WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ขอความเห็นชอบโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างฝายราษีไศลและฝายหัวนา จังหวัดศรีสะเกษ โดยดำเนินโครงการชลประทานเกษตรทฤษฎีใหม่ประยุกต์

GOV4 copyขอความเห็นชอบโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างฝายราษีไศลและฝายหัวนา จังหวัดศรีสะเกษ โดยดำเนินโครงการชลประทานเกษตรทฤษฎีใหม่ประยุกต์

 

       เรื่อง ขอความเห็นชอบโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างฝายราษีไศลและฝายหัวนา จังหวัดศรีสะเกษ โดยดำเนินโครงการชลประทานเกษตรทฤษฎีใหม่ประยุกต์ ระยะที่ 1

      คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) ประธานกรรมการในคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศล และคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนาเสนอ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างฝายราษีไศลและฝายหัวนา จังหวัดศรีสะเกษ โดยโครงการชลประทานเกษตรทฤษฎีใหม่ประยุกต์ ระยะที่ 1 วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 13,250,000 บาท และมอบหมายให้กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศลและคณะกรรมการแก้ไขปัญหาโครงการฝายหัวนา เป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินโครงการต่อไป

       สำหรับ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ให้กรมชลประทานพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จากโครงการ/รายการที่ดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว และมีงบประมาณเหลือจ่าย และ/หรือรายการที่หมดความจำเป็น และ/หรือรายการที่คาดว่าจะไม่สามารถดำเนินการได้ทันในปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 มาดำเนินการ โดยให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ (สงป.) ในรายละเอียดค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมและสอดคล้องกับข้อเท็จจริงตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ควรมีการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ตลอดจนให้มีการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลโครงการด้วย เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่า ตามความเห็นของ สงป.

       โครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างฝายราษีไศลและฝายหัวนา จังหวัดศรีสะเกษ โดยดำเนินโครงการชลประทานเกษตรทฤษฎีใหม่ประยุกต์ ระยะที่ 1 มีสาระสำคัญ ดังนี้

หัวข้อ / รายละเอียด

วัตถุประสงค์โครงการ

     เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำไว้ใช้พื้นที่ทำการเกษตรกรรมบรรเทาปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย และสนับสุนนองค์ความรู้ที่สำคัญสำหรับทำเกษตรกรรมแบบอินทรีย์ให้เกษตรกรสามารถดำเนินการทำเกษตรกรรมยั่งยืนแบบพึ่งพาตนเอง ทำให้ช่วยลดต้นทุนการทำเกษตรกรรม

ระยะเวลาดำเนินการ / 180 วัน

 

พื้นที่ดำเนินการ (จังหวัด / อำเภอ / ตำบล)

1. พื้นที่ฝายราษีไศล จำนวน 3 จังหวัด

ศรีสะเกษ / ราษีไศล / เมืองคง หนองแค หนองอึ่ง บัวหุ่ง สร้างปี่ ส้มป่อย ด่านบึงบูรพ์ บึงบูรพ์

สุรินทร์ ท่าตูม /โพนครก / หนองบัว / รัตนบุรี /ทับใหญ่ ยางสว่าง ดอนแรด

ร้อยเอ็ด / โพนทราย / ยางคำ สามขา

2. พื้นที่ฝายหัวนา จำนวน 2 จังหวัด

ศรีสะเกษ / กันทรารมย์ / โนนสังข์

อุบลราชธานี / วารินชำราบ / ท่าลาด ห้วยขยุง

สำโรง / โนนกาเล็น

 

เป้าหมาย

       พัฒนาพื้นที่การเกษตรนอกเขตชลประทาน (ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของเกษตรกรที่มีเอกสารสิทธิ์) ตามแนวทางของศาสตร์พระราชา (เกษตรทฤษฎีใหม่) จำนวน 500 ไร่ สามารถกักเก็บน้ำในพื้นที่ทำการเกษตรได้เพิ่มขึ้น 838,000 ลูกบาศก์เมตร

 

หน่วยงานที่รับผิดชอบ

กรมชลประทาน กษ.

วิธีดำเนินการ

     (1) ให้ความรู้และสร้างการมีส่วนร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแนวคิดและเทคนิคในการพัฒนาแปลงเกษตรกรตามหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ ก่อนที่จะรับสมัครเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ

     (2) รับสมัครเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ และสำรวจตรวจสอบความเหมาะสมของแปลงเกษตรกรที่สมัครเข้าร่วมโครงการ รวมถึงความพร้อมของเกษตรกรที่จะให้ดำเนินการขุดแหล่งกักเก็บน้ำ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเกษตรกรต้องสมัครใจเข้าร่วมโครงการเท่านั้น โดยที่ประชุมคณะกรรมการฯ ตัวแทนจากภาคประชาชนแจ้งว่า เกษตรกรในพื้นที่ส่วนใหญ่เห็นด้วยและพร้อมที่จะสมัครเข้าร่วมโครงการฯ

      (3) พัฒนาปรับปรุงแปลงให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งจะก่อสร้างด้วยการขุดดินโดยใช้เครื่องจักรภายในพื้นที่ของเกษตรกร ตามรูปแบบเกษตรกรทฤษฎีใหม่ ประมาณร้อยละ 30 ของพื้นที่เกษตรกรต่อราย เพื่อให้ใช้เป็นแหล่งกัก เก็บน้ำ

 

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

      (1) พัฒนาพื้นที่การเกษตรนอกเชตชลประทาน (ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของเกษตรกรที่มีเอกสารสิทธิ์) ตามแนวทางศาสตร์พระราชาเกษตรทฤษฎีใหม่ จำนวน 500 ไร่

               (2) สามารถกักเก็บน้ำในพื้นที่ทำการเกษตรได้เพิ่มขึ้น 838,000 ลูกบาศก์เมตร

               (3) เป็นการสนับสนุนแหล่งน้ำที่ถือเป็นปัจจัยการผลิตสำคัญให้แก่เกษตรกร เกษตรกรจึงสามารถทำการเกษตรอินทรีย์แบบครบวงจรได้ตลอดปี พึ่งพาตนเองได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

               (4) เป็นการสร้างความมั่นคงด้านรายได้แก่เกษตรกร และส่งเสริมการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

               (5) เป็นการแก้ไขปัญหาความยากจน ลดอัตราการว่างงาน แรงงานคืนถิ่น

    ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 มีนาคม 2562

Click Donate Support Web

ais 790x90

GC 950x120

sme 720x90SIAM790x90

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!