ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมตามแผนการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. 2563
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Sunday, 10 May 2020 13:51
- Hits: 1807
ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมตามแผนการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. 2563
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมตามแผนการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. 2563 ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์ประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 5,800 คน ระหว่างวันที่ 2-16 มกราคม 2563 ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
- การติดตามข้อมูลข่าวสารทางการเมือง พบว่า ประชาชนร้อยละ 77.4 ติดตามข้อมูลข่าวสารทางการเมือง โดยแหล่งข้อมูลที่ติดตามมากที่สุด คือ โทรทัศน์ (ร้อยละ 95.5) รองลงมา คือ อินเทอร์เน็ต เช่น เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ไลน์ (ร้อยละ 39.4) ขณะที่ประชาชนร้อยละ 22.6 ไม่ได้ติดตาม โดยให้เหตุผล คือ ไม่สนใจ ไม่มีเวลา/ไม่ว่าง
- การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน พบว่าประชาชนร้อยละ 74.5 ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในระดับชาติที่ผ่าน ๆ มา โดยกิจกรรมทางการเมืองที่ประชาชนได้มีส่วนร่วมมากที่สุด คือ การชักชวนเพื่อน ญาติ คนในครอบครัว และคนรู้จักไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง (ร้อยละ 82.1) รองลงมา คือ การพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมือง (ร้อยละ 81.9)
- ความพึงพอใจในภาพรวมต่อภาครัฐในการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ พบว่า ประชาชนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลางมากที่สุด (ร้อยละ 76.2) ขณะที่มีความพึงพอใจน้อยและน้อยที่สุดอยู่ที่ ร้อยละ 18.9 และ 4.9 ตามลำดับ
- ความคิดเห็นของประชาชนต่อการทำงานของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยประชาชนให้ข้อเสนอแนะ 5 อันดับแรก คือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างจริงจัง (ร้อยละ 10) รองลงมา คือ การทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ (ร้อยละ 9) การแก้ปัญหาสินค้าอุปโภคบริโภค ที่มีราคาแพง (ร้อยละ 7.4) การแก้ปัญหาผลผลิตทางการเกษตร ภัยแล้ง และที่ดินทำกิน (ร้อยละ 4.1) และการดูแลเรื่องสวัสดิการต่าง ๆ ให้แก่ผู้พิการและผู้สูงอายุ (ร้อยละ 2.1)
- ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย สำนักงานสถิติแห่งชาติมีข้อเสนอแนะ ดังนี้
5.1 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารทางการเมืองให้ประชาชนรับรู้และมีส่วนร่วมทางการเมืองผ่านสื่อออนไลน์
5.2 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน เช่น การวางแผนหรือการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายสาธารณะ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่ให้ประชาชนสามารถยืนยันตัวตนได้ โดยต้องมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
5.3 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดเผยข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนรับรู้ตามความต้องการของประชาชนผ่านการสื่อสารสองทาง คือ รับฟังความคิดเห็นและตอบข้อซักถามของประชาชน รวมถึงมีการติดตาม ประเมินผลเพื่อพัฒนาและปรับปรุงตามความต้องการของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 5 พฤษภาคม 2563
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web