนตามแผนดังกล่าว ภายในกรอบวงเงิน 572.58 ล้านบาท

        สาระสำคัญของเรื่อง 

        มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ และสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ได้เสนอร่างแผนปฏิบัติการบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระยะที่ 3 (.. 2564 – 2565) โดยมีรายละเอียดดังนี้

          1. นโยบายหลัก 

              1) พัฒนาพื้นที่ต้นแบบของสถาบันฯ ทั้งหมด ด้วยการเสริมประสิทธิภาพและยกระดับสู่ความยั่งยืน สามารถเชื่อมโยงกับภายนอกได้ และให้ความสำคัญกับการเป็นห้องปฏิบัติการทางสังคม (Social Lab) เป็นแหล่งศึกษา ค้นคว้า หารูปแบบการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ที่เหมาะสม รวมทั้งเป็นสถานที่เรียนรู้ระบบการพัฒนาที่จะนำไปสู่การขยายผล และเป็นทิศทางหลักในการพัฒนาประเทศ

              2) เน้นการขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดำริโดยใช้รูปแบบ แนวทางกระบวนการองค์ความรู้ที่ได้จากการปฏิบัติจริง และประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริในพื้นที่ที่มีปัญหาความมั่นคงของประเทศ ทั้งจังหวัดชายแดนภาคเหนือและจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำไปสู่การขยายผลในพื้นที่อื่นๆ

              3) ส่งเสริมการขยายผลและเผยแพร่รูปแบบการพัฒนาที่เกิดขึ้น เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม สถาบันการศึกษา เข้ามาเรียนรู้รูปแบบการพัฒนาตามแนวพระราชดำริที่มีความหลากหลายเหมาะสมกับภูมิสังคม โดยจัดกระบวนการเรียนรู้และการฝึกปฏิบัติ ควบคู่กับการขยายผลรูปแบบการพัฒนาตามแนวพระราชดำริสู่ระบบราชการ อันจะนำไปสู่การเป็นทิศทางหลักในการพัฒนาประเทศระยะต่อไป

          2.  วัตถุประสงค์ 

              1) เพื่อประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทยอย่างกว้างขวางมากขึ้น

              2) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาในพื้นที่ต้นแบบเดิมให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

              3) เพื่อขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดำริไปยังพื้นที่ที่เป็นนโยบายของรัฐบาล

              4) เพื่อสร้างเครือข่ายองค์ความรู้ และสร้างนักพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริให้มากยิ่งขึ้น   

          3. เป้าหมายการพัฒนา  เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว จึงได้กำหนดเป้าหมายของแผนปฏิบัติการฯ ระยะที่ 3 (.. 2564 – 2565) ดังนี้   

              1) พัฒนาพื้นที่ต้นแบบทั้ง 9 จังหวัด (น่าน อุดรธานี กาฬสินธุ์ อุทัยธานี เพชรบุรี ขอนแก่น ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) ให้พึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืนได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และหลักทฤษฎีใหม่    

              2) ขยายพื้นที่การปฏิบัติงานเพื่อประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริไปในพื้นที่ความมั่นคงตามแนวชายแดนภาคเหนือและชายแดนภาคใต้

              3) สร้างนักพัฒนาชนบทตามแนวพระราชดำริ เพื่อเป็นวิทยากร/พี่เลี้ยง และผู้ประสานงานการพัฒนาที่ยั่งยืน

          4. ประเด็นแผนปฏิบัติการฯ ระยะที่ 3 (.. 2564 – 2565) ของมูลนิธิฯ และสถาบันฯ เป้าหมาย ตัวชี้วัด และแผนงาน

              ประเด็นแผนปฏิบัติการฯ ระยะที่ 3 ประกอบด้วย 3 แนวทางคือ แนวทางการพัฒนาที่ 1 การสร้างเสริมความเข้มแข็งของพื้นที่ต้นแบบเดิมให้ไปสู่ความยั่งยืน สามารถรองรับสถานการณ์ภายนอกที่เปลี่ยนแปลง แนวทางการพัฒนาที่ 2 ส่งเสริมการประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริในพื้นที่ที่มีปัญหาความมั่นคงของประเทศ และ แนวทางการพัฒนาที่ 3 การบริหารจัดการเพื่อขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดำริให้สอดคล้องกับภูมิสังคมและสภาพแวดล้อม โดยมีเป้าหมาย ตัวชี้วัด แผนงาน และโครงการ รวมปีละ 10 แผนงาน 40 โครงการ ที่ดำเนินงานในระยะเวลา 2 ปี  

          5. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ   

              1) ได้โมเดลการพัฒนาที่ยั่งยืน อันจะเป็นแบบแผนในการพัฒนาประเทศในอนาคตสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ภายใต้ยุทธศาสตร์ 20 ปี คือ ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง   

              2) ได้แนวทางการประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริในมิติที่เป็นความสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะในมิติความมั่นคง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคงในเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง เช่น การค้าและการแพร่ระบาดของยาเสพติด    

              3) ได้แนวทางการขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดำริไปในพื้นที่ที่หลากหลายภูมิสังคม สอดคล้องกับหลักการสำคัญของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 ที่ยึดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาที่ยั่งยืน และคนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา

              4) ประโยชน์ที่ประชาชนในพื้นที่ต้นแบบจะได้รับในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน จะเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนในพื้นที่อื่นเห็นประโยชน์และนำไปปรับใช้มากขึ้น ตามพันธกิจขององค์กรกล่าวคือ

                  4.1) ร้อยละ 80 ของครัวเรือนที่เข้าร่วมโครงการในหมู่บ้านต้นแบบ ที่ประยุกต์ใช้ทฤษฎีใหม่ มีรายได้สูงกว่าการพัฒนาในระยะที่ผ่านมา (ปี 2563) 

                  4.2) ชุมชนมีผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าให้พื้นที่ต้นแบบ 5 ผลิตภัณฑ์ ภายในระยะ 2 ปี (.. 2564 – 2565) 

                  4.3) เกิดความสามัคคีในชุมชน มีการทำงานร่วมกัน แบ่งปันทรัพยากร โดยมีการรวมกลุ่มอาชีพและกองทุน ที่บริหารจัดการโดยชุมชน ได้รับมาตรฐานตามหลักเกณฑ์จากหน่วยงาน เช่น กลุ่มเกษตร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ และมีการดำเนินกิจกรรมต่อเนื่อง

                  4.4) พื้นที่ป่าไม้ เช่น ป่าเศรษฐกิจ ป่าใช้สอย ป่าชุมชนฯ ในโครงกร ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ได้รับการดูแลรักษา และอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้มีสัดส่วนร้อยละ 55 ของพื้นที่โครงการ

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 25 สิงหาคม 2563

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

AO8742

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!