WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีและเสนอมาตรการช่วยเหลือ SMEs เพิ่มเติม

GOV 5การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีและเสนอมาตรการช่วยเหลือ SMEs เพิ่มเติม

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะพิเศษ Soft Loan พลัส ซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือ SMEs เพิ่มเติม เพื่อให้ SMEs สามารถเข้าถึงสินเชื่อตามพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 .. 2563 ได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอต่อความต้องการ โดยภาระงบประมาณสำหรับการชดเชยความเสียหายในอัตราไม่เกินร้อยละ 16 ของวงเงินอนุมัติค้ำประกัน กรอบวงเงินงบประมาณจำนวน 9,120 ล้านบาทนั้น เห็นสมควรให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ทั้งนี้ ขอให้ บสย. ใช้เงินรายได้จากค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อของโครงการก่อน หากไม่เพียงพอจึงขอรับจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

          นอกจากนี้ เพื่อให้การให้ความช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) อย่างทั่วถึง คณะรัฐมนตรีมีมติห็นชอบการปรับปรุงการดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) วงเงิน 20,000 ล้านบาท การปรับปรุงแนวทางการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการ SMEs อย่างทั่วถึง การขยายกลุ่มเป้าหมายโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) วงเงิน 10,000 ล้านบาท และการปรับปรุงและขยายเวลาดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ Micro Entrepreneurs ระยะที่ 3 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ

          ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ .. 2561 และดำเนินการด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และระมัดระวัง รวมถึงการดำเนินการตามข้อ 2.-5. จะต้องอยู่ในกรอบวงเงินงบประมาณที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ความเห็นชอบไว้เดิมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบทางการเงิน อันจะก่อให้เกิดภาระต่อรัฐบาลในอนาคต ประกอบกับในการดำเนินการดังกล่าว เห็นควรที่กระทรวงการคลังจะได้กำหนดเพดานอัตราการให้สินเชื่อตามกลุ่ม/ประเภท รวมทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์กำกับดูแลด้านกระบวนการสินเชื่อ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องอย่างครอบคลุม เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยง ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นตาก NPLs ซึ่งรัฐบาลจะต้องรับภาระชดเชย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบทางการเงิน อันจะก่อให้เกิดภาระต่อรัฐบาลในอนาคต อีกทั้งเพื่อให้การดำเนินการตามมาตรการและโครงการดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นควรที่กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการและโครงการให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานการดำเนินงานตามมาตรการดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ .. 2561 และดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

          สาระสำคัญ

          กระทรวงการคลังเสนอการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีและเสนอมาตรการช่วยเหลือ SMEs เพิ่มเติม โดยมีรายละเอียด ดังนี้

          1. โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะพิเศษ Soft Loan พลัส

               1.1 วัตถุประสงค์: เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อตามพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 .. 2563 (... Soft Loan) ได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอตามความต้องการ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และเกิดความคล่องตัวในการอนุมัติสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ SMEs ตาม ... Soft Loan

               1.2 กลุ่มเป้าหมาย: ผู้ประกอบการ SMEs ที่มีคุณสมบัติตาม ... Soft Loan แต่ยังไม่ได้รับสินเชื่อตาม ... Soft Laon

               1.3 ระยะเวลาดำเนินงาน: 1 ปี นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ หรือระยะเวลาที่ธนาคารแห่งประเทศไทยให้สถาบันการเงินกู้ยืมตาม ... Soft Loan 

               1.4 วิธีดำเนินการ: บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันสินเชื่อวงเงินโครงการรวม 57,000 ล้านบาท ระยะเวลาการค้ำประกันสูงสุดไม่เกิน 8 ปี โดยการค้ำประกันจะเริ่มต้นในปีที่ 3 นับจากวันที่ผู้ประกอบการ SMEs แต่ละรายได้รับสินเชื่อตาม ... Soft Loan และ บสย. จะเริ่มคิดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันร้อยละ 1.75 ต่อปี เมื่อเริ่มการค้ำประกันในต้นปีที่ 3 ทั้งนี้ บสย. จ่ายค่าประกันชดเชยตลอดโครงการไม่เกินร้อยละ 30 

               1.5 งบประมาณ: การดำเนินโครงการดังกล่าว บสย. จำเป็นต้องขอรับการชดเชยความเสียหายตามที่เกิดขึ้นจริงเป็นจำนวนเงิน 9,120 ล้านบาท โดยเป็นค่าชดเชยการจ่ายค่าประกันชดเชยในอัตราไม่เกินร้อยละ 16 ของวงเงินอนุมัติค้ำประกัน (ร้อยละ 16*57,000 ล้านบาท) ทั้งนี้ การดำเนินโครงการดังกล่าวอาจมีความเสี่ยงค่อนข้างสูงที่ บสย. จะไม่สามารถบริหารสภาพคล่องเพื่อจ่ายชดเชยความเสียหายให้กับสถาบันการเงินได้ตามกำหนด ดังนั้น สำนักงบประมาณควรจัดสรรงบประมาณชดเชยตามความรับผิดชอบในการจ่ายค่าประกันชดเชยตามรายละเอียดโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะพิเศษ Soft Loan พลัส

          2. การปรับปรุงการดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) 

               2.1 มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง

                     คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 เห็นชอบโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) วงเงิน 20,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชนที่มีรายได้ประจำแต่มีรายได้ลดลงหรือขาดรายได้เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัส COVID-19 วงเงินไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) ไม่เกินร้อยละ 0.35 ต่อเดือน ระยะเวลากู้เงินไม่เกิน 3 ปี โดยรับคำขอกู้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ทั้งนี้ วันที่ 10 สิงหาคม 2563 ธนาคารออมสินอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 1,012 ล้านบาท โดยยังมีวงเงินสินเชื่อคงเหลืออยู่อีกจำนวน 18,988 ล้านบาท

               2.2 การปรับปรุงแนวทางการให้ความช่วยเหลือ

                     เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างทั่วถึงและครอบคลุมประชาชนผู้ประกอบอาชีพทุกกลุ่ม จึงเห็นควรปรับปรุงการดำเนินโครงการ ดังนี้

                     1) จัดสรรวงเงินจำนวน 10,000 ล้านบาท จากโครงการตามข้อ 2.1 ให้ธนาคารออมสินดำเนินโครงการสินเชื่อเสริมพลังฐานราก เพื่อปล่อยสินเชื่อให้ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้มีรายได้ประจำ รวมถึงบุคคลในครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ภัยทางเศรษฐกิจ และภัยทางธรรมชาติ ทั้งนี้ สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่นๆ รวมถึงกรอบวงเงินงบประมาณที่รัฐบาลชดเชยยังคงเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 โดยเพิ่มเติมระยะเวลาปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน (6 งวดแรก) เพื่อบรรเทาภาระให้ลูกค้า

                     2) จัดสรรวงเงินจำนวน 5,000 ล้านบาท จากโครงการตามข้อ 2.1 ให้ธนาคารออมสินดำเนินโครงการ Soft Loan ออมสินฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย เพื่อปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs รายย่อยที่เป็นบุคคลธรรมดาในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และ Supply Chain เช่น ร้านอาหาร ธุรกิจสปา นวดแผนไทย รถรับจ้างนำเที่ยว เกสต์เฮ้าส์ โฮสเทล เป็นต้น วงเงินต่อรายไม่เกิน 500,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.99 ต่อปี ระยะเวลากู้ 5 ปี ปลอดชำระเงินต้น 1 ปี ทั้งนี้ กรอบวงเงินงบประมาณที่รัฐบาลชดเชยยังคงเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563

                    การดำเนินโครงการตามข้อ 1 และ 2 เข้าข่ายลักษณะของกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามบทบัญญัติในมาตรการ 27 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ .. 2561 (... วินัยการเงินการคลังฯ) และประกาศคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ (คณะกรรมการฯ) เรื่องการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการที่ก่อให้เกิดภาระต่องบประมาณหรือภาระทางการคลังในอนาคต .. 2561 โดยกระทรวงการคลังได้จัดทำรายละเอียดข้อมูลที่ต้องนำเสนอตามบทบัญญัติในมาตรา 27 แห่ง ... วินัยการเงินการคลังฯ เรียบร้อยแล้ว การดำเนินโครงการดังกล่าวยังเข้าข่ายตามพระราชบัญญัติในมาตรา 28 แห่ง ... วินัยการเงินการคลังฯ ซึ่ง บสย. และธนาคารออมสินในฐานะหน่วยงานของรัฐที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการมาตรการดังกล่าว และกระทรวงการคลังในฐานะผู้เสนอเรื่องดังกล่าว ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าสามารถดำเนินการได้ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่กล่าวข้างต้น ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้จัดทำรายละเอียดข้อมูลที่หน่วยงานของรัฐต้องเสนอพร้อมกับการขออนุมัติต่อคณะรับมนตรีตามบทบัญญัติในมาตรา 28 แห่ง ... วินัยการเงินการคลังฯ เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ บสย. และธนาคารออมสินต้องจัดทำบัญชีสำหรับการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือ โครงการที่ได้รับมอบหมายแยกต่างหากจากบัญชีการดำเนินงานทั่วไป พร้อมทั้งเสนอรายงานผลการดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายและผลสัมฤทธิ์ต่อรัฐมนตรี เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ รวมทั้งเผยแพร่ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ตามนัยบทบัญญัติมาตรา 29 แห่ง ... วินัยทางการเงินการคลังฯ

                     ประกาศคณะกรรมการฯ เรื่อง กำหนดอัตราชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ของหน่วยงานของรัฐในการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 28 แห่ง ... วินัยการเงินการคลังฯ ได้กำหนดอัตรายอดคงค้างรวมทั้งหมดของภาระที่รัฐบาลต้องรับชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ ในการดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 28 ต้องมียอดคงค้างทั้งหมดรวมกันไม่เกินร้อยละสามสิบของงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยกระทรวงการคลังรายงานว่า สิ้นวันที่ 14 สิงหาคม 2563 ภาระที่รัฐต้องรับชดเชยตามมาตรา 28 แห่ง ... วินัยการเงินการคลังฯ มียอดคงค้างจำนวน 919,500.396 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 28.73 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี .. 2563 (วงเงิน 3,200,000 ล้านบาท) ซึ่งหากรวมภาระทางการคลังที่อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีอีกจำนวน 18,500.472 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 0.57 ของจำนวนเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี .. 2563 จะส่งผลให้ยอดคงค้างทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 938,000.868 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 29.31 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี .. 2563 ดังนั้น หากมีการดำเนินโครงการดังกล่าวจำนวนรวมทั้งสิ้น 9,120 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 0.28 ของจำนวนเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี .. 2563 จะส่งผลให้ภาระที่รัฐต้องรับชดเชยมียอดคงค้างเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 947,120.868 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 29.59 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี .. 2563 ซึ่งยังคงไม่เกินอัตราร้อยละ 30 ที่คณะกรรมการฯ ได้ประกาศกำหนดไว้

          3. การปรับปรุงแนวทางการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการ SMEs อย่างทั่วถึง

               3.1 มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง

                      1) คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 เห็นชอบให้จัดสรรวงเงินจำนวน 80,000 ล้านบาท จากมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ให้กับธนาคารออมสินเพื่อปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบธุรกิจการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) โดยตรง ทั้งนี้ วันที่ 10 สิงหาคม 2563 อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 59,857 ล้านบาท

                      2) ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 เห็นชอบการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการ SMEs อย่างทั่วถึง โดยจัดสรรวงเงินจำนวน 10,000 ล้านบาท จากวงเงิน 80,000 ล้านบาทที่กล่าวข้างต้น (ทำให้วงเงินตามข้อ 3.1 1) เหลือ 70,000 ล้านบาท) โดยให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ที่ไม่เคยขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินหรือไม่มีสินเชื่อคงค้างกับสถาบันการเงิน วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นผู้ประกอบการ SMEs ที่มีคุณสมบัติไม่เข้าข่ายตาม ... Soft Loan ทั้งนี้ วันที่ 10 สิงหาคม 2563 อนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 613 ล้านบาท

                      3) นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 จัดสรรวงเงินค้ำประกันสินเชื่อจำนวน 10,000 ล้านบาท จากโครงการ บสย. SMEs สร้างไทย เพื่อให้ บสย. ดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 8 (PGS 8) เพื่อค้ำประกันสินเชื่อให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ที่ไม่เคยขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินหรือไม่มีสินเชื่อคงค้างกับสถาบันการเงิน วันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดยปัจจุบันยังไม่มีการใช้วงเงินค้ำประกันดังกล่าว

               3.2 การปรับปรุงแนวทางการให้ความช่วยเหลือ

                      เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs ทั่วไปสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงินได้มากขึ้น จึงเห็นควรปรับปรุงแนวทางการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการ SMEs อย่างทั่วถึง ดังนี้

                      1) จัดสรรวงเงินจำนวน 10,000 ล้านบาท ตามข้อ 3.1 1) ให้สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ธุรกิจท่องเที่ยวและที่เกี่ยวเนื่อง เนื่องจากเป็นกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของภาครัฐ โดยใช้เงื่อนไขของมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) เดิม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 

                      2) ขยายขอบเขตคุณสมบัติของผู้ประกอบการ SMEs ตามข้อ 3.1 2) ให้ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการ SMEs ทั่วไป ทั้งนี้ เพื่อให้ธนาคารออมสินให้ความช่วยเหลือโดยตรงให้กับผู้ประกอบการ SMEs ทั่วไปได้ จึงเห็นควรแบ่งวงเงินจำนวน 3,000 ล้านบาทให้กับธนาคารออมสินเพื่อปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ SMEs โดยตรง

                      3) ขยายขอบเขตคุณสมบัติของผู้ประกอบการ SMEs ตามข้อ 3.1 3) ให้ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการ SMEs ทั่วไป และปรับวงเงินค้ำประกันต่อราย จากเดิมไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อราย รวมทุกสถาบันการเงิน เป็นไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อรายรวมทุกสถาบันการเงิน เพื่อให้รองรับลูกค้าได้มากขึ้น

          4. ขยายกลุ่มเป้าหมายโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) 

               4.1 มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง

                     คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 เห็นชอบโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) วงเงิน 10,000 ล้านบาท โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เป็นผู้ปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการอาชีพอิสระรายย่อยที่เป็นนิติบุคคล ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ได้แก่ ธุรกิจทัวร์ ธุรกิจสปา ธุรกิจขนส่งที่เกี่ยวเนื่อง (รถทัวร์ รถบัส รถตู้ รถแท็กซี่ เรือนำเที่ยว รถเช่า) บริษัทนำเที่ยว โรงแรม ห้องพัก และร้านอาหาร ที่มีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ วันที่ 10 สิงหาคม 2563 ธพว. อนุมัติสินเชื่อไปแล้วจำนวน 417 ล้านบาท จึงยังมีวงเงินคงเหลือภายใต้โครงการดังกล่าวอีกจำนวน 9,583 ล้านบาท

               4.2 การปรับปรุงแนวทางการให้ความช่วยเหลือ

                     เพื่อให้ ธพว. สามารถให้ความช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจอื่นที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จึงเห็นควรขยายกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมถึงธุรกิจอื่นที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยเน้นการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดย่อมทั้งบุคลธรรมดาและนิติบุคคล ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่นๆ ของโครงการ รวมถึงกรอบวงเงินงบประมาณที่รัฐบาลชดเชยยังคงเป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563

          5. การปรับปรุงหลักเกณฑ์และขยายเวลาการดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ Micro Entrepreneurs ระยะที่ 3

          คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 เห็นชอบโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ Micro Entrepreneurs ระยะที่ 3 วงเงิน 15,000 ล้านบาท โดย บสย. ค้ำประกันสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย วงเงินค้ำประกันไม่เกิน 200,000 บาทต่อรายรวมทุกสถาบันการเงิน ซึ่งสิ้นสุดการรับคำขอค้ำประกันเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2563 ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดการรับคำขอแล้ว ยังมีวงเงินค้ำประกันโครงการคงเหลืออยู่ จำนวน 2,513 ล้านบาท ในการนี้ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถได้รับสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ จึงเห็นควรขยายระยะเวลารับคำขอค้ำประกันออกไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 18 สิงหาคม 2563

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

COREHOON

AO8544

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

Forex Exness1

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!