WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ร่างแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยโครงการบูรณาการด้านไฟฟ้าระหว่างลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์

ร่างแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยโครงการบูรณาการด้านไฟฟ้าระหว่างลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์

    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอ ดังนี้

    1. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยโครงการบูรณาการด้านไฟฟ้าระหว่างลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์

     2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน) เป็นผู้ให้การรับรองในร่างแถลงการณ์ร่วมฯ นี้ ร่วมกับรัฐมนตรีพลังงานของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนได้

    3. เห็นชอบให้ พน. สามารถพิจารณาปรับปรุงถ้อยคำในร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญได้ตามความเหมาะสมก่อนที่จะมีการรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ดังกล่าวในที่ประชุมได้

    สาระสำคัญของร่างแถลงการณ์ร่วมฯ จะประกอบด้วยสาระหลักคือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประเทศไทย สหพันธรัฐมาเลเซีย และสาธารณรัฐสิงคโปร์ เห็นชอบร่วมกันในการศึกษาความเป็นไปได้ในการซื้อขายไฟฟ้าข้ามแดนระหว่าง 4 ประเทศ โดยมีการดำเนินงานหลัก คือ การจัดตั้งคณะทำงานโครงการนำร่องสำหรับการศึกษาในเรื่องการซื้อขายไฟฟ้าข้ามแดนระหว่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว – ประเทศไทย – สหพันธรัฐมาเลเซีย – สาธารณรัฐสิงคโปร์ (Lao PDR, Thailand, Malaysia, Singapore Power Integration Project Working Group : LMTS PIP Working Group) เพื่อที่จะศึกษาถึงศักยภาพ และพิจารณาความเป็นไปได้ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ถึงการซื้อขายไฟฟ้าไปยังสาธารณรัฐสิงคโปร์ ผ่านโครงข่ายที่มีอยู่เดิม และคณะทำงานจะมีหน้าที่ในการศึกษานโยบาย กฎระเบียบ และประเด็นในเชิงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายไฟฟ้าข้ามแดน นอกจากการดำเนินงานข้างต้นจะช่วยส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงานแล้ว ยังจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสามารถนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายของอาเซียนในการสร้างความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้าอีกด้วย

     พน. พิจารณาแล้วเห็นว่า ร่างแถลงการณ์ร่วมฯ เป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการจัดทำโครงการนำร่องสำหรับการศึกษาในเรื่องการซื้อขายไฟฟ้าข้ามแดน เพื่อส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงาน โดยวางกรอบแนวทางกว้าง ๆ ในการดำเนินงานและไม่มีข้อผูกมัด รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดพันธกรณีทางกฎหมาย จึงไม่มีผลเป็นการผูกพันโดยเจาะจงแก่ประเทศไทยในด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือการค้าการลงทุนอย่างกว้างขวางแต่อย่างใด จึงมิใช่สนธิสัญญาระหว่างประเทศและหนังสือสัญญาที่จะต้องขอรับความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามมาตรา 23 วรรคสองและวรรคสามของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557

 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 23 กันยายน 2557

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!