WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

(ร่าง) แนวปฏิบัติการรับจดแจ้งวัตถุอวกาศ

GOV8(ร่าง) แนวปฏิบัติการรับจดแจ้งวัตถุอวกาศ

     คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เสนอดังนี้

  1.    เห็นชอบ (ร่าง) แนวปฏิบัติการรับจดแจ้งวัตถุอวกาศ
  2.      มอบหมายให้ อว. โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (สทอภ.) ดำเนินการรับจดแจ้งวัตถุอวกาศไปพลางก่อนในระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมายอวกาศและหน่วยงานที่ดูแลการรับจดแจ้งวัตถุอวกาศ

สาระสำคัญของเรื่อง                  

อว. รายงานว่า

  1.        ประเทศไทยยังไม่ได้ร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการจดทะเบียนวัตถุอวกาศ ค.ศ. 1975 และไม่มีกฎหมายและหน่วยงานที่ดูแลเรื่องวัตถุอวกาศอย่างเป็นระบบ แต่ประเทศไทยมีดาวเทียมที่ใช้งานในปัจจุบันและที่หมดอายุการใช้งานแล้วไม่น้อยกว่า 11 ดวง และมีแผนที่จะส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรในช่วงระยะเวลา 3-5 ปีต่อจากนี้เป็นจำนวนมาก ได้แก่ ดาวเทียม Royal Thai Air Force 1 – 2 (RTAF sat) ดาวเทียมของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย (BCC Sat) และดาวเทียมในโครงการ THEOS  - 2 จำนวน 2 ดวง รวมถึงดาวเทียมวงโคจรระดับต่ำอื่นๆ

        ดังนั้น เพื่อส่งเสริมการดำเนินกิจการอวกาศให้เป็นไปตามมาตรฐานและหลักสากลและสอดคล้องกับมติประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติที่ร้องขอให้รัฐที่ปล่อยวัตถุขึ้นสู่อวกาศนำส่งข้อมูลของวัตถุนั้นโดยทันทีให้แก่ COPUOS ผ่านสำนักงานกิจการอวกาศส่วนนอกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office for Outer Space Affairs: UNOOSA) ประเทศไทยจึงต้องมีแนวปฏิบัติการรับจดแจ้งวัตถุอวกาศเพื่อแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความรับผิดชอบและพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกในการดำเนินกิจการอวกาศต่อไป ในการนี้ สทอภ. ในฐานะหน่วยประสานงานกับ COPUOS จึงได้จัดทำ (ร่าง) แนวปฏิบัติการรับจดแจ้งวัตถุอวกาศ เพื่อให้ประเทศไทยมีแนวปฏิบัติในการรับจดแจ้งวัตถุอวกาศสำหรับใช้ไปพลางก่อนในระหว่างที่ยังไม่มีหน่วยงานที่ดูแลเรื่องดังกล่าว

  1. (ร่าง) แนวปฏิบัติการรับจดแจ้งวัตถุอวกาศได้รับความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการพัฒนากฎหมายอวกาศ ในการประชุมครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2563 และคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ในการประชุม ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 แล้ว โดยคณะอนุกรรมการพัฒนากฎหมายอวกาศ ได้มีข้อคิดเห็นสรุปได้ ดังนี้

       2.1 ให้เสนอคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติเพื่อให้ความเห็นชอบและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขอมติจากคณะรัฐมนตรีในประเด็น (1) ในขณะที่ยังไม่มีหน่วยงานกลางที่รับผิดชอบด้านการจดทะเบียนวัตถุอวกาศ ให้ สทอภ. ดำเนินการรับจดแจ้งวัตถุอวกาศไปพลางก่อนตามแนวปฏิบัติของ UN

      ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติแม้รัฐเจ้าของโครงการดาวเทียมจะมิได้เป็นผู้จดทะเบียนแต่ให้รัฐต่างประเทศผู้ส่งดาวเทียมเป็นผู้จดทะเบียน แต่รัฐผู้ส่งก็สามารถกำหนดเงื่อนไขให้รัฐเจ้าของโครงการอวกาศต้องรับภาระเรื่องการจัดทำประกันภัยเพื่อจัดการปัญหาเรื่องความรับผิดของรัฐผู้ส่งวัตถุอวกาศ และ (2) อนุญาตให้ใช้แนวปฏิบัตินี้เป็นกฎเกณฑ์เพื่อปรับใช้กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ้งแม้ไม่สามารถบังคับใช้โดยตรงกับภาคเอกชน แต่ในทางปฏิบัติภาคเอกชนต้องร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐอยู่แล้วในการดำเนินโครงการและยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่ปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายและเพื่อประโยชน์ของประเทศ

      2.2 สำนักงานพระธรรมนูญทหาร กระทรวงกลาโหมไม่มีข้อขัดข้อง ยกเว้นในส่วนของขอบเขตการบังคับใช้ ที่ควรยกเว้นกิจการอวกาศที่อยู่ในราชการทหารเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศ

      2.3 กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เห็นว่า โดยรวมแล้วไม่ขัดข้องและเห็นชอบตามที่กำหนดให้มีการดำเนินการรับจดแจ้งวัตถุอวกาศ และแจ้งไปยัง กต. เพื่อให้ กต. ประสานงานไปยัง UN เพื่อจดทะเบียนวัตถุอวกาศ

      2.4 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) โดยรวมแล้วไม่ขัดข้อง แต่ในแง่ของการบังคับใช้ มีความเห็นว่าแนวปฏิบัตินี้มีลักษณะเป็นแนวปฏิบัติโดยความสมัครใจ เนื่องจากไม่มีบทลงโทษในกรณีละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามแนวปฏิบัตินี้

      2.5 สทอภ. ได้ปรับปรุง (ร่าง) แนวปฏิบัติการรับจดแจ้งวัตถุอวกาศตามมติที่ประชุมดังกล่าวก่อนนำเสนอคณะกรรมการนโยบายอวกาศให้ความเห็นชอบและมีความเห็นเพิ่มเติมว่าแนวปฏิบัตินี้ไม่ใช่แนวปฏิบัติตามหลักความสมัครใจ เนื่องจากสามารถใช้บังคับกับหน่วยงานภาครัฐที่กำกับการดำเนินงานด้านกิจการอวกาศของเอกชน เพราะกิจกรรมด้านอวกาศเป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณากระบวนการบังคับใช้ให้ครอบคลุมทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

  1. (ร่าง) แนวปฏิบัติการรับจดแจ้งวัตถุอวกาศมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

        3.1 ขอบเขต แนวปฏิบัตินี้ให้ใช้แก่การจดแจ้งวัตถุอวกาศซึ่งเกิดจากการดำเนินกิจการอวกาศ ดังต่อไปนี้ (1) การดำเนินกิจการอวกาศในราชอาณาจักร (2) การดำเนินกิจการอวกาศนอกราชอาณาจักรหรือในอวกาศโดยบุคคลธรรมดาซึ่งมีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลซึ่งมีสัญชาติไทยหรือได้จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศไทย และ (3) การดำเนินกิจการอวกาศนอกราชอาณาจักรโดยใช้พื้นที่ที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย หรือโดยใช้เรือ อากาศยาน หรือวัตถุอวกาศซึ่งได้จดทะเบียนในประเทศไทย

      เว้นแต่กิจการอวกาศที่อยู่ในราชการทหารเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการป้องกันประเทศ หรือหน่วยงานของรัฐ ตามที่คณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติกำหนด (ตามความเห็นของสำนักงานพระธรรมนูญทหาร กระทรวงกลาโหม)

      3.2 แนวปฏิบัติการจดแจ้งวัตถุอวกาศ ได้แก่ (1) ดำเนินการจดแจ้งวัตถุอวกาศหลังจากที่ได้ปล่อยวัตถุอวกาศขึ้นสู่อวกาศแล้ว โดยส่งข้อมูลในรูปแบบที่ UNOOSA กำหนด (2) สทอภ. ดำเนินการรับจดแจ้งวัตถุอวกาศ และแจ้งไปยัง กต. เพื่อให้ กต. ประสานงานไปยังสหประชาชาติ (United Nations: UN) เพื่อจดทะเบียนวัตถุอวกาศ และ (3) UN แจ้งผลการจดทะเบียนวัตถุอวกาศหรือการรับจดทะเบียนวัตถุอวกาศผ่านช่องทางการทูต

     3.3 ประโยชน์ที่ได้รับ เมื่อเกิดปัญหารัฐสามารถอ้างสิทธิไล่เบี้ยในกรณีวัตถุอวกาศตกหล่นการช่วยเหลือและส่งคืนวัตถุอวกาศ ในขณะเดียวกันยังก่อให้เกิดความรับผิดชอบของรัฐตามมาในฐานะรัฐผู้ส่งกระสวยให้กับประเทศไทย (Launching State) หากวัตถุอวกาศของไทยไปก่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศอื่น

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 2 มิถุนายน 2563

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396  

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!