ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. ….
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Sunday, 09 September 2018 23:00
- Hits: 2006
ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. ….
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและรับทราบ ดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
2. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
3. ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรับความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปดำเนินการต่อไปด้วย
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว แบ่งออกเป็น 5 หมวด และบทเฉพาะกาลรวมทั้งสิ้น 28 มาตรา สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. กำหนดนิยามคำว่า 'ทุนสนับสนุนการวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม'หมายความว่า เงินสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐที่จัดสรรให้แก่ผู้รับทุน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม เพื่อให้ได้มาซึ่งผลงานวิจัยและนวัตกรรมตามพระราชบัญญัตินี้ และให้หมายรวมถึงเงินกองทุนที่หน่วยงานของรัฐจัดสรรให้แก่ผู้รับทุนเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน แต่ไม่รวมถึงเงินสนับสนุนที่ใช้เพื่อว่าจ้าง หรือร่วมดำเนินการวิจัยและพัฒนา หรือดำเนินการอื่นใดเพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้ เทคโนโลยี ต้นแบบ หรือผลลัพธ์อื่นใดจากการนี้อันเป็นการดำเนินการตามภารกิจปกติของหน่วยงาน
2. กำหนดให้หน่วยงานให้ทุนของรัฐสามารถให้ทุนวิจัยพัฒนาและนวัตกรรมแก่หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาคการศึกษา หน่วยงานภาคเอกชน หรือสถาบันวิจัยได้ และหน่วยงานผู้ให้ทุนสนับสนุนแก่หน่วยงานภาคเอกชนนั้น จะต้องพิจารณาว่าโครงการนั้นมีความเป็นไปได้สูงในการนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน หรือเป็นประโยชน์ต่อภาคการเกษตร สังคม ชุมชน และประชาชน
3. กำหนดให้หน่วยงานภาคเอกชนที่จะขอรับทุนวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม จะต้องเป็นนิติบุคคลที่มีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยไม่น้อยกว่าร้อยละห้าสิบเอ็ดของทุนจดทะเบียน และมีสถานประกอบการตั้งอยู่ในประเทศไทย
4. กำหนดให้สิทธิในผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกิดจากสัญญารับทุนสนับสนุนการวิจัย พัฒนาและนวัตกรรมตามพระราชบัญญัตินี้เป็นของผู้รับทุน โดยผู้รับทุนจะต้องรายงานผลงานวิจัยและนวัตกรรมให้ผู้ให้ทุนทราบก่อนดำเนินการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งนี้ หากผู้รับทุนไม่ประสงค์ถือครองสิทธิในผลงานวิจัยและนวัตกรรม ให้ผู้รับทุนทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งความประสงค์ไม่ถือครองสิทธิไปยังผู้ให้ทุน และให้สิทธิในผลงานวิจัยและนวัตกรรมเป็นของผู้ให้ทุน โดยการใช้ประโยชน์ในผลงานวิจัยและนวัตกรรมขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างผู้ให้ทุนและผู้รับทุนเป็นรายกรณี
5. กำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งมีปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นประธาน กรรมการโดยตำแหน่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ วาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ เช่น กำหนดนโยบายหรือมาตรการที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกิดจากการสนับสนุนทุนวิจัยพัฒนาและนวัตกรรมจากภาครัฐ และส่งเสริมและพัฒนาให้เกิดการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกิดจากการสนับสนุนทุนวิจัย พัฒนาและนวัตกรรมจากหน่วยงานภาครัฐไปใช้ประโยชน์
6. กำหนดให้ผู้รับทุนซึ่งถือครองสิทธิในผลงานวิจัยและนวัตกรรม หรือผู้รับโอนสิทธิจากผู้รับทุน ไม่ว่าจะเป็นการโอนสิทธิมาแล้วกี่ทอดก็ตาม มิได้ดำเนินการใด ๆ หรือไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีการดำเนินการใด ๆ เพื่อนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในระยะเวลาสองปี นับแต่วันที่รายงานผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ค้นพบต่อผู้ให้ทุน ให้สิทธิในผลงานวิจัยและนวัตกรรมกลับไปเป็นของผู้ให้ทุน โดยผู้ให้ทุนอาจดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนสิทธิในผลงานวิจัยและนวัตกรรมต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผลงานวิจัยและนวัตกรรมกลับไปเป็นของผู้ให้ทุน
7. กำหนดให้ในภาวะสงครามหรือในภาวะฉุกเฉิน หรือมีความจำเป็นเพื่อการเยียวยาด้านสาธารณสุข หรือความมั่นคง ความปลอดภัยของประเทศ หรือมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะตามที่กฎหมายกำหนด รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการมีอำนาจออกคำสั่งใช้สิทธิในผลงานวิจัยใด ๆ ที่เกิดจากทุนสนับสนุนของรัฐก็ได้ โดยเสียค่าตอบแทนที่เป็นธรรมแก่ผู้รับทุนซึ่งถือครองสิทธิในผลงานวิจัยและนวัตกรรม และต้องแจ้งให้ผู้รับทุนทราบเป็นหนังสือโดยไม่ชักช้า
8. กำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมภายใน 180 วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ในระหว่างที่ยังไม่มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ให้คณะกรรมการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมทำหน้าที่คณะกรรมการส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมไป พลางก่อน
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 กันยายน 2561