การเปิดโครงข่ายเน็ตประชารัฐตามหลักการโครงข่ายแบบเปิด (Open Access Network)
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 03 September 2019 23:01
- Hits: 4703
การเปิดโครงข่ายเน็ตประชารัฐตามหลักการโครงข่ายแบบเปิด (Open Access Network)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบให้ ดศ. เปิดโครงข่ายเน็ตประชารัฐที่ครอบคลุมหมู่บ้านเป้าหมาย จำนวน 24,700 หมู่บ้าน ตามหลักเกณฑ์การให้บริการโครงข่ายเน็ตประชารัฐแบบเปิด (Open Access Network) ตามแนวทางที่คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (คณะกรรมการฯ) เห็นชอบเพื่อให้มีการเชื่อมต่อโครงข่ายเน็ตประชารัฐไปให้บริการปลายทาง (Last Mile Access) ไปยังทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นการใช้โครงข่ายเน็ตประชารัฐให้เกิดประโยชน์และมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมและลดต้นทุนในการคิดอัตราค่าบริการอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยราคาที่เหมาะสมอีกทั้งยังเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม
2. ให้หน่วยราชการต่าง ๆ สนับสนุนให้เกิดการใช้ประโยชน์จากเน็ตประชารัฐเพื่อต่อยอดการพัฒนาบริการภาครัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ e-Health e-Learning e-Agriculture e-Commerce และ e-Government เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ของภาครัฐได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ ต่าง ๆ สามารถสร้างการรับรู้สู่ชุมชน โดยการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร และรับทราบปัญหา อุปสรรค ความต้องการ ผ่านเครือข่ายอาสาสมัครที่มีอยู่ในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างถูกต้องตรงตามเป้าประสงค์ของนโยบายรัฐบาลได้อย่างทันเหตุการณ์ รวดเร็ว ในรูปแบบประชารัฐ
สาระสำคัญของเรื่อง
1. ดศ. รายงานผลการดำเนินโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ กิจกรรมที่ 1 โครงการเน็ตประชารัฐ และโครงการขยายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1.1 ดศ. ได้ดำเนินโครงการเน็ตประชารัฐโดยขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสื่อสัญญาณสายเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber-To-The-x: FTTx) ให้ครอบคลุมหมู่บ้านเป้าหมาย จำนวน 24,700 หมู่บ้าน และจัดให้มีจุดให้บริการอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย (Wi-Fi) โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายกับผู้ใช้บริการ อย่างน้อยหมู่บ้านละ 1 จุดให้บริการ ที่ระดับความเร็วไม่ต่ำกว่า 30 Mbps/10 Mbps (Download/Upload) เสร็จเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2560 โดยปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนเข้าใช้งาน Wi-Fi เน็ตประชารัฐ จำนวน 5.21 ล้านคน (ข้อมูล ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562) ทั้งนี้ โครงข่ายเน็ตประชารัฐยังได้มีการออกแบบสถาปัตยกรรมที่สามารถเปิดให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมเชื่อมต่อเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตปลายทาง (Last Mile Access) ไปยังทุกภาคส่วนในพื้นที่เป้าหมาย (เช่น บ้านเรือนประชาชน สถานประกอบการ) ได้อย่างมีคุณภาพและทั่วถึงได้ในลักษณะโครงข่ายเชื่อมต่อแบบเปิด (Open Access Network) ซึ่งจะเป็นการลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและลดต้นทุนใน การคิดอัตราค่าบริการอินเทอร์เน็ตกับประชาชน เพื่อเป็นการขับเคลื่อนนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติตามนโยบายรัฐบาลและสอดคล้องกับแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
1.2 สำหรับประเด็นกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการเน็ตประชารัฐและโครงการ ASEAN Digital Hub ดศ. ได้มีการประชุมหารือประเด็น เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธาน ได้มีการหารือในประเด็นเรื่องการนำโครงข่ายเน็ตประชารัฐซึ่งเป็นทรัพย์สินราชการไปให้ผู้ประกอบกิจการภาคเอกชนไปใช้ประโยชน์ในลักษณะธุรกิจ ตามหลักการโครงข่ายแบบเปิด (Open Access Network) ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีฯ ได้สั่งการให้กรรมการผู้มีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยตอบข้อหารือให้ ดศ. ทราบโดยเร็วเพื่อ ดศ. จะได้พิจารณาหาแนวทางการดำเนินการต่อไป รวมทั้งให้ ดศ. หารือคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตอบข้อหารือ ดศ. ดังนี้
1.2.1 คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ได้มีหนังสือตอบข้อหารือ ดศ. แล้วสรุปได้ว่า ทรัพย์สินที่เกิดขึ้นในโครงการเน็ตประชารัฐเป็นทรัพย์สินของ ดศ. การที่ ดศ. จะนำโครงข่ายเน็ตประชารัฐซึ่งเป็นทรัพย์สินราชการไปให้ผู้ประกอบกิจการภาคเอกชนเข้าไปใช้ประโยชน์ต่อยอดให้บริการ ถือเป็นการใช้ทรัพย์สินตามวัตถุประสงค์ของการรับจัดสรรเงินงบประมาณ ดศ. สามารถดำเนินการได้ โดยการใช้ทรัพย์สินเป็นเรื่องของการขออนุญาตให้สิทธิ ดังนั้น จึงไม่มีประเด็นที่คณะกรรมการวินิจฉัยจะต้องพิจารณาแต่ประการใด แต่ ดศ. ควรกำหนดแนวทางการปฏิบัติในการควบคุมเพื่อรองรับในเรื่องของสิทธิการเข้าใช้งานโครงข่ายดังกล่าวด้วย
1.2.2 สำนักงานอัยการสูงสุด (อส.) ขอให้ ดศ. นำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในหลักการและรายละเอียดโครงการฯ ก่อน และ อส. จึงจะพิจารณา (ร่าง) สัญญาตัวแทนในการดำเนินโครงข่ายเน็ตประชารัฐแบบเปิด และ (ร่าง) สัญญาการใช้โครงข่ายโทรคมนาคมภายใต้โครงการเน็ตประชารัฐให้ต่อไป
1.3 สำหรับโครงการขยายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตตามที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในประเทศ ดศ. อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการดังกล่าวและมอบหมายให้ บมจ.ทีโอที ขยายโครงข่ายเน็ตประชารัฐโดยการวางโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ไปยังโรงเรียน โรงพยาบาลและสุขศาลาพระราชทานที่ยังไม่มีโครงข่าย Fiber Optic เข้าถึง เพื่อให้มีโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่สนับสนุนการยกระดับความเป็นอยู่ของประชากรทางด้านการศึกษาและสาธารณสุข
2. ในส่วนข้อเสนอของ ดศ. ในครั้งนี้ จะเป็นการดำเนินการเปิดโครงข่ายเน็ตประชารัฐตามหลักเกณฑ์โครงข่ายแบบเปิด (Open Access Network) ซึ่งเป็นการเปิดให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมเข้าเชื่อมต่อโครงข่ายเน็ตประชารัฐ (ซึ่งเป็นทรัพย์สินของราชการ) เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนวางโครงข่ายซึ่งเป็นการ ลดต้นทุนการคิดอัตราค่าบริการไปยังบ้านเรือนประชาชน ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างในพื้นที่ห่างไกล (เนื่องจากเอกชนไม่เข้าไปลงทุนในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์) มีโอกาสเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม
โดย ดศ. ได้เสนอหลักเกณฑ์โครงข่ายแบบเปิด (Open Access Network) และข้อเสนอการใช้โครงข่ายโทรคมนาคม (Reference Access Offer: RAO) ประกอบกับคณะกรรมการฯ ในการประชุมครั้งที่ 3/2561 เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2561 ได้มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การให้บริการโครงข่ายเน็ตประชารัฐแบบเปิดด้วยแล้ว ดังนี้
ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม*
แบบที่ 1 ไม่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง
หลักเกณฑ์
สามารถเชื่อมต่อจากโครงข่ายเน็ตประชารัฐไปยังบ้านเรือนของประชาชนโดยไม่มีค่าการใช้หรือเชื่อมต่อ
ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม*
แบบที่ 2 ที่ไม่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง
หลักเกณฑ์
สามารถเชื่อมต่อจากโครงข่ายเน็ตประชารัฐไปยังบ้านเรือนของประชาชนโดยไม่มีค่าการใช้หรือเชื่อมต่อ
ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม*
แบบที่ 2 ที่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง
หลักเกณฑ์
ต้องทำข้อตกลงกับ ดศ. ในการเปิดโครงข่ายโทรคมนาคมที่มีอยู่ให้ ผู้ประกอบกิจการรายอื่นเชื่อมต่อโครงข่ายเพื่อให้บริการโทรคมนาคมแก่ครัวเรือน (ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายระหว่างกันตามที่กำหนดไว้ในข้อเสนอ) สำหรับผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ไม่ประสงค์จะให้ผู้อื่นเข้าใช้โครงข่ายในส่วนของ access ของตนจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้โครงข่ายเน็ตประชารัฐ โดยอ้างอิงตามราคาที่รัฐบาลลงทุนแบบต้นทุนส่วนเพิ่มระยะยาว (Long Run Incremental Cost)
ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม*
แบบที่ 3 ที่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง
หลักเกณฑ์
ต้องทำข้อตกลงกับ ดศ. ในการเปิดโครงข่ายโทรคมนาคมที่มีอยู่ให้ ผู้ประกอบกิจการรายอื่นเชื่อมต่อโครงข่ายเพื่อให้บริการโทรคมนาคมแก่ครัวเรือน (ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายระหว่างกันตามที่กำหนดไว้ในข้อเสนอ) สำหรับผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่ไม่ประสงค์จะให้ผู้อื่นเข้าใช้โครงข่ายในส่วนของ access ของตนจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้โครงข่ายเน็ตประชารัฐ โดยอ้างอิงตามราคาที่รัฐบาลลงทุนแบบต้นทุนส่วนเพิ่มระยะยาว (Long Run Incremental Cost)
หมายเหตุ
ผู้ประกอบกิจการฯ สามารถเชื่อมต่อโครงข่ายเน็ตประชารัฐได้ ณ จุดเชื่อมต่อที่มีความเป็นไปได้ทางเทคนิค โดยผู้ประกอบกิจการฯ ที่ขอเชื่อมต่อโครงข่ายต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการทำหรือจัดให้มีจุดเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคมเพิ่มเติม
*ผู้ประกอบกิจการฯ แบบที่ 1 ไม่มีโครงข่ายโทรคมนาคมเป็นของตนเอง และเป็นกิจการที่มีลักษณะสมควรให้มีการบริการได้โดยเสรี เช่น บริษัท เอส ที ซี เน็ทเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด
ผู้ประกอบกิจการฯ แบบที่ 2 มีทั้งแบบที่มีหรือไม่มีโครงข่ายเป็นของตนเอง เป็นกิจการที่มีวัตถุประสงค์ให้บริการจำกัดเฉพาะบุคคลหรือไม่มีผลกระทบโดยนัยสำคัญต่อการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม หรือต่อประโยชน์สาธารณะและผู้บริโภค ได้แก่ บริษัท สามารถ เทลคอม จำกัด (มหาชน) (แบบที่ 2 ไม่มีโครงข่ายฯ) บริษัท ทริปเปิลที โกลบอล เน็ท จำกัด (แบบที่ 2 มีโครงข่ายฯ)
ผู้ประกอบกิจการฯ แบบที่ 3 มีโครงข่ายเป็นของตนเอง เป็นกิจการที่มีวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่บุคคลทั่วไปจำนวนมากหรืออาจมีผลกระทบต่อการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม หรืออาจกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ หรือมีเหตุจำเป็นต้องคุ้มครองผู้บริโภคเป็นพิเศษ เช่น บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด
ทั้งนี้ บมจ. ทีโอที ในฐานะผู้ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการโครงการเน็ตประชารัฐต้องให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายอื่นเข้าใช้โครงข่ายเน็ตประชารัฐ และให้จัดส่งสำเนาสัญญาการใช้โครงข่ายเน็ตประชารัฐ ให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องการใช้และการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2556 โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมสามารถยื่นความประสงค์ได้ที่สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 มิถุนายน 2562
Click Donate Support Web