ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้รถยนต์ที่ใช้แล้วเป็นสินค้าที่ต้องห้ามหรือต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. ....
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 14 August 2019 16:46
- Hits: 1972
ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้รถยนต์ที่ใช้แล้วเป็นสินค้าที่ต้องห้ามหรือต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ ดังนี้
1. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้รถยนต์ที่ใช้แล้วเป็นสินค้าที่ต้องห้ามหรือต้องขออนุญาตในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงการคลังไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
2. ให้กระทรวงพาณิชย์รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
สาระสำคัญของร่างประกาศ
ประเด็น - รายละเอียด
1. บทนิยาม ?
'รถยนต์ที่ใช้แล้ว' หมายความว่า รถยนต์ที่ได้มีการใช้งานแล้วหรือมีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้
(1) รถยนต์ที่ได้ผ่านการใช้งานตามปกติวิสัยแล้ว เว้นแต่สภาพการใช้งานเกิดขึ้นเนื่องจากการทดสอบคุณภาพเพื่อจำหน่ายหรือการจัดส่งไปยังแหล่งจำหน่าย โดยมีหนังสือรับรองจากเจ้าของตราสินค้า
(2) รถยนต์รุ่นเก่าให้สันนิษฐานเบื้องต้นว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้แล้ว เว้นแต่โดยสภาพแสดงให้เห็นชัดว่ายังไม่ได้ผ่านการใช้งานหรือไม่มีลักษณะตาม (1)
(3) รถยนต์ที่ได้จดทะเบียนใช้งานในต่างประเทศแล้ว ให้ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้แล้ว แต่ไม่รวมถึงรถยนต์ที่ได้จดทะเบียนใช้งานครั้งแรกในต่างประเทศก่อนบรรทุกในยานพาหนะจากเมืองต้นทางไม่เกิน 60 วัน โดยได้ชำระภาษีอากรต่อกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ตามที่กำหนดสำหรับรถยนต์ใหม่
2. กำหนดประเภทของรถยนต์ที่ต้องห้ามนำเข้ารถยนต์ที่ใช้แล้วตามพิกัดอัตราศุลกากร ดังนี้
(1) พิกัดอัตราศุลกากรประเภท 87.01 เช่น รถแทรกเตอร์เพลาเดี่ยว รถแทรกเตอร์ทางการเกษตร รถโดยสารประจำทางขนาดเล็ก เป็นต้น (ยกเว้น รถหัวลาก)
(2) พิกัดอัตราศุลกากรประเภท 87.02 ทุกชนิด เช่น รถโดยสาร รถโดยสารประจำทาง รถโดยทางประจำทางขนาดเล็ก เป็นต้น
(3) พิกัดอัตราศุลกากรประเภท 87.03 เช่น รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถแข่ง เป็นต้น (ยกเว้นรถพยาบาล)
(4) พิกัดอัตราศุลกากรประเภท 87.04 ทุกชนิด เช่น รถดั้มพ์ รถกระบะ รถบรรทุก เป็นต้น
3. กำหนดประเภทของรถยนต์ที่ต้องขออนุญาตนำเข้ารถยนต์ที่ใช้แล้วตามพิกัดอัตราศุลกากร ดังนี้
(1) พิกัดอัตราศุลกากรประเภท 87.01 เฉพาะรถหัวลาก
(2) พิกัดอัตราศุลกากรประเภท 87.03 เฉพาะรถพยาบาล
(3) พิกัดอัตราศุลกากรประเภท 87.05 ทุกชนิด เช่น รถเครน รถดับเพลิง เป็นต้น
4. กำหนดประเภทของรถยนต์ที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลการนำเข้าหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลการนำเข้ารถยนต์ ดังนี้
(1) กรมการค้าต่างประเทศ มีหน้าที่ออกใบอนุญาตนำเข้า สำหรับรถลักษณะพิเศษที่ใช้แล้วเพื่อใช้ในกิจการตนเอง และรถยนต์ที่ใช้แล้วทุกชนิดที่นำเข้าโดยส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และองค์การสาธารณกุศล
(2) กรมการต่างประเทศ มีหน้าที่ออกหนังสือรับรองประกอบพิธีการศุลกากร สำหรับรถยนต์ที่ใช้แล้วทุกชนิดที่นำเข้าโดยผู้มีเอกสิทธิทางการทูต สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล หรือองค์การระหว่างประเทศ รถยนต์ที่ใช้แล้วทุกชนิดที่รับการยกเว้นภาษีหรือชดเชยภาษี และรถบริจาคที่นำเข้าตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ
(3) กรมสรรพสามิต มีหน้าที่ออกหนังสือรับรองประกอบพิธีการศุลกากรสำหรับรถยนต์ที่ใช้แล้วทุกชนิดที่นำเข้าเพื่อเป็นต้นแบบในการผลิตหรือการศึกษาวิจัย
(4) กรมศิลปากร มีหน้าที่ออกรับรองประกอบพิธีการศุลกากร สำหรับรถยนต์ที่ใช้แล้วทุกชนิดที่นำเข้าเพื่อจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ เพื่อการวิจัย การแข่งขัน ตัวอย่าง หรือจัดแสดง
(5) กรมศุลกากร มีหน้าที่ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายศุลกากรสำหรับรถยนต์ที่ใช้แล้วทุกชนิดที่นำเข้าเป็นการชั่วคราว รถยนต์ที่นำเข้าเพื่อปรับสภาพแล้วส่งออก และรถยนต์ที่ไม่สามารถจดทะเบียนหรือนำเข้าไปในต่างประเทศได้
(6) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีหน้าที่ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายการนิคมอุตสาหกรรมฯ สำหรับรถยนต์ที่ใช้แล้วทุกชนิดที่นำเข้าเพื่อปรับสภาพแล้วส่งออก (เขตอุตสาหกรรมส่งออก)
(7) กระทรวงกลาโหม มีหน้าที่ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายของกระทรวงกลาโหม สำหรับรถยนต์ที่ใช้แล้วทุกชนิดที่เป็นยุทธภัณฑ์
5. กำหนดสภาพบังคับในกรณีที่ฝ่าฝืนการนำรถยนต์ที่ใช้แล้วเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนฯ ให้กรมศุลกากรทำลาย หรือส่งรถยนต์ดังกล่าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 พฤษภาคม 2562
Click Donate Support Web