WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ร่างแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน  ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2562 – 2565)

GOV3 copyร่างแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน  ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2562 – 2565)

      คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอ  ดังนี้

  1.     เห็นชอบให้ ยธ. ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560 เรื่อง แนวทางการเสนอแผนเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
  2. เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2562 – 2565) [ร่างแผนปฏิบัติการฯ] โดยหากจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างแผนปฏิบัติการดังกล่าว โดยไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้ ยธ. ดำเนินการได้ โดยนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบในภายหลัง
  3. มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่กำหนดไว้ในร่างแผนปฏิบัติการฯ ดำเนินการให้บรรลุ ผลตามแผนปฏิบัติการฯ ต่อไป

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงยุติธรรมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อร่างแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ระยะที่ 1  (พ.ศ. 2562 – 2565) [ร่างแผนปฏิบัติการฯ] และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในร่างแผนปฏิบัติการฯ ดำเนินการให้บรรลุตามแผนปฏิบัติการฯ ต่อไป  ซึ่งร่างแผนปฏิบัติการฯ จัดทำขึ้นตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน  (United Nations Guiding Principles on Business and Human Rights: UNGPs)  ของคณะทำงานสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน โดยประกอบไปด้วยหลักการพื้นฐาน 3 เสาหลัก ได้แก่  (1) การคุ้มครอง (Protect)  (2) การเคารพ (Respect) และ (3) การเยียวยา  (Remedy) 

ทั้งนี้  การจัดทำร่างแผนปฏิบัติการฯ ของประเทศไทยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกำหนดแนวทาง จัดทำ ติดตาม และประเมินผลตามแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน โดยร่างแผนปฏิบัติการฯ มีกรอบระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี  (พ.ศ. 2562 – 2565)  ซึ่งมีประเด็นที่สำคัญ ดังนี้

ประเด็น   กิจกรรม  ตัดชี้วัด หน่วยงานที่รับผิดชอบ

1) แผนปฏิบัติการด้านแรงงาน เช่น

1) การขจัดการเลือกปฏิบัติในการจ้างงาน/ทำงานส่งเสริมอาชีพและการจ้างงานให้กับคนพิการในสถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐ  โดยจัดให้มีเจ้าหน้าที่ประสานงานระหว่างผู้ประกอบการกับคนพิการพร้อมทั้งมีระบบคัดกรองความสามารถคนพิการเพื่อจัดหางานให้อย่างเหมาะสม      เชิงปริมาณ

- คนพิการมีงานทำ จำนวน 1,750 คน

เชิงคุณภาพ

- คนพิการมีงานทำไม่น้อยกว่าร้อยละ 62

- คนพิการมีงานทำในหน่วยงานภาครัฐ 88 คน

- ส่งเสริมให้คนพิการทำงานในหน่วยงานรัฐในอัตราส่วนตามที่กฎหมายกำหนด 100:1     - กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

- กระทรวงแรงงาน

2) การปฎิบัติตามกฎหมายแรงงานมาตรฐานแรงงานและหลักการสิทธิมนุษยชน ภาครัฐวิสาหกิจและธุรกิจต้องดำเนินการตามมาตรฐานแรงงานไทย เคารพและปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับแรงงานอย่างเคร่งครัด            -

(*ไม่มีการระบุตัวชี้วัดสำหรับภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากเป็นการขอความร่วมมือในการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการฯ)  - ภาครัฐวิสาหกิจและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

3) การเยียวยา กำหนดให้มีกลไกเยียวยาทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนในระดับท้องถิ่น ทั้งนี้ การเยียวยาควรสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและชุมชนที่ได้รับผลกระทบ - จำนวนสิทธิประโยชน์หรือหลักเกณฑ์ที่ได้มีการทบทวนหรือปรับปรุง  - กระทรวงมหาดไทย (มท.) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น)

- กระทรวงยุติธรรม (ยธ.)

2) ด้านชุมชน ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น

1) เขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special  Economic Zone : SEZ)   พิจารณาจัดทำแนวทาง/มาตรการกำกับให้ผู้ปฏิบัติงานใน SEZ และระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก  (Eastern Economic Corridor : EEC)  ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนปฏิบัติตามมาตรฐานสูงสุดเรื่องธรรมาภิบาลและแนวปฏิบัติของบรรษัท  โดยความมุ่งมั่นในการนำหลักการ UNGPs ไปใช้ควรจะปรากฏอยู่ในวิธีการจัดตั้งและบริหารจัดการในพื้นที่ดังกล่าวด้วย มีแนวทาง/มาตรการกำกับให้ SEZ  รวมถึง EEC  ปฏิบัติตามมาตรฐานสูงสุดเรื่อง            ธรรมาภิบาล และ UNGPs      - สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)

- กระทรวงพาณิชย์

- กระทรวงอุตสาหกรรม

- มท. (กรมโยธาธิการและผังเมือง)

2) การจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment Report : EIA)           

      ภาครัฐวิสาหกิจและธุรกิจควรดำเนินการประเมิน EIA  และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ  ตามแนวทางที่กำหนดไว้ในกฎหมาย/ระเบียบ/มาตรการที่เกี่ยวข้อง - ภาครัฐวิสาหกิจและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

3) ด้านนักปกป้องสิทธิมนุษยชน เช่น

1) การคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน กำหนดหรือทบทวนนโยบาย กลไก   กระบวนการ มาตรการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งรวมถึงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่เป็นผู้หญิง  เพื่อให้ทำงานได้อย่างปลอดภัย และอบรม ส่งเสริมให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติได้จริง - มีการกำหนด ทบทวน หรือปรับปรุงนโยบายกลไก  กระบวนการ หรือ มาตรการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งรวมถึงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่เป็นผู้หญิง

- อบรมนโยบาย กลไก กระบวนการหรือมาตรการฯ ให้กับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย      - ยธ.

- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

- สำนักงานอัยการสูงสุด

2) การจัดทำมาตรการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ภาครัฐวิสาหกิจและธุรกิจควรเข้ามามีส่วนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในการจัดทำมาตรการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ทำความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทการทำงานของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน -  ภาครัฐวิสาหกิจและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

4) ด้านการลงทุนระหว่างประเทศและบรรษัทข้ามชาติ เช่น

1) การปฏิบัติตามกฎหมาย มาตรฐาน และหลักการสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับการลงทุนระหว่างประเทศและบรรษัทข้ามชาติ  ภาครัฐวิสาหกิจและธุรกิจต้องปฏิบัติตามกฎหมาย  กฎระเบียบ มาตรฐานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน  การกำกับดูแลธุรกิจและการลงทุนทั้งของประเทศไทยในกรณีที่ลงทุนในประเทศไทยและของประเทศที่ทำการลงทุนในกรณีการลงทุนระหว่างประเทศ  - ภาครัฐวิสาหกิจและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

2) การช่วยเหลือทางการเงิน/ เยียวยา   พิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบทั้งในด้านอาชีพ  วิถีชีวิต  สังคม วัฒนธรรม  สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และทรัพยากรทางธรรมชาติ มีการประชุมเพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว

 

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ที่มา: ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุด พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 ตุลาคม 2562

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396   

******************************************

โลโก้เส้นพูดเบาและรวดเร็วไลค์ 1 แชร์ 3ถูกใจ 1 คนแชร์ 1กด  L Ike - แบ่งปัน  เพจเวลา Corehoon-Powerเพื่อติดตามเคล็ดลับข่าวสารเทรนด์และ บทวิเคราะห์ดีๆอัพเดตทุกวันคัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ  

 คลิกบริจาคเว็บสนับสนุน

ais 790x90GC 790x90

sme 720x90banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!