ข้อเสนอการปรับปรุงอัตราและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนรายเดือนและเบี้ยประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจและกรรมการอื่นในคณะกรรมการชุดย่อย คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานอื่น
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Wednesday, 14 August 2019 13:10
- Hits: 2488
ข้อเสนอการปรับปรุงอัตราและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนรายเดือนและเบี้ยประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจและกรรมการอื่นในคณะกรรมการชุดย่อย คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานอื่น
เรื่อง ข้อเสนอการปรับปรุงอัตราและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนรายเดือนและเบี้ยประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจและกรรมการอื่นในคณะกรรมการชุดย่อย คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานอื่น
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอดังนี้
1. เห็นชอบร่างอัตราและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนรายเดือนและเบี้ยประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจ และกรรมการอื่นในคณะกรรมการชุดย่อย คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานอื่น (ร่างอัตราและหลักเกณฑ์) เพื่อให้ กค. ดำเนินการแจ้งเวียน และสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับรัฐวิสาหกิจเพื่อถือปฏิบัติต่อไป โดยให้รัฐวิสาหกิจปฏิบัติตามร่างอัตราและหลักเกณฑ์ฯ
2. ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2556 เรื่อง ผลการประชุมของคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ในคราวประชุมครั้งที่ 4/2556 เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2556 ในส่วนของอัตราและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนและเบี้ยประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจ
สาระสำคัญของเรื่อง
กค. รายงานว่า
1. ปัจจุบันกรรมการรัฐวิสาหกิจได้รับค่าตอบแทนรายเดือนและเบี้ยประชุมตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2556 โดยมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนใน 3 ส่วนด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วย
(1) ค่าตอบแทนรายเดือนซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบแทนการได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ
(2) เบี้ยประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อตอบแทนการเข้าร่วมและการปฏิบัติหน้าที่ในการประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจและ
(3) โบนัสในฐานะกรรมการซึ่งเป็นการตอบแทนการทำหน้าที่เป็นกรรมการ (หลักเกณฑ์การจัดสรรโบนัสให้กับกรรมการ ให้รัฐวิสาหกิจไปถือปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง) อย่างไรก็ดี การใช้อัตราและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนดังกล่าวปรากฏข้อจำกัดบางประการจนเป็นเหตุให้มีข้อหารือจากรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น การบังคับใช้มติคณะรัฐมนตรีกับบริษัทลูกของรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น ประกอบกับปัจจุบันมีรัฐวิสาหกิจหลายแห่งที่ต้องปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มบทบาทในการจัดทำบริการสาธารณะตามภารกิจหน้าที่ และ ตามนโยบายของรัฐบาล หรือดำเนินกิจการในอุตสาหกรรมที่สภาพการแข่งขันมีความเปลี่ยนแปลงและความเข้มข้นมากขึ้น รวมทั้งมีรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในระหว่างการฟื้นฟูกิจการ จึงจำเป็นต้องอาศัยความรู้ความสามารถของกรรมการรัฐวิสาหกิจในการกำกับดูแลกิจการเป็นพิเศษอย่างใกล้ชิด ซึ่งอัตราค่าตอบแทนและเบี้ยประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจในปัจจุบันยังไม่สามารถดึงดูดบุคคลที่มีความรู้ความสามารถจากภาคเอกชนได้ ดังนั้น กค. (สคร.) จึงได้ดำเนินการจัดทำข้อเสนอการปรับปรุงอัตราและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนรายเดือนและเบี้ยประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจและกรรมการอื่นในคณะกรรมการชุดย่อย คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานอื่น ให้ชัดเจนและสอดคล้องเหมาะสมกับบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ โดย คนร. ในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2562 มีมติเห็นชอบร่างอัตราและหลักเกณฑ์ฯ ตามที่ กค. (สคร.) เสนอ
2. ร่างอัตราและหลักเกณฑ์ดังกล่าว (ตามข้อ 1) ใช้บังคับรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง (รัฐวิสาหกิจภายใต้ การกำกับดูแลของ กค. และกระทรวงเจ้าสังกัดโดยตรง ทั้งที่ได้เคยรับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีในอดีตหรือที่จัดตั้งขึ้นก่อนหรือหลังอัตราและหลักเกณฑ์ดังกล่าวที่มีผลใช้บังคับ) และให้มีผลใช้บังคับในเดือนถัดไปหลังจากวันที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ รวมทั้งให้ กค. กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจประเภทบริษัทให้ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์นี้ตามสิทธิของผู้ถือหุ้น
2.1 รายชื่อรัฐวิสาหกิจที่แบ่งกลุ่มสำหรับการจ่ายค่าตอบแทนรายเดือนและเบี้ยประชุมกรรมการ
กลุ่ม 1 รัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
1. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
2. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
3. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)**
4. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
5. บริษัท อสมท จำกัด มหาชน
กลุ่ม 2 รัฐวิสาหกิจประเภทสถาบันการเงิน
1. ธนาคารออมสิน
2. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
3. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
4. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
5. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
6. บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
7. บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย
8. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย*
กลุ่ม 3 รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่
1. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
2. การไฟฟ้านครหลวง
3. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
4. บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)**
5. บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)**
6. การประปาส่วนภูมิภาค
7. การประปานครหลวง
8. การรถไฟแห่งประเทศไทย**
9. องค์การเภสัชกรรม
10. การเคหะแห่งชาติ
11. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งปรเทศไทย
12. การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
13. การท่าเรือแห่งประเทศไทย
14. การยาสูบแห่งประเทศไทย
15. บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด
16. บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
17. การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
18. การยางแห่งประเทศไทย*
กลุ่ม 4 รัฐวิสาหกิจขนาดกลาง
1. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
2. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
3. บริษัท ขนส่ง จำกัด
4. องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ**
5. องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย
6. องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร
7. สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
8. การกีฬาแห่งประเทศไทย
9. องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
10. สำนักงานธนานุเคราะห์กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
11. องค์การสุรา กรมสรรพสามิต
12. องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ
13. องค์การคลังสินค้า
14. บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด*
กลุ่ม 5 รัฐวิสาหกิจขนาดเล็ก
1. บริษัทอู่กรุงเทพ กำกัด
2. องค์การสวนสัตว์
3. องค์การจัดการน้ำเสีย
4. องค์การสะพานปลา
5. องค์การตลาด
6. สถาบันการบินพลเรือน
7. โรงพิมพ์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8. องค์การสวนพฤกษศาสตร์
9. โรงงานไพ่ กรมสรรพสามิต
10. บริษัท สหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว จำกัด*
11. บริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลาม แห่งประเทศไทย จำกัด*
*รัฐวิสาหกิจที่ไม่ปรากฏชื่อในมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2556 ได้แก่ บริษัท ธนารักษ์ พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด บริษัทบริหารสินทรัพย์ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด การยางแห่งประเทศไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
**บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) การรถไฟแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ปัจจุบันอยู่ในกลุ่มรัฐวิสาหกิจที่ต้องฟื้นฟูกิจการหรือ อยู่ในแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ (27 กุมภาพันธ์ 2562)
2.2 การจ่ายค่าตอบแทนรายเดือนกรรมการฯ
2.2.1 อัตราค่าตอบแทนรายเดือน
กลุ่มรัฐวิสาหกิจ / ค่าตอบแทนรายเดือนฯ ไม่เกิน (บาท/เดือน)
1. รัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ / เป็นไปตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น
2. รัฐวิสาหกิจประเภทสถาบันการเงิน / 10,000
3. รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ / 10,000
4. รัฐวิสาหกิจขนาดกลาง / 8,000
5. รัฐวิสาหกิจขนาดเล็ก / 6,000
2.2.2 ให้รัฐวิสาหกิจจ่ายค่าตอบแทนรายเดือนให้กับผู้ที่ดำรงตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจ ตามสัดส่วนระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งเพื่อเป็นการตอบแทนการดำรงตำแหน่งกรรมการรัฐวิสาหกิจ โดยจ่ายให้ประธานกรรมการรัฐวิสาหกิจในอัตรา 2 เท่าของค่าตอบแทนรายเดือนกรรมการรัฐวิสาหกิจ
2.3 การจ่ายเบี้ยประชุมกรรมการฯ
2.3.1 อัตราค่าเบี้ยประชุม
กลุ่มรัฐวิสาหกิจ / เบี้ยประชุมกรรมการฯ ไม่เกิน (บาท/เดือน)
1. รัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ / เป็นไปตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น
2. รัฐวิสาหกิจประเภทสถาบันการเงิน / 20,000
3. รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ / 20,000
4. รัฐวิสาหกิจขนาดกลาง / 16,000
5. รัฐวิสาหกิจขนาดเล็ก / 12,000
2.3.2 ให้รัฐวิสาหกิจจ่ายเบี้ยประชุมให้ประธานในที่ประชุมในอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ของเบี้ยประชุมกรรมการ
2.3.3 กรณีการประชุมคณะกรรมการชุดย่อย คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานอื่น ที่แต่งตั้งโดยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี หรือคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ให้รัฐสาหกิจจ่ายเฉพาะเบี้ยประชุมให้กับกรรมการรัฐวิสาหกิจและกรรมการอื่นที่เข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนเท่ากัน ในอัตรา 0.5 เท่าของเบี้ยประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
2.3.4 กรณีการประชุมคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ ให้รัฐวิสาหกิจจ่ายเบี้ยประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจในคณะกรรมการแต่ละคณะเป็นรายครั้ง เดือนละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ ในกรณีมีเหตุสมควร อาจพิจารณาจ่ายเบี้ยประชุมได้เกินกว่า 1 ครั้งต่อเดือน แต่ต้องไม่เกิน 15 ครั้งต่อปี
2.3.5 กรณีการประชุมคณะกรรมการชุดย่อย คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานอื่นฯ ให้รัฐวิสาหกิจจ่ายเบี้ยประชุมให้กับกรรมการรัฐวิสาหกิจและกรรมการอื่นที่ไม่ใช่บุคลากรของรัฐวิสาหกิจที่เข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนเท่ากัน รวมแล้วไม่เกิน 2 คณะ คณะละไม่เกิน 1 ครั้งต่อเดือน เว้นแต่กฎหมาย ระเบียบหรือมติคณะรัฐมนตรี ได้กำหนดอัตราหรือหลักเกณฑ์ในการจ่ายประโยชน์ตอบแทนเป็นอย่างอื่น
2.3.6 หากกรรมการอื่นนั้นเป็นบุคลากรของรัฐวิสาหกิจ และการประชุมนั้นในทางปฏิบัติของรัฐวิสาหกิจถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติงานในหน้าที่ของบุคลากรนั้น บุคลากรนั้นไม่ได้รับเบี้ยประชุมเนื่องจากเป็นการปฏิบัติงานในหน้าที่
2.4 กรณีที่รัฐวิสาหกิจประสบปัญหาและต้องอยู่ในแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ ตามมติ คนร. หรือโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีให้รัฐวิสาหกิจจ่ายค่าตอบแทนรายเดือนและเบี้ยประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจ ตามข้อ 2.2 และ 2.3 ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจให้รัฐวิสาหกิจจ่ายเบี้ยประชุมกรรมการรัฐวิสาหกิจเดือนละไม่เกิน 2 ครั้งต่อเดือน และในการประชุมคณะกรรมการชุดย่อย คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานอื่น ให้รัฐวิสาหกิจจ่ายเบี้ยประชุมกรรมการ รวมแล้วไม่เกิน 2 คณะ คณะละไม่เกิน 2 ครั้งต่อเดือน เมื่อ คนร. หรือคณะรัฐมนตรี หรือ คนร. โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี แล้วแต่กรณี มีมติให้รัฐวิสาหกิจพ้นจากแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจแล้วให้รัฐวิสาหกิจจ่ายค่าตอบแทนรายเดือนและเบี้ยประชุมกรรมการตามหลักเกณฑ์ในข้อ 2.2 และ 2.3 ในเดือนถัดไปนับจากวันที่ได้มีมติ
2.5 กรณีบริษัทลูกหรือบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจ ให้รัฐวิสาหกิจพิจารณาอัตราและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนรายเดือนและเบี้ยประชุมนี้
2.6 กรณีรัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้นใหม่เป็นการเฉพาะโดยกฎหมายหรือจัดตั้งเป็นบริษัทซึ่ง กค. ถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ให้ กค. กำหนดกลุ่มให้กับรัฐวิสาหกิจเพื่อให้รัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติตามอัตราและหลักเกณฑ์ดังกล่าวนี้
2.7 หากรัฐวิสาหกิจแห่งใดจะไม่ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์นี้หรือจะเปลี่ยน กลุ่มรัฐวิสาหกิจจากที่กำหนดไว้ จะต้องขอความเห็นชอบจาก กค. หรือต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์การเปลี่ยนกลุ่มรัฐวิสาหกิจตามที่ กค. กำหนด แล้วแต่กรณี ก่อนดำเนินการตามกฎหมายจัดตั้งรัฐวิสาหกิจหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
2.8 อัตราข้างต้นเป็นอัตราขั้นสูงสุดในการพิจารณากำหนดและปรับปรุงค่าตอบแทนรายเดือนและเบี้ยประชุมคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจฯ ซึ่งรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งจะต้องพิจารณาถึงฐานะการเงินและความสามารถในการจ่ายขององค์กรเป็นหลักโดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐวิสาหกิจที่ใช้เงินงบประมาณ ขอให้พิจารณาถึงความเหมาะสมของภาระของงบประมาณประกอบด้วย เพื่อมิให้มีผลกระทบต่อฐานะการเงินขององค์กร ทั้งนี้ การพิจารณากำหนดและปรับปรุงค่าตอบแทนรายเดือนและเบี้ยประชุมตามอัตราและหลักเกณฑ์นี้จะไม่มีผลใช้บังคับจนกว่าจะได้ดำเนินการที่จำเป็นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว
2.9 กรณีมีปัญหาการตีความการใช้บังคับอัตราและหลักเกณฑ์นี้ให้รัฐวิสาหกิจเสนอเรื่องมายัง กค. เพื่อวินิจฉัยชี้ขาด
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 เมษายน 2562
Click Donate Support Web