ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การสวนสัตว์ พ.ศ. ….
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 13 August 2019 10:09
- Hits: 3234
ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การสวนสัตว์ พ.ศ. ….
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การสวนสัตว์ พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้แก้ไขร่างมาตรา 6 (3) เป็น “ให้องค์การสวนสัตว์กู้ยืมเงิน ซึ่งถ้าเป็นจำนวนเงินเกินกว่า 50 ล้านบาท ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน” ตามมติที่ประชุมที่มีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธาน แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา
1. กำหนดให้จัดตั้งองค์การสวนสัตว์ เรียกโดยย่อว่า 'อสส.' มีวัตถุประสงค์ในการจัดดำเนินการ ส่งเสริม รวบรวมสัตว์นานาชนิดไว้ เพื่อประโยชน์ในการอนุรักษ์ การศึกษา การวิจัย และอำนวยบริการแก่ประชาชนในระดับมาตรฐานสากล มีอำนาจกระทำกิจการต่าง ๆ ภายในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์ และสามารถกู้ยืมเงิน ซึ่งถ้าเป็นจำนวนเงินเกินกว่า 100 ล้านบาท ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน (ตามมติสรุปผลการประชุมของรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุฯ) เห็นว่า ควรให้แก้ไขเป็น “ให้ อสส. กู้ยืมเงิน ซึ่งถ้าเป็นจำนวนเงินเกินกว่า 50 ล้านบาท ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน”)
2. กำหนดให้ อสส. มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานครหรือจังหวัดอื่นตามความเหมาะสมและจะตั้งสำนักงานสาขาหรือตัวแทนขึ้น ณ ที่ใดในราชอาณาจักรก็ได้ และใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า ‘THE ZOOLOGICAL PARK ORGANIZATION’ เรียกโดยย่อว่า ‘ZPO’ และจะให้มีตราเครื่องหมายของ อสส. ตามที่คณะกรรมการกำหนดก็ได้
3. กำหนดให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ ประกอบด้วยประธานกรรมการคนหนึ่งและกรรมการอื่นอีกไม่น้อยกว่า 6 คน แต่ไม่เกิน 10 คน เป็นผู้บริหารกิจการองค์การและให้ผู้อำนวยการเป็นกรรมการและเลขานุการโดยตำแหน่ง โดยให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา
4. กำหนดให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้กำหนดเงินผลประโยชน์ตอบแทนสำหรับประธานกรรมการ กรรมการ และผู้อำนวยการ โดยประธานกรรมการ กรรมการ ผู้อำนวยการและพนักงาน อาจได้รับเงินบำเหน็จ หรือเงินรางวัลตามระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
5. กำหนดให้รายได้ที่ได้รับในปีหนึ่ง ๆ ให้นำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เงินลงทุนหรือเงินร่วมทุนเพื่อกิจการของ อสส. และเงินสมทบกองทุนสำหรับจ่ายสงเคราะห์ผู้ปฏิบัติงานในองค์การ เงินบำเหน็จและรางวัล ในกรณีมีกำไรเบื้องต้น แก่กรรมการและพนักงาน เงินสะสมไว้เป็นเงินสำรอง ตลอดจนเงินทุนตามที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เหลือเท่าใดให้นำส่งเป็นรายได้ของรัฐ แต่ถ้ารายได้มีจำนวนไม่พอสำหรับรายจ่ายและ อสส. ไม่สามารถหาเงินจากทางอื่นได้ รัฐบาลพึงจ่ายเงินให้แก่ อสส. เท่าจำนวนที่จำเป็น (ในประเด็นนี้กระทรวงการคลัง (กค.) ชี้แจงว่า รายได้ที่ อสส. ได้รับจากการดำเนินกิจการให้ตกเป็นของ อสส. สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ นั้น เป็นหลักการเดียวกันกับพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การสวนสัตว์ พ.ศ. 2497 จึงเห็นชอบด้วย)
6. กำหนดให้พนักงานและลูกจ้างของ อสส. ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การสวนสัตว์ พ.ศ. 2497 ที่มีอยู่ก่อนวันที่จะมีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การสวนสัตว์ขึ้นใหม่ ให้ผู้นั้นเป็นพนักงานและลูกจ้างขององค์การต่อไป และผู้ใดดำรงตำแหน่งขั้น หรือระดับใดตามที่ระบุไว้ก่อนวันที่จะมีการประกาศใช้ พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การสวนสัตว์ขึ้นใหม่ ให้ผู้นั้นดำรงตำแหน่ง ขั้น หรือระดับนั้นต่อไป
7. กำหนดให้ถ่ายโอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณของสำนักงานพัฒนา พิงคนคร (องค์การมหาชน) (สพค.) ในส่วนของสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไปเป็นของ อสส. ทส.
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 เมษายน 2562
Click Donate Support Web