WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ร่างแผนปฏิบัติการสาธารณสุขเขตสุขภาพพิเศษแห่งชาติ ระยะที่ 1 พ.ศ. 2562 – 2565

GOV 6ร่างแผนปฏิบัติการสาธารณสุขเขตสุขภาพพิเศษแห่งชาติ ระยะที่ 1 พ.ศ. 2562 – 2565

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการสาธารณสุขเขตสุขภาพพิเศษแห่งชาติ* ระยะที่ 1 พ.ศ. 2562 – 2565 ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ
-------------------------------

* เขตสุขภาพพิเศษ หมายถึง พื้นที่ที่มีบริบทเฉพาะแตกต่างจากพื้นที่ปกติ และไม่สามารถใช้แนวทางบริหารจัดการงานด้านสาธารณสุขแบบทั่วไปเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างครอบคลุม ประกอบด้วย เขตพื้นที่สาธารณสุขทางทะเล เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เขตพื้นที่สาธารณสุขชายแดน และเขตพื้นที่เฉพาะ (ประชากรต่างด้าว)

 

          สาระสำคัญของเรื่อง
          สธ. รายงานว่า
          1. ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติวันที่ 6 มิถุนายน 2560 ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสาธารณสุขเขตสุขภาพพิเศษแห่งชาติ (คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 92/2561 ลงวันที่ 23 เมษายน 2561) โดยมีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย กรอบทิศทาง ที่เกี่ยวกับการพัฒนาระบบบริหารจัดการด้านสาธารณสุขในภาวะปกติและสถานการณ์ฉุกเฉิน และการจัดระบบดูแลสุขภาพประชาชนที่เหมาะสมสอดคล้องกับนโยบายการสาธารณสุขเขตสุขภาพพิเศษ โดยมีเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านสาธารณสุข และเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ
          2. สธ. โดยสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการสาธารณสุขเขตสุขภาพพิเศษแห่งชาติได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำร่างแผนปฏิบัติการสาธารณสุขเขตสุขภาพพิเศษแห่งชาติ ระยะที่ 1 พ.ศ. 2562 – 2565 ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการการสาธารณสุขเขตสุขภาพพิเศษแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการดังกล่าวรวมทั้งกรอบวงเงินงบประมาณและให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
          3. สธ. แจ้งว่า ร่างแผนปฏิบัติการฯ มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ 2561 - 2580) ใน 4 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ (1) ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง โดยมุ่งเน้นการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานในพื้นที่ให้มีความเชื่อมโยงกันเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงให้กับแต่ละพื้นที่ (2) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันในการพัฒนาการบริการสาธารณสุขในบริเวณพื้นที่เฉพาะ รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรสาธารณสุขเฉพาะด้าน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสนับสนุนด้านการแข่งขันของประเทศ (3) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ในการเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดีโดยเน้นปรับเปลี่ยนและพัฒนาระบบบริการสุขภาพที่ทันสมัยได้ตามมาตรฐานสากล (4) ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ในการพัฒนาบริการด้านการแพทย์และด้านสาธารณสุขเพื่อรองรับอย่างเพียงพอ สร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึงบริการสาธารณสุข และสร้างหลักประกันทางสังคมที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับทุกกลุ่ม และสอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เช่น แผนแม่บทการเสริมสร้างความมั่นคง แผนแม่บทการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว และแผนแม่บทการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เป็นต้น รวมทั้งสอดคล้องกับแผนปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข ตามเป้าหมายที่กำหนดในแผนคือประชาชนมีสุขภาวะและคุณภาพชีวิตที่ดี มีความเป็นธรรมสำหรับประชาชนทุกกลุ่มในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่จำเป็นอย่างมีคุณภาพโดยประเทศสามารถรองรับค่าใช้จ่ายด้านหลักประกันสุขภาพได้อย่างยั่งยืน และมีแหล่งเงินที่เพียงพอสำหรับการจัดบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง อีกทั้งยังสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 เกี่ยวกับประเด็นด้านสาธารณสุขใน 2 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (1) ยุทธศาสตร์การสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยจัดบริการด้านสุขภาพให้กับประชากรที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล และกระจายการให้บริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพให้ครอบคลุมและทั่วถึง และ (2) ยุทธศาสตร์การเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศสู่ความมั่งคั่งและยั่งยืน โดยสร้างความร่วมมือในประเทศ/ต่างประเทศในการวางระบบเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพ
          4. ร่างแผนปฏิบัติการฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

           วิสัยทัศน์ : ประชาชนในเขตสุขภาพพิเศษมีสุขภาพดี นำไปสู่ประเทศมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
           พันธกิจ : ส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการบริหารจัดการสาธารณสุขเขตสุขภาพพิเศษ
           วัตถุประสงค์ :
           1. สามารถจัดบริการด้านสาธารณสุขได้อย่างเหมาะสมกับบริบทของทุกพื้นที่ในประเทศ
           2. ประชาชนในเขตสุขภาพพิเศษได้รับบริการสาธารณสุขที่ได้มาตรฐานและเป็นธรรม
           3. มีการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วนในการบริหารจัดการด้านสาธารณสุขเขตสุขภาพพิเศษ
           เป้าหมาย :
           1. ประชาชนในเขตสุขภาพพิเศษมีสุขภาพดี
           2. ประชาชนในเขตสุขภาพพิเศษสามารถเข้าถึงระบบบริการสุขภาพที่จำเป็นได้อย่างครอบคลุม
           3. มีกลไกการจัดการอย่างบูรณาการและการสนับสนุนให้สามารถดำเนินการได้อย่างยั่งยืน
           ระยะเวลา :
           ระยะเวลา 4 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 - 2565)

           กรอบวงเงินงบประมาณ : รวมทั้งสิ้น 5,078.15 ล้านบาท (จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของ สธ.)
           ปีงบประมาณ 2562              504.70  ล้านบาท
                               2563           1,664.87  ล้านบาท
                               2564           1,594.71  ล้านบาท
                               2565           1,313.87  ล้านบาท
                               รวมทั้งสิ้น     5,078.15  ล้านบาท

           ตัวชี้วัดตามเป้าหมาย :
           1. อัตราป่วย/ตายด้วยโรคที่สำคัญของประชาชนในเขตสุขภาพพิเศษ
           2. ความครอบคลุมของการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชนในเขตสุขภาพพิเศษ
           3. จำนวนกลไกและระดับของการบูรณาการของภาคส่วนต่างๆ ในการดำเนินการ

           การดำเนินงานแผนปฏิบัติการ : ประกอบด้วยงานสาธารณสุขรวม 4 ด้าน ได้แก่
           1. ด้านสาธารณสุขทางทะเล
               สถานการณ์/สภาพปัญหา
                - ประสิทธิภาพของสถานบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิยังจำกัด
                - ปัญหาสุขาภิบาลอาหารและน้ำในพื้นที่ทางทะเล
                - ขาดการพัฒนาความรู้ด้านเวชศาสตร์ทางทะเล
               ประเด็นพัฒนา
                - บูรณาการเครือข่ายการดูแลและช่วยเหลือประชาชน/นักท่องเที่ยว
                - พัฒนาการสาธารณสุขทางทะเลให้เป็นเลิศและมีมาตรฐานสากล
                - สร้างคุณค่าของสาธารณสุขทางทะเลสู่มูลค่าทางเศรษฐกิจ
               พื้นที่เป้าหมาย 5 จังหวัด ภูเก็ต ชลบุรี กระบี่ พังงา และสุราษฎร์ธานี
               งบประมาณ 843 ล้านบาท

           2. ด้านเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
               สถานการณ์/สภาพปัญหา
                - มีประชากรเพิ่มขึ้นจากนโยบาย EEC
                - มีโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม
                - มีปัญหาอุบัติเหตุจราจร
                - มีโรคอุบัติใหม่หรืออุบัติซ้ำ
               ประเด็นพัฒนา
                - พัฒนาระบบบริการสุขภาพให้ทันสมัย สอดคล้องกับบริบทในแต่ละพื้นที่
                - ส่งเสริมการป้องกันและควบคุมโรค จัดการภัยสุขภาพ และพัฒนาอาชีวเวชศาสตร์
                - ส่งเสริมการพัฒนาเป็น Medical Hub
               พื้นที่เป้าหมาย 3 จังหวัด ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง
               งบประมาณ 3,629.80 ล้านบาท

           3. ด้านสาธารณสุขชายแดน
               สถานการณ์/สภาพปัญหา
                - การเข้าถึงบริการสุขภาพของบุคคลไร้รัฐ
                - การควบคุมป้องกัน ติดตาม และรักษาโรคติดต่อ เช่น วัณโรค
                - การลักลอบนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ปลอดภัย
               ประเด็นพัฒนา
                - พัฒนาศักยภาพ/กลไกความร่วมมือระหว่างประเทศด้านระบบป้องกันสุขภาวะอนามัยในพื้นที่ชายแดน
                - คุ้มครองผู้บริโภคด้านบริการสุขภาพ/ผลิตภัณฑ์สุขภาพ
               พื้นที่เป้าหมาย 4 จังหวัด น่าน ตาก สระแก้ว และระนอง
               งบประมาณ 578.13 ล้านบาท

           4. ด้านเขตพื้นที่เฉพาะ (ประชากรต่างด้าว)
               สถานการณ์/สภาพปัญหา
                - ปัญหาเรื่องสุขภาพของแรงงานต่างด้าว
                - ปัญหาสถานะสิทธิ
                - แรงงานต่างด้าวไม่มีหลักประกันสุขภาพ
                - ปัญหาผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติและความปลอดภัย
               ประเด็นพัฒนา
                - พัฒนารูปแบบหลักประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว
                - เพิ่มอัตราการเข้าถึงบริการสาธารณสุข
                - จัดระบบสนับสนุนสาธารณสุขสำหรับประชากรต่างด้าว
               พื้นที่เป้าหมาย 7 จังหวัด ตาก ระนอง สมุทรสาคร สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี และระยอง
               งบประมาณ 27.22 ล้านบาท

           กลไกการบริหารจัดการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย :
           1. ใช้กลไกคณะกรรมการการสาธารสุขเขตสุขภาพพิเศษในการกำหนดกรอบทิศทาง นโยบาย อำนวยการ และสนับสนุนให้มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน ให้คำปรึกษา กำกับ ติดตาม ประเมินผลงาน และรายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ
           2. จัดตั้งคณะอนุกรรมการการสาธารณสุขเขตสุขภาพพิเศษ 4 ด้าน เพื่อจัดทำ บริหารและขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการฯ และรายงานต่อคณะกรรมการฯ ทราบเป็นระยะ
           3. สป.สธ. เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานและบูรณาการภาพรวมทั้ง 4 ด้าน
           4. ประชุมชี้แจงเพื่อถ่ายทอดแผนปฏิบัติการฯ สู่การปฏิบัติของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
           5. จัดระบบช่องทางการสื่อสารสำหรับผู้ประสานงาน
           6. สร้างกลไกในการทบทวนและปรับปรุงแผนทุก 1 ปี
           7. กำกับ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงาน

           การติดตามและประเมินผล :
           1. กำกับ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงาน โดยใช้กลไกการติดตามและประเมินผลร่วมกับแผนงานปกติ รวมถึงการประยุกต์ใช้รายงานการประเมินตนเอง
           2. กำหนดให้รายงานผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 2 (6 เดือน) และไตรมาสที่ 4 (12 เดือน)
           3. กำหนด/มอบหมายหน่วยงานใน สป.สธ. เป็นหลักในการกำกับ ติดตาม และประเมินผล
           4. หน่วยงานที่เป็นแกนหลักรายงานผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือน และ 12 เดือน ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
           5. กำกับ ติดตาม และประเมินผลภาพรวมของแผนปฏิบัติการฯ โดยคณะกรรมการฯ

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 29 กรกฎาคม 2563
สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396


AO7723

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!