WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ขอปรับปรุงหลักการของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1

GOV 5ขอปรับปรุงหลักการของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1

 

      คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบการปรับปรุงหลักการของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 โดย

1) เปลี่ยนแปลงจำนวนเงินร่วมลงทุนของรัฐ หักค่าสิทธิการร่วมลงทุนจากเอกชนสุทธิ 710 ล้านบาทต่อปี เป็นระยะเวลา 30 ปี

2) เปลี่ยนแปลงผลตอบแทนทางการเงินขั้นต่ำของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จากการร่วมลงทุนกับเอกชนช่วงที่ 1 และช่วงที่ 2 รวมเท่ากับมูลค่าปัจจุบันสุทธิประมาณ 6,721 ล้านบาท (อัตราคิดลดร้อยละ 6.48)

2. เห็นชอบผลการเจรจาต่อรองกับผู้ยื่นข้อเสนอตามที่เสนอ และให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ เจรจาร่างสัญญาร่วมลงทุนกับผู้ยื่นข้อเสนอ และเสนอผลการคัดเลือกเอกชน ผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุนเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป

 

สาระสำคัญของเรื่อง

1. คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ได้มีการประชุม ครั้งที่ 5/2562 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 เวลา 15.00 – 16.30 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้เห็นชอบการเปลี่ยนแปลงหลักการของโครงการฯ ผลการเจรจาและผลการดำเนินการของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ที่ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 21 พฤษภาคม 2562 แล้ว โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

1.1 คณะกรรมการคัดเลือกฯ พิจารณาความเห็นของสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และข้อสังเกตของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 21 พฤษภาคม 2562 และประกอบการดำเนินการ ดังนี้

1) คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ดำเนินการเจรจาต่อรองกับผู้ยื่นข้อเสนอ อีก 3 ครั้ง (วันที่ 22 24 และ 27 พฤษภาคม) รวมทั้งสิ้น 9 ครั้ง เป็นการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกฯ จำนวน 8 ครั้ง และการประชุมคณะทำงานย่อยที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ มอบหมาย จำนวน 1 ครั้ง โดยผลการเจรจาต่อรองกับผู้ยื่นข้อเสนอจนถึงที่สุดแล้ว ผู้ยื่นข้อเสนอขอรับเงินร่วมลงทุนของรัฐ จำนวน 1,010 ล้านบาทต่อปี และจ่ายค่าสิทธิการร่วมลงทุน จำนวน 300 ล้านบาทต่อปี คิดเป็นจำนวนเงินร่วมลงทุนสุทธิ เป็นระยะเวลา 30 ปี รวมเป็นเงิน 21,300 ล้านบาท ซึ่งผลการเจรจาเป็นไปตามที่ กพอ. มีมติเห็นชอบในการประชุมครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 และคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2562

2) ผลการเจรจาต่อรองข้างต้นส่งผลให้ กนอ. สามารถลดรายจ่ายลงได้เป็น จำนวนเงินสุทธิ 24,180 ล้านบาท โดยผู้ยื่นข้อเสนอเริ่มต้นให้ กนอ. จ่ายเงินร่วมลงทุนของรัฐสุทธิ 1,516 ล้านบาทต่อปี เป็นระยะเวลา 30 ปี รวมเป็นเงินที่ กนอ. ต้องชำระสุทธิ 45,480 ล้านบาท

3) ผลการเจรจาต่อรองกับผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้เจรจาจนถึงที่สุดแล้ว ผู้ยื่นข้อเสนอได้ขอรับเงินร่วมลงทุนสุทธิจำนวน 710 ล้านบาทต่อปี ซึ่งยังสูงกว่าเงินร่วมลงทุนสุทธิที่ ครม. ให้ความเห็นชอบ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2561 โดยมีสาเหตุมาจาก

(1) สมมติฐานอัตราคิดลดที่ร้อยละ 2.5 เป็นอัตราต้นทุนทางการเงินของรัฐ ซึ่งใช้เป็นสมมติฐานเบื้องต้น (Reference Price) ในการกำหนดจำนวนเงินร่วมลงทุนของรัฐในแต่ละปีในการเริ่มเจรจากับเอกชน ซึ่งอัตราดังกล่าวไม่สะท้อนถึงข้อเท็จจริงในส่วนของต้นทุนทางการเงินของเอกชนจากการที่เอกชนเป็นผู้จัดหาเงินเพื่อมาลงทุน

(2) ในกรณีดังกล่าวที่ปรึกษาทางการเงินได้สรุปว่าต้นทุนในการระดมทุนของภาคเอกชนในธุรกิจที่ใกล้เคียงกับโครงการนี้ อยู่ที่ประมาณร้อยละ 5-6 ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกฯ

ได้เจรจาต่อรองอัตราคิดลดดังกล่าวลงเหลือร้อยละ 4.69

ทั้งนี้ ผลจากการปรับปรุงหลักการของโครงการฯ สามารถสรุปได้ ดังนี้

 

ลำดับ 1

หลักการโครงการ จำนวนเงินร่วมลงทุนของรัฐ (ล้านบาทต่อปี)

ครม. มีมติเห็นชอบ (30 ต.ค. 61) 616.36

ครม. มีมติรับทราบ (21 พ.ค. 62) 1,020

กพอ. มีมติรับทราบผลการเจรจากับ ผู้ยื่นข้อเสนออีกครั้ง (27 พ.ค. 62) 1,010

 

ลำดับ 2

หลักการโครงการ ค่าสิทธิการร่วมลงทุน (ล้านบาทต่อปี)

ครม. มีมติเห็นชอบ (30 ต.ค. 61) 100

ครม. มีมติรับทราบ (21 พ.ค. 62) 300

กพอ. มีมติรับทราบผลการเจรจากับ ผู้ยื่นข้อเสนออีกครั้ง (27 พ.ค. 62) 300

 

ลำดับ 3

หลักการโครงการ จำนวนเงินร่วมลงทุนสุทธิ (ล้านบาทต่อปี)

ครม. มีมติเห็นชอบ (30 ต.ค. 61) 516.36

ครม. มีมติรับทราบ (21 พ.ค. 62) 720

กพอ. มีมติรับทราบผลการเจรจากับ ผู้ยื่นข้อเสนออีกครั้ง (27 พ.ค. 62) 710

 

ลำดับ 4

หลักการโครงการ ระยะเวลาร่วมลงทุน (ปี)

ครม. มีมติเห็นชอบ (30 ต.ค. 61) 30

ครม. มีมติรับทราบ (21 พ.ค. 62) 30

กพอ. มีมติรับทราบผลการเจรจากับ ผู้ยื่นข้อเสนออีกครั้ง (27 พ.ค. 62) 30

 

ลำดับ 5

หลักการโครงการ อัตราคิดลดเงินร่วมลงทุนของรัฐ (ร้อยละ)

ครม. มีมติเห็นชอบ (30 ต.ค. 61) 2.5

ครม. มีมติรับทราบ (21 พ.ค. 62) 4.8

กพอ. มีมติรับทราบผลการเจรจากับ ผู้ยื่นข้อเสนออีกครั้ง (27 พ.ค. 62) 4.69

 

ลำดับ 6

หลักการโครงการ อัตราผลตอบแทนทางการเงิน (FIRR) ของ กนอ. (ร้อยละ)

ครม. มีมติเห็นชอบ (30 ต.ค. 61) 11.8

ครม. มีมติรับทราบ (21 พ.ค. 62) 9.14

กพอ. มีมติรับทราบผลการเจรจากับ ผู้ยื่นข้อเสนออีกครั้ง (27 พ.ค. 62) 9.21

 

ลำดับ 7

หลักการโครงการ มูลค่าปัจจุบันของผลประโยชน์สุทธิของโครงการ (NPV) ของ กนอ. จากการร่วมลงทุนกับเอกชน ช่วงที่ 1 ณ อัตราคิดลดร้อยละ 6.48

ครม. มีมติเห็นชอบ (30 ต.ค. 61) 2,729

ครม. มีมติรับทราบ (21 พ.ค. 62) 24

กพอ. มีมติรับทราบผลการเจรจากับ ผู้ยื่นข้อเสนออีกครั้ง (27 พ.ค. 62) 139

 

ลำดับ 8

หลักการโครงการ มูลค่าปัจจุบันของผลประโยชน์สุทธิของโครงการ (NPV) ของ กนอ. จากการร่วมลงทุนกับเอกชน ช่วงที่ 2 ณ อัตราคิดลดร้อยละ 6.48

ครม. มีมติเห็นชอบ (30 ต.ค. 61) 6,582

ครม. มีมติรับทราบ (21 พ.ค. 62) 6,582

กพอ. มีมติรับทราบผลการเจรจากับ ผู้ยื่นข้อเสนออีกครั้ง (27 พ.ค. 62) 6,582

 

ลำดับ 9

หลักการโครงการ มูลค่าปัจจุบันของผลประโยชน์สุทธิของโครงการ (NPV) ของ กนอ. จากการร่วมลงทุนกับเอกชน ช่วงที่ 1 และช่วงที่ 2 ณ อัตราคิดลดร้อยละ 6.48 (ล้านบาท)

ครม. มีมติเห็นชอบ (30 ต.ค. 61) 9,311

ครม. มีมติรับทราบ (21 พ.ค. 62) 6,606

กพอ. มีมติรับทราบผลการเจรจากับ ผู้ยื่นข้อเสนออีกครั้ง (27 พ.ค. 62) 6,721

 

ลำดับ 10

หลักการโครงการ อัตราผลตอบแทนทางการเงิน (FIRR) ของ เอกชน (ร้อยละ)

ครม. มีมติเห็นชอบ (30 ต.ค. 61) 10.06

ครม. มีมติรับทราบ (21 พ.ค. 62) 10.75

กพอ. มีมติรับทราบผลการเจรจากับ ผู้ยื่นข้อเสนออีกครั้ง (27 พ.ค. 62) 10.73

 

ลำดับ 11

หลักการโครงการ มูลค่าปัจจุบันของผลประโยชน์สุทธิของโครงการ (NPV) ของ เอกชน ณ อัตราคิดลดร้อยละ 7.47 (ล้านบาท)

ครม. มีมติเห็นชอบ (30 ต.ค. 61) 12,981

ครม. มีมติรับทราบ (21 พ.ค. 62) 14,371

กพอ. มีมติรับทราบผลการเจรจากับ ผู้ยื่นข้อเสนออีกครั้ง (27 พ.ค. 62) 14,298

1.2 ความเห็นและมติที่ประชุม กพอ. ครั้งที่ 5/2562 ดังนี้

 

1) ความเห็นที่ประชุม

(1) ให้นำผลการเจรจาและผลการดำเนินการของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ที่ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 21 พฤษภาคม 2562 เสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง

(2) ขอให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ ปรับความเห็นที่เสนอต่อคณะรัฐมนตรีในการขอปรับปรุงหลักการของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 ที่ สกพอ. เสนอต่อคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ให้สอดคล้องกับความเห็นที่ประชุมในวันนี้ โดยเฉพาะข้อสังเกตของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และความเห็นสำนักงบประมาณเพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง

(3) นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย และนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กรรมการ มีหนังสือลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 ถึงประธาน กพอ. ขอไม่ร่วมลงมติเกี่ยวกับโครงการฯ เนื่องจากมีการปฏิบัติงานอันอาจก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of Interest)

 

2) มติที่ประชุม

(1) รับทราบผลการเจรจาต่อรองกับผู้ยื่นข้อเสนออีกครั้งหนึ่ง ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ตามที่เสนอ

              (2) ให้นำเสนอผลการเจรจาและผลการดำเนินการของคณะกรรมการ คัดเลือกฯ ที่ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติปรับปรุงหลักการของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 ต่อไป

2. การประชุมชี้แจงข้อมูลการขอปรับปรุงหลักการของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

สกพอ. ในฐานะหน่วยงานหลักรับผิดชอบโครงการฯ ร่วมกับ กนอ. ได้จัดให้มีการประชุมชี้แจงข้อมูลการขอปรับปรุงหลักการของโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 ร่วมกับ ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนสำนักงบประมาณ และผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2562 เวลา 9.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ EEC ชั้น 3 อาคาร กสท. โทรคมนาคม บางรัก โดยมีเลขาธิการ สกพอ. เป็นประธาน เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและหลักการโครงการฯ ให้เข้าใจตรงกันในทุกประเด็น โดยที่ประชุมทุกฝ่ายรับทราบและเห็นชอบคำชี้แจงโดยไม่มีความเห็นเพิ่มเติม

         ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 มิถุนายน 2562

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!