WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2563

GVO ผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2563

     คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เสนอดังนี้

  1. รับทราบผลการประชุม กนช. ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563
  2. มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติ กนช. และข้อสั่งการประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2563

สาระสำคัญของเรื่อง

        กนช. ได้มีการประชุมครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นประธานการประชุมฯ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

  1. เรื่องเพื่อทราบ 4 เรื่อง

     1.1 รับทราบผลการประชุมของคณะอนุกรรมการภายใต้ กนช. ทั้ง 5 คณะ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะอนุกรรมการฯ และข้อสั่งการเพิ่มเติมของประธาน กนช. ไปพิจารณาดำเนินการ

    1.2 รับทราบความก้าวหน้าแผนงานโครงการที่เสนอในคณะรัฐมนตรี และงานนโยบายที่นายกรัฐมนตรีตรวจพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2562-7 มกราคม 2563 จำนวนทั้งสิ้น 27,969 โครงการ วงเงิน 32,392.95 ล้านบาท

    1.3 รับทราบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (เพิ่มเติม) ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดเล็ก และคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด และให้ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด โดยให้เพิ่มเติมปลัดจังหวัด ในคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดดังกล่าว

     1.4 รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการลุ่มน้ำ ครั้งที่ 1/2563 และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็น และข้อเสนอแนะของคณะกรรมการลุ่มน้ำไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

  1. เรื่องเพื่อพิจารณา 3 เรื่อง

      2.1 แผนปฏิบัติการภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) กนช. ได้พิจารณาเห็นชอบในหลักการ 2 เรื่อง ดังนี้

     (1) แผนหลักการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนของกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยได้คัดเลือกพื้นที่ จำนวน 715 พื้นที่ชุมชน และได้ดำเนินการแล้ว 166 พื้นที่ชุมชน คงเหลือที่ต้องดำเนินการอีก 549 พื้นที่ชุมชน นอกจากนี้ ได้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชน ซึ่งมีความสอดคล้องกับพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม (Area Based) ของ สทนช. โดยพิจารณาตามความเร่งด่วนในการแก้ปัญหาน้ำท่วม แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้

ระยะ (พ.ศ.)       พื้นที่ชุมชน (ชุมชน/ไร่)     ประมาณการวงเงิน (ล้านบาท)       ผู้ได้รับผลประโยชน์

ระยะเร่งด่วน (ปี 2564-2565)               52 ชุมชน

(260,000 ไร่)         17,675   320,000 ครัวเรือน

(980,000 คน)

ระยะกลาง (ปี 2566-2570)   157 ชุมชน

(360,000 ไร่)         43,128   720,000 ครัวเรือน

(2.17 ล้านคน)

ระยะยาว (ปี 2571 เป็นต้นไป)             340 ชุมชน

(9.13 ล้านไร่)         -              5.48 ล้านครัวเรือน

(12.26 ล้านคน)

      มติที่ประชุม เห็นชอบในหลักการแผนหลักการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนของกรมโยธาธิการและผังเมือง และให้กรมโยธาธิการและผังเมืองนำความเห็นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำไปพิจารณดำเนินการ

     (2) โครงการเพื่อการพัฒนา ปี 2563 ของการประปาส่วนภูมิภาค (เพิ่มเติม) จำนวน 6 โครงการ

 

โครงการ            วงเงิน (ล้านบาท)

(1) โครงการก่อสร้าง ปรับปรุง ขยาย กปภ. สาขาเดิมบางนางบวช    253.14

(2) โครงการก่อสร้าง ปรับปรุง ขยาย กปภ. สาขาด่านช้าง 202.47

(3) โครงการก่อสร้าง ปรับปรุงกิจการประปา อปท. กปภ. สาขานครศรีธรรมราช (อบต.ท่าเรือ)       42.96

(4) โครงการก่อสร้าง ปรับปรุงกิจการประปา อปท. กปภ. สาขานครศรีธรรมราช (ทต. การะเกด)    33.05

(5) โครงการก่อสร้าง ปรับปรุง ขยาย กปภ. สาขาเพชรบูรณ์-หล่มสัก                1,567.86

(6) โครงการก่อสร้าง ปรับปรุง ขยาย กปภ. สาขาสมุทรสาคร-นครปฐม            9,351.79

ทั้งนี้ เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 475,200 ลูกบาศก์เมตร/วัน สามารถให้บริการผู้ใช้น้ำเพิ่มขึ้นอีก 126,750 ราย (ประมาณ 305,625 คน)

มติที่ประชุม

     (1) เห็นชอบในหลักการโครงการเพื่อการพัฒนา ปี 2563 ของ กปภ. (เพิ่มเติม) จำนวน 6 โครงการ วงเงิน 11,451.56 ล้านบาท

     (2) เห็นชอบในหลักการแผนงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำสำรอง เพื่อรองรับโครงการเพื่อการพัฒนา ของ กปภ. ปี 2563 (เพิ่มเติม) 3 แห่ง วงเงินรวม 346.40 ล้านบาท

     (3) ให้ กปภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำความเห็นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และ กนช. ไปพิจารณาดำเนินการ

     ข้อสั่งการเพิ่มเติมของประธาน กนช. ให้ กปภ. เตรียมแหล่งน้ำสำรองไว้สำหรับการผลิตน้ำประปาทุกแห่ง

     2.2 โครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ กนช. ได้พิจารณาเห็นชอบในหลักการ 2 เรื่อง ดังนี้

     (1) โครงการเพื่อการพัฒนา ปี 2563 ของ กปภ. (เพิ่มเติม) วงเงินเกิน 1,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) โครงการก่อสร้าง ปรับปรุง ขยาย กปภ. สาขาเพชรบูรณ์-หล่มสัก วงเงิน 1,567.86 ล้านบาท และ 2) โครงการก่อสร้าง ปรับปรุง ขยาย กปภ. สาขาสมุทรสาคร-นครปฐม วงเงิน 9,351.79 ล้านบาท เมื่อทั้ง 2 โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 456,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน และสามารถให้บริการผู้ใช้น้ำเพิ่มขึ้นอีก 114,300 ราย (ประมาณ 273,367 คน)

มติที่ประชุม

    (1) เห็นชอบในหลักการโครงการเพื่อการพัฒนาของ กปภ. ปี 2563 (เพิ่มเติม) จำนวน 2 โครงการ วงเงินรวม 10,919.66 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) โครงการก่อสร้างปรับปรุง ขยาย กปภ. สาขาเพชรบูรณ์-หล่มสัก วงเงินรวม 1,567.86 ล้านบาท 2) โครงการก่อสร้างปรับปรุง ขยาย กปภ. สาขาสมุทรสาคร-นครปฐม วงเงินรวม 9,351.79 ล้านบาท และนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบโครงการต่อไป

     (2) เห็นชอบในหลักการแผนงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำสำรองเพื่อรองรับโครงการเพื่อการพัฒนาขนาดใหญ่ ของ กปภ. ปี 2563 (เพิ่มเติม) วงเงินรวม 244.36 ล้านบาท

     (3) ให้ กปภ. นำความเห็นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญไปพิจารณาดำเนินการ

      (2) โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยกรอกเคียน จังหวัดฉะเชิงเทรา ของกรมชลประทาน เป็นโครงการที่อยู่ภายใต้โครงการพัฒนาแหล่งน้ำและการจัดการทรัพยากรน้ำรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ปี 2563-2580 และสอดคล้องกับแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) สามารถเพิ่มแหล่งเก็บน้ำต้นทุนได้ 19.20 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งน้ำเพื่อสนับสนุนพื้นที่เพาะปลูกกว่า 10,000 ไร่ และในพื้นที่ EEC จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ปีละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถรักษาสมดุลของระบบนิเวศวิทยาในการเสริมศักยภาพการผลักดันน้ำเค็มในแม่น้ำบางปะกง ประมาณ 1.3 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี มีศักยภาพสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอท่าตะเกียบ

     มติที่ประชุม เห็นชอบในหลักการโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยกรอกเคียน จังหวัดฉะเชิงเทรา ของกรมชลประทาน วงเงินรวม 1,880 ล้านบาท และนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบให้ดำเนินโครงการต่อไป

     2.3 การเพิ่มปริมาณการผันน้ำจากลุ่มแม่น้ำกลอง มาลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพื่อรักษาระบบนิเวศ (ป้องกันน้ำเค็มรุกตัว) อีก 500 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ในฤดูแล้งปี 2562/2563 โดยคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ มีความเห็นดังนี้

     (1) เห็นชอบในหลักการผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองเพิ่มจากแผนการจัดสรรน้ำเดิมอีก 500 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยให้เสนอ กนช. พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

     (2) ให้ สทนช. นำความเห็นเพิ่มเติมของคณะกรรมการลุ่มน้ำไปพิจารณาดำเนินการให้เป็นรูปธรรม

     (3) ให้กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการประปานครหลวง (กปน.) บริหารจัดการน้ำอย่างรอบคอบ และเฝ้าระวัง มิให้เกิดการสูญเสียน้ำระหว่างการผันน้ำ

     (4) ให้ กปน. พิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพการลำเลียงน้ำคลองประปาเต็มศักยภาพคลอง

 มติที่ประชุม

      (1) เห็นชอบในหลักการผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองเพิ่มจากแผนการจัดสรรน้ำเดิมอีก 500 ล้านลูกบาศก์เมตร

      (2) ให้กรมชลประทาน กฟผ. กปน. และ สทนช. นำความเห็นของคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ คณะกรรมการลุ่มน้ำแม่กลอง และ กนช. ไปพิจารณาดำเนินการ

ข้อสั่งการเพิ่มเติมของประธาน กนช.

      (1) ให้ สทนช. จัดทำแผนระยะยาวรองรับสถานการณ์น้ำแล้ง และแก้ไขปัญหาที่ทำให้น้ำในแม่น้ำและน้ำประปากร่อยด้วย

      (2) การผลิตน้ำประปาหมู่บ้านแต่ละแหล่ง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมแหล่งน้ำสำรองไว้ด้วย และให้ กปภ. ที่อยู่ใกล้ลุ่มน้ำเจ้าพระยาพิจารณานำความเห็นของ กนช. ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง

  1. เรื่องอื่นๆ 1 เรื่อง

     แผนการจัดสรรน้ำและการเพาะปลูกพืช ฤดูฝนปี 2563 คณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในการประชุม ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 มีมติเห็นชอบแผนการส่งน้ำให้พื้นที่ลุ่มต่ำบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ณ วันที่ 1 เมษายน 2563 เพื่อการเพาะปลูก จำนวน 265,000 ไร่ โดยใช้น้ำ 310 ล้านลูกบาศก์เมตร และแผนการส่งน้ำในพื้นที่ชลประทานทุกลุ่มน้ำ ได้แก่ 1) ลุ่มน้ำที่สามารถส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปีได้ ทั้งหมด 12 ลุ่มน้ำ 2) ลุ่มน้ำที่ไม่สามารถส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปีได้ ทั้งหมด 8 ลุ่มน้ำ และ 3) ลุ่มน้ำที่ส่งนอกภาคการเกษตร ทั้งหมด 3 ลุ่มน้ำ

มติที่ประชุม

     (1) เห็นชอบแผนการส่งน้ำฤดูฝน ปี 2563 ของทุ่งบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ณ วันที่1 เมษายน 2563 เพื่อการเพาะปลูก จำนวน 265,000 ไร่ โดยใช้น้ำ 310 ล้านลูกบาศก์เมตร

      (2) เห็นชอบในหลักการแผนการส่งน้ำฤดูฝนในพื้นที่ชลประทานทุกลุ่มน้ำ ประกอบด้วย 1) ลุ่มน้ำที่สามารถส่งน้ำชลประทานเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปีได้ จำนวน 12 ลุ่มน้ำ 2) ลุ่มน้ำที่ไม่สามารถส่งน้ำชลประทานเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปีได้ จำนวน 8 ลุ่มน้ำ (ใช้น้ำฝน) และ 3) ลุ่มน้ำที่ส่งน้ำนอกภาคการเกษตร จำนวน 3 ลุ่มน้ำ

ข้อสั่งการเพิ่มเติมของประธาน กนช.

      (1) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำความเห็นของคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

      (2) หากสภาพอากาศพร้อม ให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งได้ทันทีและตลอดเวลา

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 28 เมษายน 2563  

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396 

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!