ขออนุมัติดำเนินการโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ)
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Sunday, 01 September 2019 17:16
- Hits: 1930
ขออนุมัติดำเนินการโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการให้กรมทางหลวงดำเนินการโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ - บอลิคำไซ) ภายในกรอบวงเงิน 2,630 ล้านบาท ตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ สำหรับงบประมาณที่จะนำมาใช้ในโครงการดังกล่าว ให้กรมทางหลวงจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนด ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 พร้อมทั้งเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติก่อนที่จะมีการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่าย ตามนัยมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
สาระสำคัญของเรื่อง
คค. รายงานว่า
1. ภายหลังจากมติคณะรัฐมนตรีวันที่ (30 พฤษภาคม 2560) กรมทางหลวงได้จ้างกลุ่มบริษัทวิศวกรที่ปรึกษา ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมสำรวจออกแบบรายละเอียด สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 5 เชื่อมระหว่างจังหวัดบึงกาฬ และแขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว แล้วเสร็จเมื่อปี 2557
2. ในการประชุมคณะทำงานประสานงานร่วมไทย - สปป.ลาว เพื่อเตรียมความพร้อมโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพฯ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2561 จังหวัดหนองคาย ที่ประชุมรับทราบแนวทางการดำเนินการโครงการ การบริหารโครงการและการบริหารสัญญา รวมทั้งกรอบระยะเวลาการดำเนินการโครงการ ในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายสามารถได้ข้อสรุปเรื่องวงเงินค่าก่อสร้างและแหล่งเงินดำเนินการแล้ว สามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและเริ่มงานก่อสร้างได้ภายใน 8 เดือน มีระยะเวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 36 เดือน โดยทั้งสองฝ่ายจะนำเสนอรัฐบาลของตนพิจารณาแหล่งเงินเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวตามวงเงินที่แต่ละฝ่ายรับผิดชอบต่อไป
3. กรมทางหลวงได้เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2562 สำหรับดำเนินการก่อสร้างโครงการ แต่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ อย่างไรก็ตาม สำหรับค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งหมดในฝั่งไทยจำนวน 400 ล้านบาท กรมทางหลวงได้รับการจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2560 - 2561 แล้ว จำนวน 250 ล้านบาท และอยู่ระหว่างขอรับการจัดสรรเงินงบประมาณในส่วนที่เหลือ ในส่วนของ สปป.ลาว ได้มีหนังสือแจ้งความประสงค์ขอกู้เงินไปยังสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) แล้ว โดย สพพ. จะดำเนินการเจรจาต่อรองเงื่อนไขการให้กู้เงินกับ สปป.ลาว ตามระเบียบต่อไป
4. โดยที่กระทรวงการคลัง (กค.) และสำนักงบประมาณ (สงป.) มีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับแหล่งเงินงบประมาณสำหรับดำเนินโครงการฯ (กค. เห็นควรให้ใช้จ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีเนื่องจากโครงการฯ ไม่มีผลตอบแทนทางการเงินโดยตรงจากการลงทุน ในขณะที่ สงป. เห็นควรให้ กค. กู้เงินเพื่อดำเนินโครงการ) คค. จึงได้จัดการประชุมหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2562 โดยมีผู้แทนจาก กค. และ สงป. ร่วมประชุม ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี วงเงิน 2,630 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างที่ฝ่ายไทยต้องรับผิดชอบ ได้แก่ ค่าก่อสร้าง จำนวน 2,553 ล้านบาท และค่าควบคุมงานก่อสร้าง จำนวน 77 ล้านบาท ทั้งนี้ สรุปค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฯ ทั้งในส่วนของประเทศไทยและ สปป.ลาว ได้ดังนี้
รายละเอียด
1. งานถนนและด่านพรมแดนฝั่งไทย
หน่วย : ล้านบาท
ค่างานก่อสร้าง 1,766
ค่าควบคุมงาน 53
รวม 1,819
2. งานสะพานข้ามแม่น้ำโขงฝั่งไทย (รวมงานปรับปรุงสี่แยก ทล. 212 และลานเอนกประสงค์ใต้สะพาน)
หน่วย : ล้านบาท
ค่างานก่อสร้าง 787
ค่าควบคุมงาน 24
รวม 811
3. งานสะพานข้ามแม่น้ำโขง ฝั่ง สปป.ลาว
หน่วย : ล้านบาท
ค่างานก่อสร้าง 476
ค่าควบคุมงาน 14
รวม 490
4. งานถนนและด่านพรมแดน ฝั่ง สปป.ลาว
หน่วย : ล้านบาท
ค่างานก่อสร้าง 780
ค่าควบคุมงาน 30
รวม 810
รวมทั้งสิ้น
หน่วย : ล้านบาท
ค่างานก่อสร้าง 3,809
ค่าควบคุมงาน 121
รวม 3,930
รวมค่างานฝั่งไทย 2,630 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินค่าก่อสร้าง 2,533 ล้านบาท และค่าควบคุมงาน 77 ล้านบาท (ไม่รวมวงเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ 400 ล้านบาท)
รวมค่างานฝั่ง สปป.ลาว 1,300 ล้านบาท
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 มิถุนายน 2562
Click Donate Support Web