การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Sunday, 18 March 2018 22:51
- Hits: 5862
การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต
เรื่อง การจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต ซึ่งจะมีการลงนามในโอกาสที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศเดินทางมาเยือนประเทศไทย ในวันที่ 15 มีนาคม 2561
2. อนุมัติในหลักการให้ กต. มีหนังสือแจ้งฝ่ายบังกลาเทศเพื่อให้ความตกลงฯ มีผลใช้บังคับต่อไป
3. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างความตกลงฯ และหนังสือแจ้งให้ความตกลงฯ มีผลใช้บังคับ
4. ในกรณีที่ผู้ลงนามมิใช่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมอบหมายให้ กต. จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers)
5. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงฯ โดยไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้ กต. สามารถดำเนินการได้โดยนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
สาระสำคัญของร่างความตกลงดังกล่าว เป็นการให้สิทธิประโยชน์ตามความตกลงฯ แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตที่มีอายุใช้ได้ของแต่ละฝ่ายจะได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราเป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน นับจากวันที่เดินทางเข้าในกรณีผู้ถือหนังสือเดินทางทูตซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูตหรือทางกงสุล หรือเป็นผู้แทนของแต่ละฝ่ายประจำองค์การระหว่างประเทศในดินแดนของอีกฝ่ายหนึ่ง ตลอดจนสมาชิกในครอบครัวของบุคคลเหล่านี้ที่ถือหนังสือเดินทางทูตที่มีอายุใช้ได้ของแต่ละฝ่ายสามารถเดินทางเข้า พำนักและเดินทางออกจากดินแดนของอีกฝ่ายหนึ่ง โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตราเป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน และระยะเวลาพำนักเช่นว่านั้นจะได้รับการขยายไปจนสิ้นสุดวาระประจำการของบุคคลเหล่านั้น เมื่อมีคำร้องขอของ กต. ของแต่ละฝ่ายหรือสถานเอกอัครราชทูตของแต่ละฝ่ายที่มีเขตอาณาในดินแดนของอีกฝ่ายหนึ่ง
ทั้งนี้ บุคคลเหล่านั้นจะต้องไม่มีส่วนร่วมในการทำงาน การทำธุรกิจ และการทำกิจกรรมอื่นที่มีค่าตอบแทน อาทิ บุคคลเหล่านั้นจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่บังคับใช้อยู่ในดินแดนของภาคีคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจมีสิทธิที่จะปฏิเสธการเดินทางเข้าหรือยกเลิกการพำนักของบุคคลใด ๆ ที่ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราได้
ความตกลงนี้จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 60 นับแต่วันที่ภาคีคู่สัญญาได้รับแจ้งจากภาคีคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งสุดท้ายผ่านช่องทางการทูตยืนยันว่า ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนภายในที่จำเป็นของตนเพื่อให้ความตกลงมีผลใช้บังคับ ระยะเวลา 5 ปี และจะได้รับการขยายระยะเวลาออกไปอีกวาระละ 5 ปี เว้นแต่ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งจะบอกเลิก โดยแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 90 วัน
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 มีนาคม 256