WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

มติคณะรัฐมนตรี แต่งตั้ง 6 สิงหาคม 2562

GOV2 copy copyมติคณะรัฐมนตรี แต่งตั้ง 6 สิงหาคม 2562

 

      1. เรื่อง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 166/2562 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี

       คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 166/2562 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 9 มิถุนายน 2562 และพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 นั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 และมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 มาตรา 11 และมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการมอบอำนาจ พ.ศ. 2550 จึงให้มีคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ ในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

 

ส่วนที่ 1

1. รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ)

1.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการแทนนายกรัฐมนตรีในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

1.1.1 คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

1.1.2 คณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้

1.1.3 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

1.1.4 คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก

1.1.5 คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

1.1.6 คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ

1.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการแทน นายกรัฐมนตรีในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

1.2.1 คณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ

1.2.2 คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

1.2.3 คณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ

 

ส่วนที่ 2

2. รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์)

2.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการแทนนายกรัฐมนตรีในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

2.1.1 คณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย

2.1.2 คณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ

2.1.3 คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน

2.1.4 คณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ

2.1.5 สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ

2.1.6 คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

2.1.7 คณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล

2.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการแทนนายกรัฐมนตรีในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

2.2.1 คณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

2.2.2 คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ

2.2.3 คณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการ ของประเทศ

2.2.4 คณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ

2.2.5 คณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ

2.2.6 คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

 

ส่วนที่ 3

3. รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม)

3.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการแทนนายกรัฐมนตรีในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

3.1.1 คณะกรรมการกฤษฎีกา

3.1.2 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

3.1.3 คณะกรรมการคดีพิเศษ

3.1.4 คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ

3.1.5 คณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

3.1.6 สภาลูกเสือไทย

3.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการแทนนายกรัฐมนตรีในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

3.2.1 คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ

3.2.2 คณะกรรมการเสริมสร้างความสมานฉันท์แห่งชาติ

3.2.3 คณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ

3.2.4 คณะกรรมการส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน

 

ส่วนที่ 4

4. รองนายกรัฐมนตรี (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์)

4.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการแทนนายกรัฐมนตรีในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

4.1.1 คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ

4.1.2 คณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ

4.1.3 คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ

4.1.4 คณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ

4.1.5 คณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ

4.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการแทนนายกรัฐมนตรีในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

4.2.1 คณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ

4.2.2 คณะกรรมการว่าด้วยการประสานงานในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

 

ส่วนที่ 5

5. รองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล)

5.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการแทนนายกรัฐมนตรีในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

5.1.1 คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ

5.1.2 คณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวี

5.1.3 คณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น

5.1.4 คณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

5.1.5 คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ

5.2 การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการแทนนายกรัฐมนตรีในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

- คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์

 

ส่วนที่ 6

6. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายเทวัญ ลิปตพัลลภ)

- การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

- คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค

 

ส่วนที่ 7

      7. เมื่อรองนายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายและมอบอำนาจแล้วให้รายงานนายกรัฐมนตรีทราบทุกสามสิบวัน

     8. ให้รองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีในคำสั่งนี้ พิจารณาความจำเป็นและความเหมาะสมในการยุบเลิกคณะกรรมการดังกล่าว หากเห็นว่าหมดความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกับภารกิจของหน่วยงานอื่น หรืออาจยุบรวมคณะกรรมการชุดต่าง ๆ เข้าด้วยกัน หรือปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการดังกล่าว โดยการยกเลิกหรือแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง หรือจัดทำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีขึ้นใหม่ โดยยึดหลักการมีผู้รับผิดชอบภารกิจอย่างชัดแจ้ง การไม่ปฏิบัติงานซ้ำซ้อนกัน และการบูรณาการภารกิจให้เกิดการประสานและสอดคล้องรองรับกัน แล้วเสนอผลการพิจารณาและข้อเสนอแนะ ตลอดจนร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่ขอแก้ไขเพิ่มเติมหรือจัดทำขึ้นใหม่ต่อคณะรัฐมนตรี ในกรณีที่เห็นควรให้คงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ๆ ไว้ตามเดิมให้รายงานเหตุผลและความจำเป็นด้วยเช่นกัน

       9. ในส่วนการแต่งตั้งให้รัฐมนตรีคนใดดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการ ในคณะกรรมการตามกฎหมายหรือระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เป็นไปตามกฎหมายหรือระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการนั้น

      ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป

2. เรื่อง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 167/2562 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี

    คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 167/2562 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 9 มิถุนายน 2562 และพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 นั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จึงให้มีคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

 

ส่วนที่ 1

1. รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ)

1.1 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ ในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

1.1.1 คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน

1.1.2 คณะกรรมการกำลังพลสำรอง

1.1.3 คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย

1.1.4 คณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ

1.1.5 คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ

1.1.6 คณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ

1.1.7 คณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล

1.1.8 คณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน

1.1.9 คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ

1.1.10 คณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ

1.1.11 คณะกรรมการนโยบายการผังเมืองแห่งชาติ

1.2 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

1.2.1 รองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ

1.2.2 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ

1.2.3 รองประธานกรรมการ คนที่ 3 ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ

1.2.4 กรรมการในคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ

1.3 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

1.3.1 คณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค

1.3.2 คณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน

1.3.3 คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย

1.3.4 คณะกรรมการบริหารจัดการแก้ปัญหาอุทกภัย ดินโคลนถล่มและภัยแล้ง

1.3.5 คณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย

1.3.6 คณะกรรมการนโยบายและอำนวยการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงของชาติ

1.3.7 คณะกรรมการนโยบายรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ

1.3.8 คณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษถนนราชดำเนิน

1.3.9 คณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ

1.3.10 คณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ

1.3.11 คณะกรรมการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลกิจการประปาแห่งชาติ

1.3.12 คณะกรรมการนโยบายการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ

1.3.13 คณะกรรมการพัฒนาพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

1.3.14 คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ

1.3.15 คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ

1.3.16 คณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า

1.3.17 คณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ

1.3.18 คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก

1.3.19 คณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ

1.3.20 คณะกรรมการบริหารแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง

1.3.21 คณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ

1.4 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

- กรรมการในคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค

 

ส่วนที่ 2

2. รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์)

2.1 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ ในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

2.1.1 คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ

2.1.2 คณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน

2.1.3 คณะกรรมการการมาตรฐานแห่งชาติ

2.2 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

2.2.1 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

2.2.2 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

2.2.3 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ

2.2.4 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ

2.2.5 กรรมการในคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ

2.3 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

2.3.1 คณะกรรมการอำนวยการ หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ แห่งชาติ

2.3.2 คณะกรรมการนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์

2.3.3 คณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการ

2.3.4 คณะกรรมการบริหารสินเชื่อเกษตรแห่งชาติ

2.3.5 คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ

2.3.6 คณะกรรมการด้านการคุ้มครองการลงทุนระหว่างประเทศ

2.3.7 คณะกรรมการภูมิสารสนเทศแห่งชาติ

2.3.8 คณะกรรมการนโยบายกองทุนตั้งตัวได้

2.3.9 คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติ

2.3.10 คณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ

2.3.11 คณะกรรมการประสานการบริการด้านการลงทุน

2.4 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

2.4.1 รองประธานกรรมการ คนที่ 1 ในคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

2.4.2 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ

2.4.3 กรรมการในคณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค

2.4.4 กรรมการในคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค

 

ส่วนที่ 3

3. รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม)

3.1 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

3.1.1 คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

3.1.2 คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน

3.1.3 คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ

3.1.4 คณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน

3.1.5 คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม

3.1.6 คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดการเทียบตำแหน่ง

3.1.7 คณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์

3.1.8 คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ

3.1.9 คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ

3.1.10 คณะกรรมการนโยบายพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา

3.1.11 คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย

3.2 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

3.2.1 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ

3.2.2 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้

3.2.3 รองประธานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ

3.2.4 กรรมการในคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ

3.3 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

3.3.1 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ

3.3.2 คณะกรรมการการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์

3.3.3 คณะกรรมการจัดทำแผนบริหารราชการแผ่นดิน

3.3.4 คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ

3.3.5 คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม

3.3.6 คณะกรรมการพัฒนาระบบการติดตามคนหายและการพิสูจน์ศพนิรนาม

3.3.7 คณะกรรมการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์แห่งชาติ

3.3.8 คณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ

3.4 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

3.4.1 กรรมการในคณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค

3.4.2 กรรมการในคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค

 

ส่วนที่ 4

4. รองนายกรัฐมนตรี (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์)

4.1 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

4.1.1 คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม

4.1.2 คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ

4.1.3 คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว

4.1.4 คณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

4.1.5 คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร

4.1.6 คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน

4.2 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

4.2.1 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

4.2.2 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย

4.2.3 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

4.2.4 รองประธานกรรมการ คนที่ 1 ในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ

4.2.5 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

4.2.6 กรรมการในคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ

4.3 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ ในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

4.3.1 คณะกรรมการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์

4.3.2 คณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาสถานภาพสตรีแห่งชาติ

4.3.3 คณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ครอบครัวแห่งชาติ

4.3.4 คณะกรรมการนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ

4.3.5 คณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน

4.3.6 คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร

4.4 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

4.4.1 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ

4.4.2 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ

4.4.3 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ

4.4.4 รองประธานกรรมการ คนที่ 1 ในคณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ

4.4.5 รองประธานกรรมการ คนที่ 1 ในคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ

4.4.6 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่าง ประเทศ

4.4.7 กรรมการในคณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค

4.4.8 กรรมการในคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค

 

ส่วนที่ 5

5. รองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล)

5.1 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

5.1.1 คณะกรรมการอาหารแห่งชาติ

5.1.2 คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ

5.1.3 คณะกรรมการสุขภาพจิตแห่งชาติ

5.1.4 คณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ

5.1.5 คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ

5.2 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

5.2.1 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก

5.2.2 อุปนายกสภาลูกเสือไทย

5.2.3 กรรมการในคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ

5.3 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

5.3.1 คณะกรรมการเร่งรัดการปฏิบัติราชการ

5.3.2 คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ

5.4 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

5.4.1 รองประธานกรรมการ คนที่ 2 ในคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ

5.4.2 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ

5.4.3 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ

5.4.4 กรรมการในคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษถนนราชดำเนิน

5.4.5 กรรมการในคณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค

5.4.6 กรรมการในคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค

 

ส่วนที่ 6

6. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายเทวัญ ลิปตพัลลภ)

6.1 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

- คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ

6.2 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ดังนี้

6.2.1 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ

6.2.2 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม

6.2.3 กรรมการในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้

6.2.4 กรรมการในคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก

6.2.5 กรรมการในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

6.2.6 กรรมการในคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ

6.3 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

6.3.1 คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี

6.3.2 คณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ

6.3.3 คณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นต่ำกว่าสายสะพาย

6.4 การมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่รองประธานกรรมการ และกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ดังนี้

6.4.1 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ

6.4.2 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ

6.4.3 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์

6.4.4 รองประธานกรรมการคนที่ 3 ในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ

6.4.5 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์

6.4.6 รองประธานกรรมการ คนที่ 2 ในคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

6.4.7 รองประธานกรรมการ คนที่ 1 ในคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ

               6.4.8 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารสินเชื่อเกษตรแห่งชาติ

               6.4.9 รองประธานกรรมการ คนที่ 1 ในคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม

               6.4.10 รองประธานกรรมการในคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน

               6.4.11 กรรมการในคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ

               6.4.12 กรรมการในคณะกรรมการประสานการบริการด้านการลงทุน

 

ส่วนที่ 7

       7. เมื่อรองนายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายและมอบอำนาจแล้วให้รายงานนายกรัฐมนตรีทราบทุกสามสิบวัน

       8. ให้รองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีในคำสั่งนี้ พิจารณาความจำเป็นและความเหมาะสมในการยุบเลิกคณะกรรมการดังกล่าว หากเห็นว่าหมดความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกับภารกิจของหน่วยงานอื่นหรืออาจยุบรวมคณะกรรมการชุดต่าง ๆ เข้าด้วยกัน หรือปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการดังกล่าวโดยการยกเลิกหรือแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องหรือจัดทำระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีขึ้นใหม่โดยยึดหลักการมีผู้รับผิดชอบภารกิจอย่างชัดแจ้งการไม่ปฏิบัติงาน ซ้ำซ้อนกันและการบูรณาการภารกิจให้เกิดการประสานและสอดคล้องรองรับกัน แล้วเสนอผลการพิจารณาและข้อเสนอแนะ ตลอดจนร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ขอแก้ไขเพิ่มเติมหรือจัดทำขึ้นใหม่ต่อคณะรัฐมนตรี ในกรณีที่เห็นควรให้คงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ๆ ไว้ตามเดิมให้รายงานเหตุผลและความจำเป็นด้วยเช่นกัน

               ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป

               3. เรื่อง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 168 /2562 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 168 /2562 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 มาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และ มาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 ประกอบกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค พ.ศ. 2547 ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. 2560 ประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ เรื่อง การจัดตั้งกลุ่มจังหวัดและกำหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 221/2561 เรื่อง กำหนดพื้นที่การตรวจราชการของผู้ตรวจราชการ ลงวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2561 นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ดังต่อไปนี้

1. พื้นที่

               1.1 รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ ดังนี้

               1) เขตตรวจราชการที่ 1 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน ประกอบด้วย จังหวัดชัยนาท จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดอ่างทอง

               2) เขตตรวจราชการที่ 7 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ประกอบด้วย จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา

               3) เขตตรวจราชการที่ 13 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 ประกอบด้วย จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์

               4) เขตตรวจราชการที่ 16 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย จังหวัดน่าน จังหวัดพะเยา และจังหวัดแพร่

               1.2 รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ ดังนี้

               1) เขตตรวจราชการที่ 2 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัด ภาคกลางปริมณฑล ประกอบด้วย จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครปฐม และจังหวัดสมุทรปราการ

               2) เขตตรวจราชการที่ 8 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 ประกอบด้วย จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง

               3) เขตตรวจราชการที่ 12 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง ประกอบด้วย จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดร้อยเอ็ด

               4) เขตตรวจราชการที่ 17 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ประกอบด้วย จังหวัดตาก จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดอุตรดิตถ์

               1.3 รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ ดังนี้

               1) เขตตรวจราชการที่ 4 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัด ภาคกลางตอนล่าง 2 ประกอบด้วย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสมุทรสงครามและจังหวัดสมุทรสาคร

               2) เขตตรวจราชการที่ 5 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ประกอบด้วย จังหวัดชุมพร จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดสงขลา

               3) เขตตรวจราชการที่ 10 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ประกอบด้วย จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดอุดรธานี

               4) เขตตรวจราชการที่ 18 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 ประกอบด้วย จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดพิจิตร และจังหวัดอุทัยธานี

               1.4 รองนายกรัฐมนตรี (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ ดังนี้

               1) เขตตรวจราชการที่ 6 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ประกอบด้วย จังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต จังหวัดระนอง และจังหวัดสตูล

               2) เขตตรวจราชการที่ 9 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 ประกอบด้วย จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดสระแก้ว

               3) เขตตรวจราชการที่ 14 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ประกอบด้วย จังหวัดยโสธร จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี

               1.5 รองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ ดังนี้

               1) เขตตรวจราชการที่ 3 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัด ภาคกลางตอนล่าง 1 ประกอบด้วย จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดราชบุรี และจังหวัดสุพรรณบุรี

               2) เขตตรวจราชการที่ 11 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 ประกอบด้วย จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดสกลนคร

               3) เขตตรวจราชการที่ 15 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดลำปาง และจังหวัดลำพูน

               2. การกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคตามคำสั่งนี้ หมายถึง การตรวจราชการ การขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรายงานเหตุการณ์และผลการปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ยุทธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด และยุทธศาสตร์จังหวัด การประสานราชการเพื่อให้เกิดการบูรณาการยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด และยุทธศาสตร์จังหวัด ไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม การเร่งรัด การติดตามผล การให้คำแนะนำช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่ และการประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงการตรวจสอบความถูกต้องในการดำเนินโครงการและการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐ โดยให้คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด มีส่วนร่วมในการตรวจสอบด้วย

               3. ให้รองนายกรัฐมนตรีรายงานปัญหาอุปสรรค แนวทางการแก้ไข ตลอดจนข้อเสนอแนะต่าง ๆ อันเนื่องจากการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในเขตตรวจราชการหรือพื้นที่ในความรับผิดชอบต่อนายกรัฐมนตรี

               4. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีประจำเขตตรวจราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นฝ่ายเลขานุการของรองนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่รองนายกรัฐมนตรี ติดภารกิจจำเป็นเร่งด่วน สามารถมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีประจำเขตตรวจราชการปฏิบัติหน้าที่แทนแล้วรายงานผลการปฏิบัติงานให้ทราบต่อไป

               5. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ตรวจราชการกระทรวง และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดที่เกี่ยวข้องเสนอข้อมูล อำนวยความสะดวก และให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งนี้ด้วย

               6. ให้เบิกค่าใช้จ่ายในการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคของรองนายกรัฐมนตรี จากงบประมาณของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หมวดเงินอุดหนุนทั่วไป โครงการเพิ่มขีดสมรรถนะในการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคของรองนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป

               4. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงกลาโหม)

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเสนอแต่งตั้ง พลเอก สุชาติ หนองบัว ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป

               5. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา)

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอแต่งตั้ง นายสิรภพ ดวงสอดศรี ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ นายเขมพล อุ้ยตยะกุล ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป

               6. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงยุติธรรม)

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอแต่งตั้ง ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป

               7. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงแรงงาน)

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน 2 คน ดังนี้

               1. รองศาสตราจารย์จักษ์ พันธ์ชูเพชร ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

               2. พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

               ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป

               8. เรื่อง การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในกรณีที่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จำนวน 2 ราย ตามลำดับ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ โดยให้รวมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมด้วย ดังนี้

               1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ)

               2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (นายอิทธิพล คุณปลื้ม)

               ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป

               9. เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จำนวน 2 ราย ตามลำดับ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้

               1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ)

               2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายอุตตม สาวนายน)

               ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป

               10.เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่า การกระทรวงแรงงานในกรณีที่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จำนวน 2 ราย ตามลำดับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้รวมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานด้วย ดังนี้

               1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นายจุติ ไกรฤกษ์)

               2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายดอน ปรมัตถ์วินัย)

               ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป

               11.เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายวราวุธ ศิลปอาชา) เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมไม่อาจปฏิบัติราชการได้ หรือไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป

               12.เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง (สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ)

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอแต่งตั้ง นายประดับ กลัดเข็มเพชร ผู้ช่วยเลขาธิการ (นักบริหาร ระดับต้น) ราชการบริหารส่วนกลาง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่ง รองเลขาธิการ (นักบริหาร ระดับสูง) ราชการบริหารส่วนกลาง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง

               13.เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (กระทรวงการต่างประเทศ)

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ จำนวน 2 ราย ดังนี้

               1. นางสาวรมณี คณานุรักษ์ เอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเม็กซิโก สหรัฐเม็กซิโก สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ไปดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี สำนักงานปลัดกระทรวง สืบแทนนายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2562 แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น สำนักงานปลัดกระทรวง

               2. นางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ กงสุลใหญ่ (นักบริหารการทูต ระดับต้น) สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ไปดำรงตำแหน่งง เอกอัครราชทูต (นักบริหารการทูต ระดับสูง) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ รัฐอิสราเอล สำนักงานปลัดกระทรวง สืบแทนนางสาวเพ็ญประภา วงษ์โกวิท ซึ่งเกษียณอายุราชการ (วันที่ 30 กันยายน 2562)

               ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป

               14.เรื่อง การขอความเห็นชอบการต่อเวลาการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่ 1

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาต่อไปอีก เป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2563

               15.เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงอุตสาหกรรม)

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอแต่งตั้ง นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

               16.เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม)

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมเสนอแต่งตั้ง นางสุวรรณี คำมั่น ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป

               17.เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงคมนาคม)

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน 2 ราย ดังนี้

               1. นายวิรัช พิมพะนิตย์ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

               2. นางสุขสมรวย วันทนียกุล เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

               18.เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงคมนาคม)

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอแต่งตั้ง นายตติรัฐ รัตนเศรษฐ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่ง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป

               19.เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงพลังงาน)

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอการแต่งตั้ง นายอนุรุทธิ์ นาคาศัย เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่ง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป

               20.เรื่อง การรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการในการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จำนวน 2 ราย ตามลำดับ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้

               1. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี

               2. หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

               21.เรื่อง การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ตามลำดับ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เสนอ ดังนี้

1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายอุตตม สาวนายน)

2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์)

22.เรื่อง การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้แต่งตั้งผู้รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ตามลำดับ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้

1. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

2. นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

3. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

               23.เรื่อง การรับโอนข้าราชการพลเรือนสามัญและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง (กระทรวงมหาดไทย)

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอการรับโอน นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักปกครองสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ไปรับราชการทางสังกัด กระทรวงมหาดไทย และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรง พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

               24.เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี)

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอการแต่งตั้งบุคคล ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง จำนวน 7 ราย ดังนี้

               1. พลอากาศเอก ธนู ปานสุวรรณ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษา รองนายกรัฐมนตรี [รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ)]

               2. นายสุรชัย ภู่ประเสริฐ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง [รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม)]

               3. พลตำรวจโท พิจาร จิตติรัตน์ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษา รองนายกรัฐมนตรี [รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม)]

               4. นายพลพีร์ สุวรรณฉวี ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง [รองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล)]

               5. นางใยอนงค์ ทิมสุวรรณ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษา รองนายกรัฐมนตรี [รองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล)]

               6. นายณัฏฐชัย ศรีรุ่งสุขพินิจ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

               7. นายธงชัย ลืออดุลย์ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

               ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป

               25.เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอการแต่งตั้งบุคคลเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี จำนวน 6 ราย ดังนี้

               1. นายประสาน หวังรัตนปราณี กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

               2. นายรณภพ ปัทมะดิษ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

               3. นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ

               4. นายนภินทร ศรีสรรพางค์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

               5. นายนพดล พลเสน กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

               โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง

               26.เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้ง นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

               27.เรื่อง ขออนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 1

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอให้ นางรวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการ (นักบริหาร ระดับสูง) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต่อไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2562 ถึงวันที่ 3 สิงหาคม 2563

               28.เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแต่งตั้ง นายภูผา ลิกค์ ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า))

               29.เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม)

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอแต่งตั้ง นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป

               30.เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงอุตสาหกรรม)

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอการแต่งตั้ง นายภิรมย์ พลวิเศษ ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป

               31.เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงการคลัง)

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอการแต่งตั้ง นายธนกร วังบุญคงชนะ ดำรงตำแหน่ง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป

32.เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง กระทรวงมหาดไทย

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง จำนวน 31 ราย ดังนี้

               1. ให้นายสมคิด จันทมฤก พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง

               2. ให้นายธนาคม จงจิระ พ้นจากตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหาร ระดับสูง) และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมการปกครอง

               3. ให้นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ พ้นจากตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมการพัฒนาชุมชน

               4. ให้นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ พ้นจากตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมการพัฒนาชุมชน และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมที่ดิน

               5. ให้นายประยูร รัตนเสนีย์ พ้นจากตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมที่ดินและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหาร ระดับสูง) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

               6. ให้นายชัยธวัช เนียมศิริ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดหนองบัวลำภู สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานปลัดกระทรวง

               7. ให้นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดตาก สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานปลัดกระทรวง

               8. ให้ว่าที่ร้อยตรี พิเชียน ลิมป์หวังอยู่ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดตราด สำนักงานปลัดกระทรวง

               9. ให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดลำพูน สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดตาก สำนักงานปลัดกระทรวง

               10. ให้นายศิริพัฒ พัฒกุล พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองสูง) จังหวัดพังงา สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานปลัดกระทรวง

               11. ให้นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดนนทบุรี สำนักงานปลัดกระทรวง

               12. ให้นายสนิท ขาวสอาด พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดบึงกาฬ สำนักงานปลัดกระทรวง

               13. ให้นายภานุ แย้มศรี พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดนนทบุรี สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานปลัดกระทรวง

               14. ให้นายกมล เชียงวงค์ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพะเยา สำนักงานปลัดกระทรวง

               15. ให้นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพังงา สำนักงานปลัดกระทรวง

               16. ให้นายสิริรัฐ ชุมอุปการ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดแม่ฮ่องสอน สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพิจิตร สำนักงานปลัดกระทรวง

               17. ให้นางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดแพร่ สำนักงานปลัดกระทรวง

               18. ให้นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดแม่ฮ่องสอน สำนักงานปลัดกระทรวง

               19. ให้นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดตราด สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดยโสธร สำนักงานปลัดกระทรวง

               20. ให้นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพะเยา สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดลำปาง สำนักงานปลัดกระทรวง

               21. ให้นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดแพร่ สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดลำพูน สำนักงานปลัดกระทรวง

               22. ให้นายวัฒนา พุฒิชาติ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดอุดรธานี สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานปลัดกระทรวง

               23. ให้นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวง ระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสกลนคร สำนักงานปลัดกระทรวง

               24. ให้นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสตูล สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสงขลา สำนักงานปลัดกระทรวง

               25. ให้นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับสูง) จังหวัดสงขลา สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสตูล สำนักงานปลัดกระทรวง

               26. ให้นายชรัส บุญณสะ พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคง (นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสมุทรสงคราม สำนักงานปลัดกระทรวง

               27. ให้นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานปลัดกระทรวง

               28. ให้นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดพิจิตร สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสระแก้ว สำนักงานปลัดกระทรวง

               29. ให้นายไกรสร กองฉลาด พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดสุรินทร์ สำนักงานปลัดกระทรวง

               30. ให้นายสุธี ทองแย้ม พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการปกครอง (นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครองระดับสูง) จังหวัดอำนาจเจริญ สำนักงานปลัดกระทรวง

               31. ให้นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดบึงกาฬ สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด (นักปกครอง ระดับสูง) จังหวัดอุดรธานี สำนักงานปลัดกระทรวง

               ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

               33.เรื่อง แนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจและรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการตามแนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ ดังนี้

สาระสำคัญ

               1. คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2560 มีมติรับทราบแนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจตามที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเสนอ และให้กระทรวงเจ้าสังกัดของรัฐวิสาหกิจ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ดังนี้

               (1) ให้นำสมรรถนะหลักและความรู้ที่จำเป็น (Skill Matrix) มาใช้ในการพิจารณาสรรหาและแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้รัฐวิสาหกิจได้กรรมการตรงกับความต้องการที่แท้จริงในการขับเคลื่อนและพัฒนารัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ กรณีกฎหมายจัดตั้งของรัฐวิสาหกิจได้กำหนดความเชี่ยวชาญไว้เป็นการเฉพาะการกำหนด Skill Matrix ต้องเป็นไปตามความเชี่ยวชาญดังกล่าวด้วย

               (2) กำหนดสัดส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิในภาคธุรกิจเอกชนไม่ต่ำกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนกรรมการอื่น/ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ เพื่อให้รัฐวิสาหกิจมีกรรมการที่มีความรู้ ความสามารถ จากภาคธุรกิจต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น

               (3) ไม่แต่งตั้งผู้บริหารสูงสุดหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งแห่งใด เป็นกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจอื่น เว้นแต่กรณีที่มีกฎหมายกำหนด หรือกรณีการแต่งตั้งเป็นกรรมการในคณะกรรมการของบริษัทที่รัฐวิสาหกิจนั้นถือหุ้นอยู่ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในเรื่องของการปฏิบัติงานของผู้บริหารสูงสุดและพนักงานรัฐวิสาหกิจ

               (4) ไม่แต่งตั้งอัยการและสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560

               (5) ให้มีผู้แทนกระทรวงการคลังที่เป็นข้าราชการประจำในกระทรวงการคลังเป็นกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2557 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการบัญชีและการเงินของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2548

               (6) ให้มีผู้แทนกระทรวงเจ้าสังกัดของรัฐวิสาหกิจที่เป็นข้าราชการประจำในกระทรวงเจ้าสังกัดซึ่งไม่อยู่ในหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลการประกอบกิจการของรัฐวิสาหกิจนั้น (Regulator) จำนวน 1 คน เป็นกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ เพื่อทำหน้าที่เชื่อมโยงนโยบายจากกระทรวงเจ้าสังกัดของรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ กรณีมีเหตุจำเป็นอาจแต่งตั้งเพิ่มเติมได้อีกไม่เกิน 1 คน

               (7) กรณีกรรมการโดยตำแหน่งในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจต้องการมอบอำนาจให้ผู้อื่นปฏิบัติหน้าที่แทน ให้มอบอำนาจดังกล่าวให้บุคคลในหน่วยงานเดียวกัน ทั้งนี้ ในการมอบอำนาจให้ผู้อื่นปฏิบัติหน้าที่แทน ให้มีหนังสือมอบอำนาจและมอบอำนาจเป็นการประจำเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติหน้าที่

               (8) กรณีกฎหมายจัดตั้งของรัฐวิสาหกิจกำหนดให้มีผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ เป็นกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ให้หน่วยงานนั้นแต่งตั้งจากบุคคลที่อยู่ในหน่วยงานเท่านั้น

               (9) ในกรณีที่ส่วนราชการแต่งตั้งข้าราชการประจำไปเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจ หากข้าราชการผู้นั้นเกษียณอายุหรือพ้นจากการเป็นข้าราชการประจำ ให้ส่วนราชการนั้นแต่งตั้งข้าราชการคนใหม่ไปแทน เนื่องจากข้าราชการผู้พ้นจากตำแหน่งแล้วไม่อยู่ในข่ายต้องได้รับโทษตามนัยพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดทางวินัยของข้าราชการซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานที่มิใช่ส่วนราชการ พ.ศ. 2534 และเพื่อให้การกำกับดูแลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจเป็นไปตามนโยบายของส่วนราชการนั้น เว้นแต่ข้าราชการผู้ที่เกษียณอายุหรือพ้นจากการเป็นข้าราชการประจำนั้น เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเชี่ยวชาญในกิจการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ส่วนราชการนั้นจะพิจารณาให้บุคคลดังกล่าวยังคงเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจต่อไปจนครบวาระที่ยังเหลืออยู่ก็ได้ ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงบทบัญญัติของกฎหมายรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ที่ให้อำนาจในการแต่งตั้งหรือถอดถอนประกอบด้วย เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2537 เรื่อง หลักเกณฑ์การแต่งตั้งและการพ้นจากตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจและบทกำกับข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ

               2. คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจในคราวประชุมครั้งที่ 4/2560 เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2560 ได้มีมติเห็นชอบรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินตามแนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 การกำหนด Skill Matrix

               ให้ผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณากำหนด Skill Matrix ของกรรมการรัฐวิสาหกิจให้สอดคล้องกับภารกิจและยุทธศาสตร์ของรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้รัฐวิสาหกิจใช้ในการพิจารณาสรรหาบุคคลที่จะเสนอแต่งตั้งเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจให้สอดคล้องกับ Skill Matrix ทั้งนี้ จำนวน Skill Matrix ต้องไม่เกินกว่าจำนวนกรรมการทั้งคณะ

ขั้นตอนที่ 2 การสรรหาและการเสนอชื่อ

               ในกรณีที่ต้องมีการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ ให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจพิจารณารายชื่อบุคคลที่ได้มาจากการสรรหาหรือการเสนอชื่อจากกระทรวงเจ้าสังกัดของรัฐวิสาหกิจให้มีจำนวนไม่น้อยกว่าสองเท่าของจำนวนตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจที่จะต้องแต่งตั้งเสนอต่อฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เพื่อเสนอต่อคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกรรมการรัฐวิสาหกิจพิจารณา โดยกรณีที่มีกรรมการครบวาระให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจนำเสนอรายชื่อบุคคลที่จะเสนอซื่อเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 เดือน

               ทั้งนี้ ในการแต่งตั้งกรรมการที่มิใช่กรรมการโดยตำแหน่ง ซึ่งหมายความรวมถึงประธานกรรมการและรองประธานกรรมการที่มิใช่โดยตำแหน่ง บุคคลที่ได้รับการสรรหาและเสนอชื่อต่อคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกรรมการรัฐวิสาหกิจจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด และมีความรู้ความเชี่ยวชาญสอดคล้องกับ Skill Matrix และเป็นไปตามแนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ โดยให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจพิจารณาเสนอชื่อจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์การทำงานในภาคธุรกิจ ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมดที่มิใช่กรรมการโดยตำแหน่งของรัฐวิสาหกิจนั้น

               ให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองกรรมการรัฐวิสาหกิจพิจารณารายชื่อบุคคลที่คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจเสนอรวมกับรายชื่อบุคคลจากบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจที่ สคร. เสนอ และรายชื่อบุคคลที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองกรรมการรัฐวิสาหกิจเสนอ

 

ขั้นตอนที่ 3 การพิจารณาคัดเลือก

     ให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองกรรมการรัฐวิสาหกิจพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่สมควรจะได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ เพื่อนำเสนอประธานกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจพิจารณาให้ความเห็นชอบ

 

ขั้นตอนที่ 4 การเห็นชอบรายชื่อ

        เมื่อประธานกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจให้ความเห็นชอบรายชื่อบุคคลที่จะเสนอแต่งตั้งแล้วให้กระทรวงเจ้าสังกัดของรัฐวิสาหกิจดำเนินการนำเสนอคณะรัฐมนตรีหรือดำเนินการเพื่อแต่งตั้งตามกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับของรัฐวิสาหกิจต่อไป

       กรณีกรรมการผู้แทนกระทรวงเจ้าสังกัดว่างลงให้กระทรวงเจ้าสังกัดเสนอแต่งตั้งผู้แทนเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจให้เป็นไปตามแนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ โดยการแต่งตั้งกรรมการผู้แทนกระทรวงเจ้าสังกัดให้แต่งตั้งข้าราชการประจำในกระทรวงเจ้าสังกัดซึ่งไม่อยู่ในหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลการประกอบกิจการของรัฐวิสาหกิจนั้น (Regulator) ได้แก่ หน่วยงานที่ให้สิทธิหรือพิจารณาอนุญาตให้ประกอบกิจการ หรือกำหนดโครงสร้างราคาสินค้าและบริการ และค่าธรรมเนียม หรือ กำหนดมาตรฐานและหลักเกณฑ์ในการประกอบกิจการ

       สำหรับการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจลูก ให้รัฐวิสาหกิจลูกดำเนินการกำหนด Skill Matrix และดำเนินการสรรหาและเสนอชื่อบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจให้เป็นไปตามแนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจโดยความเห็นชอบของรัฐวิสาหกิจแม่ และเสนอฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเพื่อนำเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกรรมการรัฐวิสาหกิจพิจารณาตามขั้นตอนที่กำหนดต่อไปด้วย ทั้งนี้ กรณีรัฐวิสาหกิจที่เป็นบริษัทจำกัด และรัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ดำเนินการตามขั้นตอนและแนวทางการแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจเท่าที่ไม่ขัดกับกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

        ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 6 สิงหาคม 2562

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!