ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อโครงการอ่านสร้างชาติ: ซื้อหนังสือลดหย่อนภาษี (ช้อปหนังสือช่วยชาติ) (วธ.)
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Tuesday, 16 April 2019 19:07
- Hits: 2591
ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อโครงการอ่านสร้างชาติ: ซื้อหนังสือลดหย่อนภาษี (ช้อปหนังสือช่วยชาติ) (วธ.)
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เสนอผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อโครงการอ่านสร้างชาติ : ซื้อหนังสือลดหย่อนภาษี (ช้อปหนังสือช่วยชาติ) ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2561 – 16 มกราคม 2562 ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (4 ธันวาคม 2561) เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะการสนับสนุนผลผลิตภาคการเกษตร การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่นของชุมชน
เพื่อให้ผู้มีเงินได้ที่เป็นบุคคลธรรมดาสามารถนำค่าหนังสือที่ซื้อจากผู้ประกอบการที่ได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลไปหักเป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติคณะกรรมการบูรณาการการส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ในการประชุมครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 ให้รายงานผลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และที่ประชุมมีมติให้เสนอคณะรัฐมนตรี ดังนี้
1. รายงานผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน (กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,547 คน) ต่อโครงการอ่านสร้างชาติ : ซื้อหนังสือลดหย่อนภาษี (ช้อปหนังสือช่วยชาติ) ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้น การดำเนินโครงการ วธ. (กรมส่งเสริมวัฒนธรรม) ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ ได้ร่วมกับสวนดุสิตโพลจัดทำขึ้น โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
หัวข้อ / ความเห็น / ร้อยละ
การรับทราบโครงการ
ทราบ
82.55
ไม่ทราบ
17.45
ช่องทางรับทราบโครงการฯ
โทรทัศน์
40.33
สื่อโซเซียล (เช่น Facebook Pantip เป็นต้น
31.84
ความคิดเห็นต่อโครงการฯ
เห็นด้วยมากที่สุด เนื่องจากเป็นมาตรการที่ดี
มีประโยชน์ มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และยังช่วยส่งเสริมการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย
91.27
ทำให้ประชาชนเกิดความสนใจอยากอ่านหนังสือมากขึ้น
67.87
ความพึงพอใจต่อโครงการฯ
ส่วนใหญ่ค่อนข้างพึงพอใจ
60.37
ไม่พึงพอใจเลย
2.33
ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการฯ
ทำให้ประชาชนรักการอ่านมากขึ้น
52.28
ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
34.18
ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เห็นว่ารัฐบาลควรให้การสนับสนุนหรือจัดให้มีโครงการลักษณะนี้ต่อไป เนื่องจากเป็นมาตรการหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และยังเป็นการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและการเรียนรู้ให้แก่ประชาชน รวมถึงควรขยายเวลาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีและลดวงเงินในการซื้อเพื่อประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจแต่มีรายได้น้อยด้วย
2. รายงานผลการสำรวจยอดจำหน่ายหนังสือของสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) พบว่าการใช้มาตรการภาษีฯ ของรัฐบาลครั้งนี้ส่งผลดีต่อธุรกิจหนังสือ โดยช่วยให้มีรายได้จากการจำหน่ายหนังสือและสิ่งพิมพ์ของร้านหนังสือเชนสโตร์ (Chain Store) ร้านหนังสืออิสระ และการขายทางออนไลน์ของสำนักพิมพ์เพิ่มขึ้นจากรายได้ปกติก่อนดำเนินมาตรการภาษีฯ
การเติบโตเฉลี่ยของยอดขายของสำนักพิมพ์และร้านหนังสือเชนสโตร์
ประเภทร้าน / การเติบโตเฉลี่ย / ยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2560
สำนักพิมพ์ขนาดใหญ่ / ร้อยละ 8
สำนักพิมพ์ขนาดกลาง / ร้อยละ 2.5 / 134 ล้านบาท
สำนักพิมพ์ขนาดเล็ก / ร้อยละ 2.5
ร้านหนังสือเชนสโตร์ / ร้อยละ 35 / 195 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอแนะที่เห็นควรสนับสนุนมาตรการภาษีฯ ตลอดทั้งปีและเพิ่มวงเงินค่าซื้อหนังสือเพื่อเป็นแรงจูงใจในการซื้อหนังสือเพื่อบริจาคหรือกิจกรรม CSR ให้สามารถลดหย่อนภาษีได้ ควรมีการประชาสัมพันธ์มากกว่านี้ และควรเผื่อเวลาประกาศใช้มาตรการภาษีฯ มากกว่านี้ เพื่อที่สำนักพิมพ์จะได้มีเวลาในการเตรียมหนังสือและจัดส่งหนังสือไปยังร้านหนังสือเชนสโตร์ทั่วประเทศ รวมถึงควรเปิดโอกาสให้ร้านค้าที่จดทะเบียนแบบบุคคลธรรมดาเข้าร่วมด้วย
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 เมษายน 2562
Click Donate Support Web